ส.ส.ก้าวไกล ลั่น! เดินหน้าพัฒนาภูเก็ต เทียบชั้น สิงคโปร์-ฮ่องกง ปลื้มไวรัล อย่าเรียกคนใต้ให้เรียกคนภูเก็ต

“สำหรับ คำว่า อย่าเรียกคนใต้ให้เรียกคนภูเก็ต ตามสื่อโซเชียล คิดว่า เป็นเรื่องของไวรัลของวัยรุ่นยุคใหม่ ที่มีความสุขได้เลือกพรรคก้าวไกลได้เห็นพรรคก้าวไกลชนะในภาคใต้ เชื่อว่าหลายคนอยากเห็นจังหวัดตัวเองของทุกคนในภาคใต้ดีขึ้นเหมือนภูเก็ต”

16 พ.ค.2566- เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ผลการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ตพรรคก้าวไกล ชนะการเลือกตั้งทั้ง 3 เขตประกอบด้วยเขตเลือกตั้งที่ 1 ว่าที่ ร.ต.สมชาติ เตชถาวรเจริญได้ 18,604 คะแนนเขตเลือกตั้งที่ 2 นายเฉลิมพงศ์ แสงดีได้ 21,913 คะแนนเขตเลือกตั้งที่ 3 นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล ได้ 20,421 คะแนน

นายเฉลิมพงศ์ แสงดี ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ได้ขึ้นรถแห่รอบภูเก็ต ขอบคุณทุกคะแนนเสียงบริสุทธิ์จากประชาชนที่มอบให้กับพวกผมพรรคก้าวไกลพวกเรามุ่งมั่นตั้งใจทำงานให้กับพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ต

” สิ่งที่จะทำเป็นอันดับแรกคือ การเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นสิ่งแรกที่ควรทำ เป็นนัยยะสำคัญที่คนภูเก็ตมอบให้กับเรา ส่วนเรื่องความแตกแยกหรือวาทกรรมต่างๆที่ถูกสร้างขึ้นมา ต้องเข้าใจก่อนว่าเป้าหมายของเราคือนำพาจังหวัดภูเก็ตไปสู่ความเจริญก้าวหน้าที่ก้าวไกล จะไม่มีความแตกแยกใดเกิดขึ้นถ้าร่วมมือและสามัคคีกัน คิดว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดแห่งเกาะสวรรค์เมืองแห่งไข่มุกอันดามัน คงพัฒนาไปได้มากกว่านี้ถ้าเทียบกับประเทศสิงคโปร์และฮ่องกงเชื่อว่าคนภูเก็ตต้องการ และเราก็เรียกร้องกันมานานแล้วอย่าปล่อยโอกาสที่คนภูเก็ตมอบให้กับพรรคก้าวไกลแล้วอย่าให้โอกาสเหล่านี้หลุดลอยไป ควรไขว่คว้า อย่ามาขัดแย้งหรืออย่ามาเตะแข้งเตะขากันมันจะเสียเวลา ควรที่จะร่วมมือกันช่วยกันแนะนำกันเข้ามา พร้อมเปิดรับ และ ขอขอบคุณประชาชนพ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดภูเก็ตที่มอบเสียงอันบริสุทธิ์จริงๆทุกคะแนนเสียงให้กับผมและยังคงมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน ขอขอบคุณโอกาสที่พ่อแม่พี่น้องชาวภูเก็ตมอบให้พรรคก้าวไกล “

” ในส่วนการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 นั้น ขอไปศึกษาในรายละเอียดต่างๆ จะนำเสนอปรึกษากับคณะรัฐมนตรี ที่ได้รับการแต่งตั้งแล้ว คิดว่านักธุรกิจทุกท่านที่มีไอเดียนำเสนอในช่วงเวลานี้ก่อนจะรวบรวมเสียงข้างมากเข้ามาได้และจะตั้งรัฐบาลควรจะเตรียมการบ้าน และพร้อมที่จะรับฟังการนำเสนอพร้อมที่จะส่งมอบให้กับข้างบนในการผลักดันโครงการต่างๆของจังหวัดภูเก็ต

สิ่งที่เป็นประโยชน์กับที่พี่น้องชาวภูเก็ตกับจังหวัดภูเก็ตจะรับฟังเป็นลำดับแรก ยินดีเปิดรับฟังทางภาคธุรกิจและภาคประชาชน เรื่องที่ค้างอยู่ในอดีตนำกลับมาเสนอได้ ยึดผลประโยชน์ของจังหวัดภูเก็ตเป็นหลัก และเปิดกว้างมากขึ้นกับด้อมส้มและด้อมทุกสี เชื่อว่าทุกคนมีหลากหลายความคิด ความหลากหลายคือสิ่งสวยงามมานั่งคุยกันปรึกษากันถกเถียงกันความคิดดีๆ จะออกมาจากการพูดคุยกัน และยังรับเรื่องร้องเรียนของชาวบ้านเหมือนเดิม” นายเฉลิมพงศ์ กล่าว

