“เรืองไกร”สอนมวยกกต.คดีพิธาหลังไม่สอบตอนเป็นส.ส.ปี 62 หนุนส.ส.เข้าชื่อกัน1ใน10 ส่งศาลรธน.ตีความประกบเชื่อสว.ไม่เอาด้วยวืดนายกฯ
11 มิ.ย. 2566 – นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้ยื่นคำร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ตรวจสอบการถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี กกต.มีมติ 6 ต่อ 0 ตีตกคำร้อง โดยอ้างพรบ.การเลือกตั้งส.ส.ฯ มาตรา 51 และมาตรา 60 นั้น พอฟังได้เฉพาะกรณีประเด็นที่ร้องลักษณะต้องห้ามในคราวสมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อเมื่อ 4 เม.ย.2566 ที่ผ่านมาเท่านั้น แต่เนื่องจาก กกต. ไปตั้งเรื่องให้สอบทางอาญาตามมาตรา 151 ฐานรู้ว่าไม่มีสิทธิสมัคร ส.ส. ซึ่งอาจทำให้เข้าใจได้ว่า กกต. เห็นว่าการถือหุ้นสื่อตามคำร้องเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามตาม พรบ.การเลือกตั้งส.ส.มาตรา 42(3) ประกอบรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3)
ดังนั้น ในคำร้องยังมีประเด็นอื่นที่เป็นผลมาจากการถือหุ้นสื่อรวมอยู่ด้วย ซึ่ง กกต. ควรดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป เช่นสมาชิกภาพ ส.ส. เมื่อต้นปี2562 ของนายพิธา ที่เป็นส.ส.สมัยแรก สิ้นสุดลง หรือไม่ ทำไม กกต. ไม่ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 และตามพรบ.การเลือกตั้งส.ส.ฯ มาตรา 14 วรรคสอง ประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 89 วรรคสอง ให้ถือว่า ไม่มีการเสนอชื่อนายกฯ ใช่หรือไม่ ตัวอย่างแค่นี้ คงพอเป็นเหตุผลให้ กกต. ย้อนไปดูคำร้องให้ละเอียดว่า ยังมีงานที่ต้องทำตามหน้าที่และอำนาจต่อไป หรือไม่ จึงขอโปรดติดตามตอนต่อไป หลังวันจันทร์ที่ 12 มิ.ย. นี้
นายเรืองไกร ยังกล่าวอีกว่า เรื่องการส่งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยเรื่องการถือหุ้นดังกล่าวของนายพิธา นอกจากกกต.ส่งคำร้องไปตามช่องทางรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคท้ายแล้ว มาตรดังกล่าว ยังให้ ส.ส. สามารถเข้าชื่อกัน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยได้เช่นกัน เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 82 บัญญัติว่า ส.ส.มีสิทธิ์เข้าชื่อกัน หนึ่งในสิบเพื่อเสนอต่อประธานสภาฯ เพื่อร้องว่า สมาชิกภาพของสมาชิกคนใดคนหนึ่งแห่งสภาฯ สิ้นสุดลง เพราะมีคุณสมบัติต้องห้ามหรือฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ โดยเมื่อประธานสภาฯหลังได้รับคำร้อง ให้ส่งคำร้องนั้นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกผู้นั้นสิ้นสุดลงหรือไม่แต่การยื่นคำร้องดังกล่าว ต้องให้กกต.รับรองการเป็นส.ส.และส.ส.เข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการก่อน จากนั้นก็สามารถเข้าชื่อกันได้ทันที แต่การส่งคำร้องไปศาล ต้องรอให้มีการเลือกและโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาฯ ก่อน ซึ่งหลังประธานสภาฯ เข้าปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยโดยเร็ว จะดึงเรื่องให้ช้าไม่ได้ ถ้าดึงไว้ ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า กรณีนายพิธา ผมก็อาจจะเสนอพวกส.ส.เขาว่า เรื่องนี้ควรพิจารณาดำเนินการเข้าชื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญไปอีกทางหนึ่ง เพราะมันไม่ใช่แค่คุณสมบัติของส.ส.