จับตา! 'สภาสูง' เริ่มตั้งการ์ดโหวตเลือกนายกฯ

‘สภาสูง’ เริ่มตั้งการ์ด โหวตเลือกนายกฯ ย้ำไม่ใช่ตรายาง ชื่อต้องเหมาะสม ปัดตั้งธงแค่ 2 ลุง ลั่นไม่เอาแน่คนจากพรรคที่เสนอแก้ 112 จับตา 250 ส.ว. ตั้งวงถกนอกรอบ 23 พ.ค.

12 พ.ค. 2566 – นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงท่าทีของ ส.ว. ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้ ว่า เป็นเรื่องที่ฝ่าย ส.ส. เมื่อรู้ผลการเลือกตั้ง จะต้องไปรวบรวมเสียงให้ได้ส.ส. เกินกึ่งหนึ่งเพื่อจัดตั้งรัฐบาล แต่ในขั้นตอนการเลือกนายกรัฐมนตรี เนื่องจากรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ในบทเฉพาะกาลบัญญัติว่าบุคคลที่จะได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีต้องได้เสียงเห็นชอบจากสมาชิกรัฐสภามากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส. และ ส.ว. รวมกัน ก็คือต้องได้มากกว่า 376 เสียง ที่ขั้นตอนดังกล่าวนี้ ทาง ส.ว. ถึงจะเข้าไปมีส่วนพิจารณาตรงนั้น แต่ทั้งหมด ส.ว. เราจะไม่เข้าไปยุ่ง

ส.ว. ผู้นี้ กล่าวว่า อย่างที่มีคนพูดกันว่าหากฝายสภาฯ รวมเสียงกันแล้วไม่เกิน 376 เสียง โดยขาดไปจำนวนหนึ่ง ส.ว. จะลงมติให้เลยหรือไม่ เพื่อให้เขาจัดตั้งรัฐบาลกันได้ แบบนี้ ส.ว. ไม่ทำแน่นอน ขอให้ฝ่าย ส.ส. ไปรวมเสียงให้ได้เกินกึ่งหนึ่งเพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ แต่การเลือกนายกฯ นั้น ส.ว. เราคงยังตอบไม่ได้ว่าเราจะลงมติกันอย่างไรให้ใคร ทาง ส.ว. ต้องขอดูก่อนว่าเมื่อจัดตั้งรัฐบาลกันแล้ว พรรคการเมืองไหนเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ชื่อที่เสนอมาคือใคร เราขอดูตรงนั้นก่อน ตามหน้าที่และอำนาจของ ส.ว. โดย ส.ว. อาจพิจารณาคุณสมบัติว่า ผู้จะมาเป็นนายกฯ ประเทศไทยมีความรู้ความสามารถหรือไม่ และเราต้องขอคุณสมบัติว่าต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่มีประวัติทุจริตมาก่อน เราขอดูตรงนี้ก่อนเพื่อพิจารณา

เมื่อถามว่า หากแคนดิเดตนายกฯ มาจากพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 แบบนี้ไม่เอาใช่หรือไม่ นายกิตติศักดิ์ ระบุว่า “อันนี้คงจะไม่ได้ คงจะไม่เอา”

ส่วนที่มีการมองกันว่า ส.ว. อาจจะทำให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อยไปก่อน หลังเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรนั้น นายกิตติศักดิ์ ตอบว่า เรื่องนี้ เราไม่เล่นด้วยแน่นอน พูดตรงๆ เลย อย่างบางคนบอกว่า ส.ว. มีธงตั้งไว้ว่า นายกฯ ต้องเป็น 2 ลุงเท่านั้น ตรงนี้เราคงไม่เห็นด้วย เพราะมันจะเป็นการราดน้ำมันเข้ากองไฟ บ้านเมืองจะไม่สงบ เราคงไม่เอาด้วย สมมติว่า อย่างตอนนี้ที่บอกกันว่ามีสองฝั่ง ซึ่งหากฝั่งหนึ่งมีเสียงข้างมาก แต่ตั้งรัฐบาลไม่ได้ แล้วก็มีอีกฝั่งเป็นเสียงข้างน้อย แต่ว่าเขาพยายามจะตั้งรัฐบาลขึ้นมา ตรงนั้น ส.ว.จะไม่เข้าไปยุ่งด้วย เพราะเราไม่ได้มองแค่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ใครจะมาเป็นนายกฯ แต่เราดูว่าบ้านเมืองจะไปได้ไหม มันจะเกิดความวุ่นวาย ความรุนแรงอะไรหรือไม่ เรามองตรงนั้นมากกว่า

เมื่อถามย้ำว่า หากฝั่งเพื่อไทย และก้าวไกล ร่วมกันตั้งรัฐบาลโดยไปถึงพรรคอื่นๆ มาอีก จนได้สองร้อยกว่าเสียง แต่ไม่ถึง 376 เสียง แล้วเสนอชื่อบางคน เช่น นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ ทาง ส.ว.จะมีท่าทีอย่างไร นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ตรงนี้ เรามีchoice ให้เลือก คือจริงๆ ไม่ต้องให้ ส.ว.ไปเกี่ยวเลยก็ได้ ส.ส.ก็รวมเสียงกันให้ได้ จนตั้งรัฐบาลได้ 376 เสียง พวก ส.ส. ก็โหวตเลือกนายกฯ ได้เองเลย ก็จะทำให้ ส.ว.ปิดสวิตช์ตัวเองไปโดยอัตโนมัติ แต่มันก็อาจจะยาก แต่หากรวมเสียงแล้วไม่ถึง 376 เสียง ส.ว.ไปช่วยเขาเติมได้ไหม หรือที่ถามว่าเป็นแคนดิเดตจากเพื่อไทย ส.ว.จะคิดอย่างไรนั้น ตรงนี้ เราขอขยักไว้นิดหนึ่งว่า ส.ว.เราเคารพเสียงประชาชนแน่นอน หากว่าประชาชนเลือกมาแล้ว ฝ่ายที่ได้เสียงข้างมากก็ควรได้ตั้งรัฐบาล แต่อย่างที่บอก ส.ว.ก็ไม่ได้ฝืนเสียงประชาชนหรอก แต่ ส.ว. ขอดูหน้างานก่อนว่าใครแน่ที่จะมาเป็นนายกฯ

“จะมาบอกว่าส่งชื่อมาแล้ว ส.ว.ต้องสแตมป์ให้เลย ก็ไม่ใช่ คือหากเราพิจารณาแล้ว ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง เราก็คงสนับสนุนให้ เราไม่ฝืนเสียงประชาชน แต่จะให้บอกว่าส่งใครมาก็เลือก มันก็ใช่ที่ เราก็ขอปฏิบัติหน้าที่ ขอพิจารณาด้วยสักนิดหนึ่ง เรามองชาติบ้านเมืองว่าจะเดินไปได้อย่างไรมากกว่า ไม่ใช่ว่าไม่มีสองลุงแล้วประเทศชาติจะอยู่ไม่ได้ ถ้าสองลุงอยากเป็นรัฐบาลก็ต้องไปหาเสียง ส.ส. มาให้เยอะๆ มาให้ได้เสียงเกินครึ่งหนึ่ง หลักการของเรามีแค่นี้ เราคงไม่ใช่ว่าอะไรก็ต้องสองลุงอย่างเดียว คงไม่ใช่” นายกิตติศักดิ์ ระบุ

เมื่อถามตอนท้ายว่า วุฒิสภาจะมีการประชุมนัดพิเศษ 23 พ.ค.นี้ ที่เป็นการประชุมสมัยวิสามัญ ทาง ส.ว. คงมีการได้คุยกันนอกรอบตามวงกาแฟต่างๆ นายกิตติศักดิ์ กล่าวตอบว่า “ก็มีครับ คงมี”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วุฒิสภาจะมีการประชุมนัดพิเศษ วันที่ 23 พ.ค.นี้ ที่เป็นการประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญ ที่มีวาระสำคัญหลายเรื่องเช่น ให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติคนใหม่ เป็นต้น ทำให้คาดว่า ทาง ส.ว. จะมาร่วมประชุมวันดังกล่าวจำนวนไม่น้อย และ ส.ว.บางส่วนคงได้มีการร่วมหารืออย่างไม่เป็นทางการ ตามวงกาแฟ วงสนทนาการเมืองของ ส.ว. ถึงท่าทีของ ส.ว.ต่อการโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งถึงตอนนั้น จะเริ่มรู้แล้วว่าฝ่ายไหนจะตั้งรัฐบาลได้เกิน 250 เสียงได้สำเร็จก่อน ระหว่างฝ่ายพรรคการเมือง ขั้วรัฐบาลปัจจุบันกับพรรคการเมืองขั้วอดีตพรรคฝ่ายค้านเดิมที่นำโดยเพื่อไทยและก้าวไกล.