จากฟื้นฟู ‘ไอทีวี’ ถึง ‘พิธา’ ลามบันได 6 ขั้นแห่งความวุ่นวายในบ้านเมือง

5 มิ.ย.2566- ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich เรื่อง “จากการฟื้นฟูไอทีวีถึงพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และลามไปถึงบันไดหกขั้นแห่งความวุ่นวายในบ้านเมือง” ระบุว่า ไอทีวีมีคดีฟ้องกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี คดีจะไปถึงศาลปกครองสูงสุดและมีสิทธิ์กลับมาดำเนินกิจการได้ใหม่ในเดือนสองเดือนนี้  อันนี้ผมอ่านจากโพสต์ของคุณจิรายุ ห่วงทรัพย์  ผมคิดว่าไม่เป็นคุณกับคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เพราะเมื่อศาลปกครองสูงสุดตัดสินลงมาว่าไอทีวีชนะเมื่อไหร่ก็กลับมาออกอากาศได้อีกครั้งทันที ถ้ามีคนคิดจะเป็นนายทุนและดำเนินการ  ซึ่งทุกวันนี้คนถือหุ้นใหญ่คือคุณสารัชถ์ รัตนาวดี ก็น่าจะมีศักยภาพและมีความพร้อม อีกทั้งก็โดนก้าวไกลจะเล่นงานค่อนข้างมากในเรื่องพลังงาน ถ้าคุณสารัชถ์ตัดสินใจฟื้นฟูกิจการไอทีวีหลังจากศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้ไอทีวีชนะภายในเดือนสองเดือนตามที่คุณจิรายุ ห่วงทรัพย์อธิบายไว้ว่าชนะมาแล้วก่อนชั้นศาลปกครองสูงสุด หรือแค่คุณสารัชถ์ให้บมจ. อินทัช ออกมาให้ข่าวว่าหากชนะคดีไอทีวีจะกลับมาฟิ้นฟูกิจการไอทีวี เท่านี้ก็มีน้ำหนักมากพอที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับฟังใช่หรือไม่

เราก็อาจจะได้เห็นไอทีวีกลับมาเปิดกิจการออกอากาศใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าเท่ากับไอทีวียังดำเนินกิจการอยู่และรอวันกลับมาออกอากาศอีกครั้งหากชนะคดีความ

นั่นคือเงื่อนตายของการขาดคุณสมบัติของคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และอาจจะเป็นเงื่อนตายที่ทำให้ สส. พรรคก้าวไกลทั้งหมดที่คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลงนามรับรองไปไม่ได้เป็น สส. สักคนเดียว แล้วต้องเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง 112 เขต

ทั้งนี้ให้อ่านโพสต์ Facebook ล่าสุดของอาจารย์คมสัน โพธิ์คงที่กล่าวถึงพรป. พรรคการเมือง เอาไว้ดังนี้

“มาตรา ๒๔  สมาชิกต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดในข้อบังคับ ซึ่งอย่างน้อยต้องมีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีและมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๙ (๑) (๓) และ (๕)

มาตรา ๒๘  ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ  ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม

มาตรา ๒๙  ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ  ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม”

ดังนั้น ขอฟันธงว่า หนึ่ง ข้อต่อสู้ที่คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์จะสู้ว่าไอทีวีไม่ได้ดำเนินกิจการสื่อแล้ว ตามที่ รศ. ดร. ณรงค์เดช สรุโฆษิต เสนอมานั้นน่าจะตก เพราะกำลังจะกลับมาดำเนินกิจการได้ใหม่ในไม่ช้า สอง คุณพิธา ขาดคุณสมบัติในการเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน ตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 98 วรรค 3 สาม คุณพิธา ขาดคุณสมบัติในการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ตามข้อบังคับพรรคก้าวไกล ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคก็ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค ทั้งยังผิดตาม พรป พรรคการเมือง มาตรา 24 อีกด้วย

สี่ ที่คุณพิธา ลงนามไปรับรองว่าที่ผู้สมัคร สส ของพรรคก้าวไกล 500 คน ก็เป็นโมฆะหมดเช่นกัน ห้า เกิดการเลือกตั้งใหม่ 112 เขต พรรคก้าวไกลน่าจะอ้างความชอบธรรมว่าได้คะแนนเสียงเลือกตั้งมาเป็นที่หนึ่ง ต้องได้เป็นรัฐบาลเท่านั้น และขนมวลชนลงถนน หก เมื่อนั้นความวุ่นวายก็จะเกิดขึ้น อันเป็นไปตามที่ผมพยากรณ์บันไดหกขั้นของความวุ่นวายในบ้านเมืองเอาไว้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

พิธา มั่นใจ ก้าวไกล ไม่ถูกยุบ แต่เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์

'พิธา' มองบวก 'ก้าวไกล' ยังมีโอกาสรอดสูง พร้อมเตรียมแผนรับรองทุกกรณี ลั่น ถึงไม่สมบูรณ์แบบ แต่การมีอยู่ของพวกผม จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า

'พิธา' เดินสายมู จ.เชียงใหม่

'พิธา' เดินสายมู ร่วมพิธีสงสนาน อาบน้ำนมพระพิฆเณศ-เวียนเทียนวัดศรีสุพรรณ เจ้าอาวาสมอบองค์พระให้ แต่ก็ต้องคืน เหตุมูลค่าเกิน 3,000 บาท พร้อมพบปะประชาชนถนนวัวลาย ป้าวัย 71 วิ่งโผกอด ร้องโอ้ยชื่นใจ ถ้าไม่มีเกมสกปรก ได้เป็นนายกฯไปแล้ว

'ก้าวไกล' เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ. 'พิธา' อ้อนพี่น้องชาวลำพูนเชื่อในประชาธิปไตย

ก้าวไกลจัดสภากาแฟที่ลำพูน แลกเปลี่ยนปัญหาภาคเอกชน 'พิธา' ชี้เศรษฐกิจภาคเหนือมีแรงเฉื่อยลักษณะพิเศษโตช้า