'บิ๊กป้อม' พร้อมจับมือทุกพรรค แต่หากใครเมินก็อยู่คนเดียวได้!

'บิ๊กป้อม' ลั่นพร้อมจับมือทุกพรรค แต่นโยบายต้องไม่ขัดกัน ชี้ปมบางพรรคประกาศไม่จับมือล่วงหน้า บอก 'ใครไม่จับ ผมก็อยู่คนเดียว'

04 พ.ค.2566 - ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังแถลงสรุปภาพรวมนโยบายของพรรค พปชร. ถึงเรตติ้งความนิยมของพรรคที่เพิ่มขึ้นว่า ดีใจ ถ้าผู้สื่อข่าวสนับสนุน พรรค พปชร.ก็ดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า อีก 9 วัน จะถึงวันลงคะแนนเลือกตั้ง มีความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปมากน้อยแค่ไหน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะว่าพร้อมก็พร้อม แล้วแต่ประชาชนจะเลือก ถ้าเลือกก็พร้อม

เมื่อถามว่า ได้ดูกระแสตอบรับของพรรคในโซเชียลมีเดียบ้างหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ได้ดูเลย

ถามอีกว่า มองนโยบายภาพรวมแล้วมีความมั่นใจอย่างไรบ้าง พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ถ้าไม่มั่นใจก็คงไม่ประกาศออกไป มั่นใจว่าเราทำได้ ถ้าเราได้เป็นรัฐบาลทำได้ทันที

เมื่อถามว่า โค้งสุดท้ายจะมีอะไรมาตีตื้นคะแนนเป็นหมัดเด็ดหมัดน็อกหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สื่อนั่นแหละ สื่อจะเลือกหรือเปล่า ถ้าคุณเลือกก็ได้

ถามต่อว่า หลายพรรคเริ่มมีการตีกันจะไม่จับขั้วรัฐบาล โดยระบุว่า พปชร.เป็นหนึ่งที่จะไม่จับมือด้วย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็ไม่เป็นไร ใครไม่จับผมก็อยู่คนเดียว ถ้าได้ 300 กว่าเสียงแล้วจะไปจับกับใครล่ะ ก็ขึ้นอยู่กับประชาชน ปล่อยให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจเอาแล้วกันว่าจะเลือกใคร ถ้าเขาอยากพูดก็พูดกันไป เพราะอยู่ที่การตัดสินใจของประชาชนเป็นหลัก ก็ต้องเชื่อมั่นในประชาชน ต้องไว้ใจประชาชนว่าเขาจะเลือกใคร”

เมื่อถามว่า ผลโพลที่ออกมาขณะนี้แสดงว่าเชื่อไม่ได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า โพลใครก็ทำได้ เป็นความคิดของคน ได้ไปถามทุกบ้านหรือเปล่า ถามทุกคนหรือเปล่า แล้วทุกคนตอบหรือเปล่า มันก็อย่างนี้แหละ โพลคือโพล

ถามต่อว่า จากการลงพื้นที่และได้สัมผัสประชาชนโดยตรง รวมถึงกระแส พปชร.ตอนนี้ จะทำให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ ก็แล้วแต่ประชาชน จะไปคิดข้างหน้าได้อย่างไร สื่อคิดก็ตอบเอาเองก็แล้วกัน

เมื่อถามว่าจากการลงพื้นที่เชื่อมั่นในประชาชนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็เชื่อมั่น ลงพื้นที่มาตลอดทั้งปี พื้นที่เขาก็ต้อนรับ ไม่เห็นมีใครมาด่าเลย

ถามว่า พปชร.และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะจับมือไปไหนไปกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องดูตัวเลขหลังจากวันที่ 14 พ.ค.ก่อน

ถามย้ำว่า พร้อมรับใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พร้อมรับกับทุกพรรค ทำงานได้กับทุกพรรค ถ้าตัวเลขน้อยก็อยู่คนเดียว ถ้าตัวเลขมากก็อยู่คนเดียว เดี๋ยวไปดูว่าจะจับมือกับใคร ต้องดูแต่ละพรรค

เมื่อถามอีกว่า พรรคก้าวไกล ยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกใช่หรือไม่ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ทุกพรรคอยู่ในตัวเลือกทั้งนั้น แต่ต้องดูนโยบายด้วยไม่ใช่นโยบายไม่ถูกกัน แล้วไปอยู่ด้วยกันก็ขัดกันเปล่าๆ

เมื่อถามว่า โค้งสุดท้ายแล้วจะมีโอกาสลงพื้นที่ตลาดใน กทม.หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า สื่ออยากให้ลงไหมล่ะ ถ้าอยากให้ลงก็จะลง

ถามว่า วันนี้อารมณ์ดี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อารมณ์ดีทุกวัน แล้วดีไหม

เมื่อถามว่า ช่วงลงพื้นที่หาเสียงดูแลสุขภาพออกกำลังกายในช่วงนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มี ก็ว่ายน้ำ

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หน้าด้าน อ้างเสียงไม่ถึงจึงจับมือฝ่ายรปห.ไม่ใส่ใจการตระบัดสัตย์ ตะลึง ปลอบใจด้วยคำพระ 'อนิจจัง'

'จตุพร' ซัด 'อิ๊งค์' หน้าด้าน อ้างเสียงไม่ถึงจึงจับมือฝ่ายรปห. ไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับปชช. ส่ออาการตกตะลึงอำนาจ ถึงกับปลอบใจด้วยคำพระ 'อนิจจัง' หลบหลีกแรงกดดัน 'ปรับ ครม.' เชื่อ 'ประวิตร' เข็ดแล้วจำ เลือกรักษาศักดิ์ศรีอันน้อยนิดไว้ติดตัวยามวัยชราดีกว่าถูกดึงหูเข้าร่วมรัฐบาล

'ชัยวุฒิ' ซัดคนจ้องดูด สส.พปชร. เล่นนอกกติกาชกใต้เข็มขัด เชื่อพท.ไม่กล้าเขี่ยภูมิใจไทย

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวการดึงพรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาลแทนพรรคภูมิใจไทยว่า ยังไม่มีการติดต่อมา ตนเพิ่งเห็นจากในข่าว

ปิดศูนย์ 7 วันอันตรายสงกรานต์ ดับ 253 ศพ อุบัติเหตุ 1,538 ครั้ง เทียบปี 67 ลดลง 25%

'อนุทิน' ขอบคุณทุกภาคส่วน ร่วมป้องกันลดอุบัติเหตุทางถนนช่วง 7 วันอันตราย สงกรานต์ 68 ยอดอุบัติเหตุรวม 1,538 ครั้ง เสียชีวิต 253 ราย บาดเจ็บ 1,495 คน ลดลงจากปี 67 เกือบ 1 ใน 4

'2 พิชัย' นำทีมบินเจรจาสหรัฐ มั่นใจมีทางออก 'ภาษีทรัมป์'

'2 พิชัย' นำทีมไทยแลนด์บินเจรจาสหรัฐ ยึดหลักเป็นพันธมิตรสร้างสรรค์ นายกฯ กำชับดำเนินการเต็มที่ ให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

พปชร. สงสัยรัฐบาลมุบมิบทำประชาพิจารณ์ 'กม.กาสิโน' อ้างประชาชนเห็นด้วย

โฆษก พปชร. ชมเปาะลูกเนวินประกาศค้านกาสิโนกลางสภาฯ กล้าทำ กล้าคิด เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตนหรือประโยชน์ของพวกพ้อง  เหมาะสมสำหรับการเป็นผู้นำคนรุ่นใหม่