หรือสว. แต่เป็นเรื่องคุณสมบัติคนจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี มันต้องสง่างาม โปร่งใส มีความซื่อสัตย์ เพราะเป็นตำแหน่งที่ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ซึ่งหากเขาถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ถามว่าอย่างสว.เขาจะสังฆกรรมกับคุณด้วยหรือไม่ แม้ 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาลจะยืนยันเสนอชื่อพิธา มาให้โหวตเป็นนายกฯ เพราะอย่าลืมว่าสว.เขามีประสบการณ์ มีความชำนาญเรื่องการตรวจสอบบุคคลต่างๆ เพราะสว.เขาต้องลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ บุคคลที่ได้รับเลือกมาให้เป็นกรรมการองค์กรอิสระเช่นป.ป.ช. ทางสว.ก็ต้องอภิปรายเรื่องนี้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ดูแล้ว นายพิธา จะได้เสียงโหวตถึง 376 เสียง หรือไม่ โดยเฉพาะเสียงจากสว.นายเรืองไกรกล่าวว่า เรื่อง 376 เสียงมันยากอยู่แล้ว เพราะคุณไปด่าเขา มาตลอดสี่ปี เขาก็คนเหมือนกัน เขาก็คิดเป็น หรืออย่างบางพรรคการเมือง ที่เคยปฏิเสธไม่เอามาร่วมเป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาลด้วย แต่วันนี้จะต้องไปง้อเขา ผมดูแล้ว พิธา ไม่มีโอกาสจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีเลย ถึงต่อให้ไม่มีเรื่องหุ้น ก็ไม่มีทางได้เสียงถึง สว.ชุดนี้ ก็โหวตคว่่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เคยเสนอไปกี่รอบแล้ว เขากลัวไหม เขาก็มีศักดิ์ศรี เป็นสภาสูง แต่คุณไป look down เขามาตลอด ผมจึงมองว่า คะแนนเสียงโหวตตามบทเฉพาะกาลที่จะต้องได้ 376 เสียง คะแนนมันจะไม่ถึง มันยาก
ถามย้ำว่า คดีหุ้นสื่อไอทีวี พิธา มีโอกาสจะรอดหรือไม่ นายเรืองไกรกล่าวว่า ผมว่าไม่รอด หากดูจากคำวินิจฉัยในอดีตที่ผ่านมา แต่ก็อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา แต่ส่วนตัวผมมั่นใจ เพราะอย่างศาลก็เคยวินิจฉัยมาแล้วว่า แม้แต่หุ้นเดียวก็ถือไม่ได้ และคำพิพากษาของศาลฎีกา คดีนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตผู้สมัครส.ส.นครนายก ไปดูคำตัดสินดีๆ ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องจำนวนหุ้นเลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กกต. โร่แจงระเบียบ 'ผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้ง' สมาชิก-นายก อบจ.
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ชี้แจงแนวทางการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
'วิโรจน์' เงิบ! กกต.โชว์หนังสือ กรณีให้ลูกจ้างใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.
สืบเนื่องจากกรณี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชนฝ่ายกิจการพิเศษ ได้แจ้งจะเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ศูนย์
ข้องใจ! เงินให้กู้ยืมคู่สมรส ร้อง ป.ป.ช. สอบ 'นายกฯอิ๊งค์'
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
'วรงค์' มึน 'กกต.' ปล่อยผู้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง มีบทบาทเหนือหัวหน้าพรรค
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ผมรู้สึกมึนกับกกต. ที่ปล่อยให้ผู้ถูกตัดสิทธิ์ทา
'พิธา' ให้สัมภาษณ์งานแต่งข้ามขั้ว ครม.ครอบครัวสำคัญที่สุดในชีวิต
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางเข้าร่วมงานพิธีสมรสระหว่างนายธนาธร โล่ห์สุนทร สส.ลำปางพรรคเพื่อไทย และนางสาวรภัสสรณ์ นิยะโมสถ สส.ลำปาง พรรคประชาชน
ชื่นมื่น! 'ทักษิณ-พิธา' ร่วมงานแต่ง สส.ลำปาง เพื่อไทย-ประชาชน
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เดินทางมาร่วมพิธีฉลองมงคลสมรสระหว่างนายธนาธร โล่ห์สุนทร