ทางด้าน นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล ว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกล เขต 3 กล่าวว่า หลังจากทราบผลชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต ในวันนี้ได้ขึ้นรถแห่ไปรอบภูเก็ต ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ ใช้เสียงแสดงพลัง เลือก พวกเราเป็น ส.ส.ทั้ง 3 เขต และ พรรคก้าวไกล ไปเป็นรัฐบาล เพื่อได้เลือก พิธา เป็นนายกฯ ขอบคุณมาก ที่มาร่วมกันปักธงสีส้มใน จ.ภูเก็ต ขอบคุณทุกรอยยิ้ม 300นโยบาย ที่ให้ไว้ จะรีบทำทันใด ให้เสร็จเร็ววัน เตรียมตัวเลือกตั้งผู้ว่าฯ กัน

“สำหรับ คำว่า อย่าเรียกคนใต้ให้เรียกคนภูเก็ต ตามสื่อโซเชียล คิดว่า เป็นเรื่องของไวรัลของวัยรุ่นยุคใหม่ ที่มีความสุขได้เลือกพรรคก้าวไกลได้เห็นพรรคก้าวไกลชนะในภาคใต้ เชื่อว่าหลายคนอยากเห็นจังหวัดตัวเองของทุกคนในภาคใต้ดีขึ้นเหมือนภูเก็ต”

เมื่อชาวภูเก็ตได้รับโอกาสนี้พวกเราจะทำให้ดีที่สุด ให้เห็นว่าถ้าได้พรรคก้าวไกลไปเป็นส.ส.ของท่านในพื้นที่จะเกิดอะไรขึ้นบ้างเชื่อว่าหลังจากนั้นทุกจังหวัดในภาคใต้จะเห็นว่าต้องเลือกพรรคก้าวไกล ในวันข้างหน้า กันต่อไป

ล่าสุดได้คุยกับส.ส.โรม กับ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โทรศัพท์มาแสดงความขอบคุณกับเราแล้ว จะลงมาจัดคาราวานขอบคุณพี่น้องประชาชนในเร็วๆนี้ ส.ส.โรมมาแน่นอนแต่ทางนายกฯ ยังไม่รับปาก เพราะ อยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาล

ประเทศไทย ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ วันนี้ได้เสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาล เชื่อว่าทุกคนยอมรับกติกาสากล ให้ผู้ชนะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลทำงานร่วมกัน

เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าทุกพรรคการเมืองทุกคนอยากเห็นประเทศไทย ดีขึ้น อยากเห็นภูเก็ตดีขึ้นภูเก็ตเป็นจังหวัดแห่งโอกาสพวกเราเป็นการเมืองแห่งความหวังเป็นการเมืองแห่งความเป็นไปได้วันนี้ทำให้ทุกคนเห็นแล้วว่าถ้าเราตั้งใจจริงอะไรก็เกิดขึ้นได้หวังว่าให้ทุกคนเดินเข้ามาช่วยกันสมัครสมาชิกพรรคก้าวไกล ช่วยกันพัฒนา ช่วยกันสร้างประเด็นสาธารณะแก้ไขปัญหาร่วมกันเพื่อให้ภูเก็ตเราไปได้

ในส่วนเรื่องเปิดตี4 ล่าสุดจะผลักดันให้เปิด 24 ชั่วโมง นโยบายคือเปิดอิสระแต่ละพื้นที่ต้องคุยกันเองว่าต้องการปิดกี่โมงเป็นอิสระแต่ละพื้นที่ให้อิสระในการเปิดปิดแบ่งโซนนิ่งกันในแต่ละพื้นที่

ส่วนเรื่องกัญชาตามที่ทางหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต้องการให้กลับเป็นยาเสพติดก่อน เพื่อป้องกันการนำเข้าจากนักค้ากัญชาจากต่างประเทศ แล้วค่อยๆปล่อยออกมาทีละนิด เน้นในการรักษา ซึ่ง เด็กกับสันทนาการจะยกเว้นไว้ จะเริ่มปล่อยออกมาเมื่อควบคุมได้” นายฐิติกันต์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เรือประมงอับปาง! ห่างสะพานสารสิน 9 ไมล์ทะเล

นาวาเอกพิเชษฐ์ซองตัน โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค3) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดภูเก็ต

นายกฯอารมณ์ดี บอกลงภูเก็ตพรุ่งนี้ ดูปัญหาน้ำท่วม ดินสไลด์ สนามบิน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากอาคารรัฐสภา โดยนายกฯกล่าวกับผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดีว่า วันที่ 5 ก.ค. จะเดินทางไปปฏิบัติราชการที่จังหวัดภูเก็ต ไปตรวจดูเรื่องของดินสไลด์ ถนน และสนามบิน

'เศรษฐา' ลั่นพร้อมตอบกระทู้สภา ไม่เคยหนี บอกเทียบกับนายกฯคนอื่น ตัวเองโอเคแล้ว

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2567 โดยนายกฯให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมการประชุมกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส

'ลุงสุทิน' ฟาด 'ก้าวไกล' ดูงานที่โปแลนด์ อยากให้ไทยรับผู้อพยพพม่า ทั้งที่บริบทสงครามต่างกันมาก

กรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นำคณะกมธ.เดินทางไปดูงานแนวทางการรับมือผู้ลี้ภัยที่ประเทศโปแลนด์

'ปิยบุตร' ดักคอพรรคจ้องดูด สส.งูเห่า เอาไปก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อเสถียรภาพรัฐบาล

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ สัดส่วนพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมนัดแรก

ดัชนีการเมืองไทยร่วง! ปากท้องฉุดเรตติ้งรัฐบาล 'เศรษฐา' ตามหลัง 'พิธา'

วนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนมิถุนายน 2567” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,367 คน