'พีระพันธุ์' ชูบัตรสวัสดิการพลัส เดือนละ 1 พัน ทำได้จริงถูกกฎหมาย ไม่เสียวินัยการเงินการคลัง

“พีระพันธุ์” เผย รทสช.ชูนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องคนไทยหลายด้าน เล็งเปิดนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเสรีจะทำให้ราคาน้ำมันในประเทศถูกลง ช่วยคนมีรายได้น้อย-เกษตรกรใช้ไฟฟ้าแค่ยูนิตละ 3.90 บาท หวังลดต้นทุนค่าครองชีพ พร้อมแจงบัตรสวัสดิการพลัสทำได้จริงถูกกฎหมาย ประชาชนได้ประโยชน์เต็มร้อย คำนึงถึงระบบการเงินการคลังประเทศอย่างเคร่งครัด

18 เม.ย.2566 - นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงนโยบายการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยเฉพาะเรื่องการทำมาหากิน และเศรษฐกิจปากท้อง ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติเห็นความสำคัญเรื่องความมั่นคงด้านเศรษฐกิจของประชาชนทุกกลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มมีความต้องการที่แตกต่างกัน จะต้องมีการวางรากฐานเพื่อให้คนกลุ่มต่าง ๆ สามารถอยู่ต่อได้ในภาวะค่าครองชีพปัจจุบัน โดยหาแนวทางว่าทำอย่างไรจะสามารถลดค่าครองชีพให้กับประชาชนแบบเป็นไปได้

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า กรณีของพลังงานที่มีราคาแพง เรื่องราคาน้ำมัน พรรคมีแนวคิดว่าจะให้มีการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปแบบเสรีได้ จะทำให้ราคาน้ำมันในประเทศถูกลงได้ เนื่องจากน้ำมันเป็นสินค้าคอมมูนิตี้ หากนำเข้ามาเท่าไหร่ ก็เพียงดูว่าจะขายเท่าไหร่ หากพรรครวมไทยสร้างชาติได้เป็นรัฐบาล หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภค ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน หรือไฟฟ้า ก็จะต้องทำตามนโยบายของรัฐอยู่แล้ว เช่น ค่าไฟฟ้า จะมีการกำหนดราคาให้กับผู้มีรายได้น้อย หรือเกษตรกร ที่ใช้ไฟในการดำเนินชีวิต หรือทำมาหากินเพื่อแบ่งเบาภาระ และช่วยลดต้นทุนให้ โดยมีการคำนวณมาแล้วจะอยู่ที่ประมาณ ยูนิตละ 3.90 บาท เป็นนโยบายของรัฐบาลพรรครวมไทยสร้างชาติ

หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีนำบัตรสวัสดิการ พลัส ของพรรคไปเปรียบเทียบกับนโยบายการแจกเงินดิจิทัลว่า ปกติจะไม่ออกมาตอบโต้อยู่แล้ว แต่เมื่อถูกถามก็จำเป็นจะต้องตอบว่า ดิจิทัลที่บอกว่าจะแจก 10,000 บาท ไม่ใช่เงินจริง แต่บัตรสวัสดิการพลัส ที่ต่อยอดมาจากบัตรลุงตู่จะได้เดือนละ 1,000 บาท 1 ปีจะได้ 12,000 บาท มากกว่าเงินดิจิทัล 2,000 บาทถ้า 4 ปีก็จะได้ถึง 48,000 บาท ซึ่งเป็นเงินจริง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นบัตรที่เป็นหลักประกันได้อีก เมื่อเดือดร้อนฉุกเฉินสามารถกู้ยืมเงินจากธนาคารของรัฐได้ถึง 10,000 บาท ถ้ารวมแล้วบัตรนี้จะช่วยเหลือประชาชนได้ถึง 58,000 บาท และที่สำคัญที่สุดคือนี่คือเงินจริง ๆ ที่ประชาชนจะได้รับ

“นโยบายของพรรคทำตามสิ่งที่ทำมาแล้ว เวลาเราบริหารประเทศก็จะมีเงินได้ที่ทยอยมาไม่ใช่อยู่ดีๆ จะเอาเงินงบประมาณมาทีเดียวหมด ของเราเป็นไปตามเงื่อนไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงินการคลังและวินัยทางการเงินของประเทศ เพราะ 8 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้วางรากฐานจนมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และระบบการเงินแล้ว ดังนั้นเราจึงรู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป เพื่อจะให้ประชาชนได้ประโยชน์ด้วย ไม่เสียวินัยทางการเงินการคลังและไม่กระทบภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และที่สำคัญที่สุดคือความเชื่อมั่นของต่างชาติที่มีกับเงินบาทและเศรษฐกิจไทย” นายพีระพันธุ์กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รทสช. จัดโครงการ 'เลือดรวมไทย' บริจาคโลหิต 72,000 ซีซี ถวายเป็นพระราชกุศล

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ส

'พีระพันธุ์' วอนม็อบรถบรรทุก ขอให้ใจเย็นรออีกหน่อย จะได้ใช้น้ำมันราคาถูก

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกช่วงครึ่งหลังของปี 2567

รทสช. เตรียมดัน กม.ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเข้าสภา จ่อเรียกถก สส. 2 ก.ค.นี้

พรรครวมไทยสร้างชาติได้เตรียมร่างกฎหมายที่จะเสนอไปเข้าสู่การพิจารณาของสภาหลายฉบับ ซึ่งเป็นกฎหมายที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนในหลายเรื่อง

รทสช. ดี๊ด๊า ‘นิด้าโพล’ เผยคะแนนนิยม ‘พีระพันธุ์’ มาอันดับ 4 ลั่นDNAลุงตู่สู้ทุกปัญหา

‘ธนกร’ ปลื้ม นิด้าโพลเผยเสียงประชาชนไว้วางใจ ‘รทสช.-พีระพันธุ์’ ความนิยมมาอันดับ 4  ชี้ 10 เดือนร่วมรัฐบาล ลุยทำงานเต็มที่ ตอกย้ำ อุดมการณ์DNA ลุงตู่ สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง เชื่อ พลังเงียบจับตาผลงานจ่อเทคะแนนให้

'อัครเดช' ชี้ไม่แปลกบางจังหวัดไร้ สว. เหตุรธน.ต้องการให้เป็นตัวแทนกลุ่มอาชีพ

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า ต้องให้โอกาส สว. ที่ได้รับการคัดเลือกมาทั้งหมดได้ทำงานก่อน เพราะได้รับการคัดเลือกมาตามกระบวนการที่รัฐธรรมนูญ

แขวนงบดิจิทัลวอลเล็ต! กมธ.งบ 68 ข้องใจไม่มีเอกสารแจงรายละเอียด

ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธาน