แล้วกัน 'ปิยบุตร' เสียงอ่อย บอกตำแหน่งประธานสภาฯ ทำหน้าที่เพียงจัดวาระ-จัดการประชุม

24 มิ.ย.2566 - ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์กรณีการเจรจาระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล เรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ว่า ตามที่เห็นในข่าวนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่าจะมีการพูดคุยกันระหว่างคณะเจรจาของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลก็คิดว่าให้คณะเจรจาทั้งสองชุดนี้ไปคุยตกลงกันให้รู้เรื่อง ส่วนตนก็จะรอดูว่าท้ายที่สุดจะเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ตนในฐานะประชาชนอยากจะเห็นรัฐบาลเกิดขึ้นโดยเร็ว ซึ่งการเลือกประธานสภาครั้งนี้เป็นหมุดหมายสำคัญ ถ้าผ่านไปอย่างราบรื่นไม่มีข้อขัดแย้งมากนักก็อาจจะเป็นที่คาดหมายได้ว่า การตั้งรัฐบาลจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและตรงตามเจตนารมณ์ประชาชนที่ได้เลือกสองพรรคมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากตำแหน่งประธานสภาฯตกเป็นของเพื่อไทยจะยอมรับได้หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่าจุดยืนที่ผ่านมายืนยันมาตลอดว่าตำแหน่งประธานสภาจะต้องเป็นของพรรคที่มีส.สมากเป็นอันดับ 1 แต่ก็สุดแล้วแต่ว่าทั้ง 2 พรรคจะตกลงกันอย่างไรการแสดงความคิดเห็นในเวลานี้อาจจะกระทบกระทั่งกับการเจรจาของทั้งสองพรรคได้

เมื่อถามต่อว่าหากพรรคก้าวไกลไม่ได้ตำแหน่งประธานสภาก็อาจจะทำให้การเสนอกฎหมายมีปัญหาใช่หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า ตามข้อบังคับตำแหน่งประธานสภาฯเขียนไว้ว่าจะต้องมีความเป็นกลาง และเชื่อว่าพรรคจะคัดสรรเช่นนั้น ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคก้าวไกลเตรียมจะเสนอกฎหมาย 40 ฉบับนั้นขึ้นอยู่กับฉันทามติของสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้เกี่ยวกับตัวประธานสภาฯเพราะตำแหน่งนี้ทำหน้าที่เพียงจัดวาระ จัดการประชุมเท่านั้น

ถามอีกว่าพรรคก้าวไกลอาจมีความรู้ความสามารถ แต่ความเก๋าเกมในสภายังไม่ได้ ดังนั้น จึงยังไม่เหมาะสมที่จะได้รับตำแหน่งประธานสภา นายปิยบุตร กล่าวว่า การเมืองถึงเวลายุคใหม่ ก็ไม่แน่เสมอไป ถ้าประเมินจากอายุว่า คนอายุน้อยจะไม่เก๋า คนอายุมากจะเก๋า หรือประเมินจากความรู้ความสามารถ ความเฉียบแหลมจากการศึกษาข้อบังคับ การทันเกมการประชุมต่างๆ ส่วนตัวคิดว่าตัวอายุไม่ใช่ปัจจัยในการชี้วัด เพราะหากเป็นเช่นนั้นรัฐธรรมนูญต้องกำหนดไปเลยว่าส.ส.สมัยแรก สมัยสอง ห้ามเป็น และอาจกำหนดว่าคนเป็นประธานสภาต้องมีอายุมาก เมื่อทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมตามรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าส.ส.ทุกคนมีโอกาสเป็นประธานสภาทั้งสิ้น ถ้าสภาให้ความเห็นชอบ

ดังนั้น คนที่อายุ 25 ปีขึ้นไป จะเป็นส.ส.สมัยแรก สมัยสอง หรือเป็นมาสิบกว่าสมัยก็ขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุม และในอดีตเคยมีประธานสภาที่อายุน้อยมาแล้ว และทำผลงานได้ดี คือนายอุทัย พิมพ์ใจชน ที่มีอายุน้อยที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่าเกรงหรือไม่จะมีการหักหลังกันเอง หรือซีกฝ่ายรัฐบาลเดิมเสนอชื่อบุคคลขึ้นมาแข่งขัน และอาจทำให้เกิดความลังเลได้ นายปิยบุตร กล่าวว่า ในฐานะประชาชนที่ลงคะแนนให้พรรคก้าวไกล และเป็นผู้ช่วยหาเสียง คาดหวังว่ารัฐบาล 8พรรค จะตั้งรัฐบาลได้ และหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ถ้าเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นมาเมื่อใดหมายความว่า ความหวังของประชาชนที่ลงคะแนนให้พรรค กว่า 14 ล้านเสียง และความหวังที่ลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทยเกือบ 11 ล้านเสียง รวมกันแล้ว ประมาณ 26 ล้านเสียง ก็เท่ากับว่าประชุมสภาวันแรก ในวาระแรกก็ทำร้ายความหวังของประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่มีการเตรียมมวลชนมากดดันในการโหวตเลือกประธานสภา และนายกรัฐมนตรี ถือเป็นความกดดันทั้งในและนอกสภาหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า ไม่ทราบว่ามีการเตรียมมวลชนอย่างไร เราต้องยืนพื้นตามรัฐธรรมนูญ คือรับรองเสรีภาพการแสดงออกการชุมนุมโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ และการออกแบบสถาบันการเมือง คือ นำเจตจำนงของประชาชนที่อยู่ภายนอกมาทำให้เกิดผล แต่ถ้าสถาบันการเมืองไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้โดยเฉพาะที่เพิ่งเลือกตั้งเสร็จแล้วมีการขัดขวางเจตนารมณ์ ของประชาชน ก็เป็นธรรมดาที่ประชาชนจะเห็นความผิดปกติ ความไม่ยุติธรรม

"ดังนั้น ส.ส. ที่ได้รับเลือกครั้งนี้ จึงมีภารกิจพิเศษ ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ต้องช่วยกันทำให้การเมืองไทยกลับมาสู่ระบบปกติ แม้ส.ว.จะมีอำนาจอยู่แต่อีกไม่นานก็จะหมดวาระแล้ว ควรถือโอกาสครั้งนี้ช่วยกันทำให้เจตนารมณ์ของประชาชนที่ต้องการให้ใครเป็นรัฐบาลและนายกฯสามารถเกิดได้จริง"

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่เตรียมจะโดดเดี่ยวพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน นายปิยบุตร กล่าวว่า ได้ยินเช่นนี้ตั้งแต่หาเสียง และนับตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ถึงก้าวไกล เห็นว่าพร้อมทำหน้าที่ทั้งสองแบบ แต่ในรอบนี้ เขาตั้งใจจะเป็นรัฐบาลและนายกฯ และประชาชนก็ให้ความไว้วางใจด้วย จึงคิดว่าแม้จะมีความคิดในกลุ่มนักการเมืองและกลุ่มการเมืองที่ต้องการโดดเดี่ยวพรรคก้าวไกล แต่ตนเชื่อว่าพรรคจะไม่มีวันโดดเดี่ยวเพราะคะแนนเสียงที่ประชาชนให้มาจำนวนมาก และยังมีความพร้อมที่จะเป็นรัฐบาล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' การันตีไม่มีปัญหาพรรคร่วมเห็นต่าง

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานกานณ์ทางการเมือง ที่หลายคนถามรัฐบาลจะอยู่ครบ 4 ปีหรือไม่ ว่า หากดูจา

'ภูมิธรรม' เซ็ง 'เอ็มโอยู44' ถูกปลุกปั่นจนออกนอกอวกาศ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเอ็มโอยู 44 ว่า ตนยังยึดหลักเดิม เพราะควรใช้ความอดทนอดกลั้นและความเข้าใจ เพราะเอ็มโอยู 44 ซึ่งรัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไร

'อนุทิน​' โวรัฐบาลชุดนี้​ มีเสถียรภาพมากสุด เชื่ออยู่ครบเทอม

นายอนุทิน​ ชาญ​วี​ร​กูล​ ​รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณี