11 พ.ค.2566 - นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กเผยแพร่คลิปเสียง ซึ่งเป็นหลักฐานแสดงถึงนายใหญ่จากแดนไกลสั่งการเลือกตั้งเข้าข่ายผิดกฎหมายครอบงำพรรคการเมือง โดยนายสมชาย ระบุว่า #หลุดบ่อยนะนาย #เสียงคล้าย #ผิดกฎหมายเลือกตั้ง #ครอบงำยุบพรรคมั้ย?
หลักฐานเสียงและคลิปที่ผมได้รับจากสมาชิกผู้รักชาติมีที่มาของบุคคลที่เป็นพยานได้ จะเห็นชัดถึงการสั่งการที่น่าจะเข้าข่ายการครอบงำพรรคการเมืองหรือไม่ เป็นเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องตรวจสอบและหากพบว่า เข้าข่ายเป็นการกระทำผิดกฎหมายต้องดำเนินคดีตามพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าพรรคการเมือง
ส่วนต้นฉบับที่มิได้ปกปิดชื่อบุคคลที่3นั้น จะได้ส่งมอบเป็นหลักฐานให้กับคณะกรรมาธิการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมาธิการการมีส่วนร่วมทางการเมือง ของวุฒิสภาเพื่อดำเนินตรวจสอบพร้อมกับเรื่องแชทไลน์หลุดที่ได้ส่งมอบไปแล้วเบื้องต้นต่อไป
พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองวางข้อห้ามไว้สำหรับทั้งพรรคการเมือง และบุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่สมาชิก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันไม่ให้พรรคการเมืองมี “นายทุน” หรือมีใครคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของพรรคแต่เพียงผู้เดียว และให้อำนาจคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้ตรวจสอบและนำเรื่องขึ้นสู่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
โดยมาตรา 28 กำหนดไว้ว่า ห้ามพรรคการเมือง “ยินยอม” ให้บุคคลที่ไม่เป็นสมาชิกพรรคเข้ามาควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ พรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรค หรือสมาชิกของพรรคไม่เป็นอิสระ ทั้งทางตรง และทางอ้อม หากพรรคการเมืองใดมีการกระทำที่เข้าข่ายลักษณะดังกล่าว ไม่จำเป็นที่จะต้องมีผู้ร้องเรียน แต่กกต.โดยนายทะเบียนพรรคการเมือง สามารถดำเนินการตรวจสอบ ถ้ามีมูลจริงแล้วถึงส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญดําเนินการไต่สวนต่อ และถ้าศาลพบหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทําผิดจริง ศาลรัฐธรรมนูญสามารถสั่งยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นได้ถึง 10 ปี ตามมาตรา 92 (3)
ส่วนมาตรา 29 กำหนดเรื่องคนนอก หรือ “ผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคการเมือง” ห้ามเข้ามาควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา ก้าวก่าย จนทำให้กิจกรรมของพรรคการเมืองขาดความเป็นอิสระ ซึ่งบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคการเมืองนั้นให้หมายความรวมถึง คนที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค เพราะถูกเว้นวรรคทางการเมือง ถูกตัดสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ รวมถึงบุคคลที่เคยถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดสั่งยึดทรัพย์ เพราะทุจริต และทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช. อันเป็นคุณลักษณะบุคคลต้องห้ามที่จะเป็น ส.ส. และสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งคนนอกที่เข้ามาทำการครอบงำพรรค มีโทษถึงจำคุกเป็นเวลาห้าปีถึงสิบปี ปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งผู้นั้นด้วยตามมาตรา 108
มาตรา ๗๕ ห้ามมิให้ผู้ใดหรือพรรคการเมืองใดเรียกหรือรับทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด เพ่ือลงสมัครหรือส่งผู้สมัคร หรือไม่ลงสมัครหรือไม่ส่งผู้สมัครอันก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้สมัครอื่นหรือ พรรคการเมืองอื่นในการเลือกตั้ง และทําให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม
มาตรา ๑๕๘ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๗๓ (๑) หรือ (๒) มาตรา ๗๕ มาตรา ๗๖ หรือมาตรา ๙๔ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดยี่สิบปี
ในกรณีที่ศาลมีคําพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษผู้กระทําความผิดตามมาตรา ๗๓ (๑) หรือ (๒) ให้ศาลสั่งจ่ายเงินสินบนนําจับไม่เกินกึ่งหนึ่งจากจํานวนเงินค่าปรับแก่ผู้แจ้งความนําจับ
ในกรณีที่พรรคการเมืองกระทําความผิดตามมาตรา ๗๕ หัวหน้าพรรค การเมืองหรือกรรมการ บริหารพรรคการเมืองของพรรคการเมืองนั้น ซึ่งรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทําความผิดต้องระวางโทษ ตามท่ีกําหนดไว้ในวรรคหนึ่ง และให้ศาลส่ังเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการ บริหารพรรคการเมืองของพรรคการเมืองนั้น และให้ถือเป็นเหตุที่จะยุบพรรคการเมืองนั้นตามกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
มาตรา ๙๒ เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทําการ อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น………………………………
(๔) มีเหตุอันจะต้องยุบพรรคการเมืองตามที่มีกฎหมายกําหนด
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญดําเนินการไต่สวนแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทําการ ตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น
ขอยืนยันว่าไม่มีเจตนาให้ร้ายต่อใครหรือต่อพรรคการเมืองใด แต่หวังให้กกตดำเนินการให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างแท้จริง
#กกตรู้หรือยัง
#แต่เรารู้แล้ว
#ตรวจสอบทุจริตเลือกตั้ง
#เลือกคนดีเข้าสภา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สมชาย' แฉหลักฐานโพยฮั้วเลือก สว. จี้ กกต. ตรวจนับคะแนนใหม่
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า กกต.มีหน้าที่ตรวจสอบความสุจริตและเที่ยงธรรม ก่อนรับรองการเลือกสว.
'สมชาย' ไล่บี้ กกต. นับคะแนนใหม่ชุดบล็อกโหวต จับแก๊งฮั้วเลือก สว.
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
‘ปธ.กมธ.สิทธิฯ’ ทิ้งทวน ยื่น ‘ป.ป.ช.’ สอบ ‘ราชทัณฑ์-ยธ.’ เอื้อ ‘ทักษิณ’ อยู่นอกคุก
‘สมชาย’ สวมหมวก ปธ.กมธ.สิทธิฯ ทิ้งทวนทำหน้าที่ ยื่น ‘ป.ป.ช.’ สอบ ‘จนท.ราชทัณฑ์-ยธ.’ ส่อปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ขัดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ปมเอื้อ ‘ทักษิณ’ อยู่นอกคุก
สภาฮั้วค่าย 'สีน้ำเงิน' ยึดสว. วงจรอุบาทว์การเมืองไทย
ผลการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ได้รายชื่อว่าที่ สว.จำนวน 200 คน และสำรอง 100 คน ครบแล้ว โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
'สมชาย' เผยเหตุทำให้เกิด 'สภาฮั้ว' เละเทะวันนี้
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิด#สภาฮั้ว#เละเทะวันนี้
‘สมชาย’ บอกชัด ทำไม ‘นักธุรกิจการเมือง’ จัดขบวนการซื้อ-จ้างคน ลงสมัคร สว.
ทำไมพรรคการเมืองทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านจึงสั่งระดมคนทั้งประเทศด้วยการเกณฑ์ใช้จ้างวาน ด้วยการให้หัวคะแนน นักการเมืองท้องถิ่น ให้คนในสังกัดลงสมัครสมาชิกวุฒิสภา ถึงเกือบ5หมื่นคน