เอกอัครราชทูตอียู 15 ประเทศ เข้าพบ'อนุทิน' เหตุเชื่อภูมิใจไทยมีบทบาทสำคัญหลังเลือกตั้ง เผยทูตห่วงกระแสยุบพรรค 'เสี่ยหนู' แจงไม่ใช่คำตอบชี้ยิ่งยุบพรรคยิ่งใหญ่ขึ้น ย้ำเงื่อนไขร่วมรัฐบาลดัน กม.กัญชา - ไม่แตะ ม.112
26 เม.ย.2566 - ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค แถลงภายหลังคณะเอกอัครราชทูตจากกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) 15 ประเทศ อาทิ ออสเตรีย, เบลเยี่ยม, สาธารณรัฐเชค, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ไอร์แลนด์, ลักเซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์, โปแลนด์, สเปน และสวีเดน เข้าพบเพื่อสอบถามถึงสถานการณ์ของประเทศไทย
นายอนุทินกล่าวภายหลังว่า เอกอัครราชทูตจากอียูได้หารือถึงสถานการณ์การเมือง สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง ตลอดจนแนวทาง และเจตนารมณ์ของพรรคภูมิใจไทยที่มีต่อประเทศกลุ่มประชาคมยุโรป ซึ่งเป็นการหารือที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ และความเข้าใจ โดยมีการถามถึงความคาดหวังว่าจะต้องมีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างไรบ้าง ซึ่งได้เล่าถึงความพร้อมของพรรคภูมิใจไทยต่อการเลือกตั้ง โดยบอกว่าเราเตรียมพร้อมมามากกว่า 1 ปีแล้ว วันนี้พรรคจึงมีความพร้อมอย่างมาก นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตจากอียูยังถามถึงท่าทีของพรรคหลังการเลือกตั้ง ซึ่งยืนยันว่าพรรคยังไม่ได้พูดคุยกับใครในการกำหนดทิศทางทางการเมือง พรรคจะยึดมั่นในกติกาทางการเมืองที่เป็นสากล โดยพรรคลำดับแรกต้องได้จัดตั้งรัฐบาลก่อน ให้เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย พรรคที่ได้ ส.ส.มากกว่าก็เป็นแกนนำดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และตำแหน่งต่างๆ ต้องเป็นไปตามกติกา
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า เอกอัครราชทูตอียูได้สอบถามถึงสถานการณ์การเลือกตั้งว่าจะมีการยุบพรรคอีกหรือไม่ ซึ่งเราได้แจ้งว่า เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เข้าใกล้ระบอบประชาธิปไตยมากที่สุด ส่วนที่ยังไม่เป็นประชาธิปไตยคือการเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ยังมี ส.ว. แต่เราก็บอกว่าให้พ้นไปตามกาลเวลา ซึ่งในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ ปีหน้า ส.ว.ก็หมดอำนาจตรงนี้ไปแล้ว วันนี้เราต้องรักษาประชาธิปไตยไว้มากที่สุด การเลือกตั้งถือเป็นโอกาสของประชาชนขณะที่พรรคการเมืองต้องสามัคคีกัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์อำนาจนอกระบบเอาประชาธิปไตยออกไปจากมือประชาชน ส่วนหลังการเลือกตั้งหากจะค้านก็ต้องค้านเพื่อปกป้องประโยชน์ประเทศ ไม่ใช่มุ่งทำลายสาดโคลนฝ่ายตรงข้าม เพราะคนบริหารประเทศจะต้องปกป้องตัวเอง ไม่ได้ทำหน้าที่บริหารประเทศอย่างเต็มที่ คนเดือดร้อนก็คือประชาชน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พรรคจะไม่มีวันทำ เราเป็นพรรคที่ทำงานพูดแล้วทำ
“ทูตอียูได้สอบถามว่าได้ข่าวจะมีการยุบพรรค ผมจึงบอกว่าไปดูพรรคที่ถูกยุบยิ่งใหญ่ขึ้นทุกวัน เวลายุบพรรคคนสิ้นสภาพคือพรรคและผู้บริหาร ส่วนสมาชิกไปหาพรรคใหม่สังกัดได้ไม่ได้สิ้นสภาพไปด้วย มันไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหา ตรงกันข้ามจะยิ่งเป็นการขยายความแตกแยก ผมก็เคยเป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111 มาแล้ว สมัยเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย แต่ต่อให้ทำลายบุคคลได้ก็ยังมีคนร่วมแนวทางเดียวกันสืบสานงานต่อไปได้ ดังนั้น การยุบพรรคไม่ได้เป็นคำตอบสุดท้าย” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า แสดงว่าผู้มีอำนาจนึกถึงเรื่องยุบพรรคจริงใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่ทราบ พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ติดต่อใครเลย เราลงพื้นที่นำเสนอนโยบายประชาชน เราแต่เสพข่าวเหมือนชาวบ้านทั่วไป
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เราแสดงจุดยืนเทิดทูนสถาบันด้วยว่าใครแตะมาตรา 112 พรรคภูมิใจไทยร่วมงานด้วยไม่ได้ นี่คือข้อจำกัดเดียวของพรรคภูมิใจไทย และพรรคไม่เอามาตรา 272 เพราะนายกฯ ต้องมาจาก ส.ส. และบัญชีแคนดิเดตนายกฯของพรรคการเมืองเท่านั้น เราไม่เอากระบวนการที่แฝงอยู่ในประชาธิปไตย แต่ไม่ใช่ประชาธิปไตย
เมื่อถามว่าทำไมทูตอียูถึงมาหารือกับพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า พวกท่านก็ไปหาพรรคการเมืองที่เชื่อว่าจะมีบทบาททางการเมืองหลังการเลือกตั้ง ซึ่งเขาสนับสนุนเรื่องความเป็นประชาธิปไตยเต็มที่อยู่แล้ว โดยอยากเห็นการเลือกตั้งที่โปร่งใสเป็นธรรม
เมื่อถามว่า ทูตอียูได้ถามถึงนโยบายกัญชาด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มีทูตบางท่านได้สอบถาม ซึ่งเรายืนยันว่านโยบายเราทำสำเร็จแล้ว คือการปลดล็อกออกจากพืชยาเสพติด และใช้กฎหมายของกระทรวงสาธารณสุขควบคุมป้องกันไม่ให้ใช้ในทางที่ผิด และหากกลับเข้าสภาจะเร่งผลักดันกฎหมายที่ค้างอยู่ให้สำเร็จ ซึ่งร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ไม่ได้ตกไป แต่ค้างอยู่ พรรคจึงนำร่างนี้เข้าสู่กระบวนการเสนอกฎหมายตามขั้นตอนของสภาได้ต่อไป
เมื่อถามถึงการแก้รัฐธรรมนูญ พรรคเห็นด้วยกับการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การตั้งส.ส.ร.เป็นความเชื่อของพรรคภูมิใจไทยอยู่แล้ว หากแก้ก็ควรตั้งส.ส.ร.ที่มาจากประชาชน จะได้หมดข้อครหาว่ารัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย
เมื่อถามว่า ถ้าพรรคก้าวไกลไม่แก้มาตรา 112 จะร่วมงานด้วยกันได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน เราไม่ได้บอกว่าเรามีปัญหากับพรรคไหน เราไม่เอาการแก้ไขมาตรา 112 แต่เงื่อนไขแรกที่พรรคจะคุยในการร่วมรัฐบาลกับใครหรือไม่ คือจะต้องผลักดันกฎหมายกัญชาในสภาชุดที่จะมาถึงนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บูมเศรษฐกิจ 2 ชาติ ! “อนุทิน” เร่งสร้างสะพานมิตรภาพจันทบุรี-ไพลิน จับมือกัมพูชา กระตุ้นค้าขายชายแดน-ท่องเที่ยว
วันที่ 21 พย. บริเวณสะพานข้ามคลองตะเคียน ด่านผักกาด จุดก่อสร้างสะพานมิตรภาพจันทบุรี-ไพลิน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหาร อาทิ นายอรรษิษฐ์ สัมพัน์รัตน์
'เสี่ยหนู' เชียร์ 'พรรคโอกาสใหม่' ชี้มาทำงานให้บ้านเมืองอย่าไปแช่ง
'อนุทิน' เชียร์ 'พรรคโอกาสใหม่' บอกจะได้ชอบธรรมหากได้รับเลือกจากประชาชนทั้งประเทศ ขออย่าแช่งคนเข้ามาทำงานให้บ้านเมือง
'อนุทิน' บอก 'นายกฯ อิ๊งค์' ฉายเดี่ยวแถลงผลงาน!
'อนุทิน' ส่ง 'นายกฯอิ๊งค์' โชว์เดี่ยว แถลงผลงานรัฐบาล
'อนุทิน' ยันภูมิใจไทยโหวตเสียงข้างมาก 2 ชั้นในการทำประชามติ
'อนุทิน' ยืนยัน ภท.โหวตเสียงข้างมาก 2 ชั้น หากนำมติ กมธ.ร่วมประชามติเข้าโหวตในสภา ย้ำเพื่อให้ ปชช.ตัดสินใจเรื่องสำคัญอย่างแท้จริง ชี้ทุกอย่างมีเงื่อนเวลาถ้าแก้ไม่ทันก็รอสภาชุดหน้า
'อนุทิน' เปิดสัมมนาความปลอดภัยทางถนนหวังอุบัติเหตุเป็นศูนย์!
'อนุทิน' เปิดสัมมนาวิชาการระดับชาติ ความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 16 ย้ำความสำคัญ 'Situation awareness' ตื่นตัว ตระหนัก รับผิดชอบ ชี้ต้องทำอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์ เพราะหนึ่งชีวิตก็เป็นเกรดเอฟแล้ว
“ผู้ประกอบการ ราชบุรี” ชม “อนุทิน” ฟื้นกีฬาวัวลาน ให้แข่งตอนกลางคืน มั่นใจ เป็นงานเฟสติวัลระดับโลก
จากกรณีที่กระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวง ให้การแข่งขันวัวลานจัดขึ้นในเวลากลางคืน ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 โดยล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปเปิดการแข่งขันวัวลานที่