จัดหนัก! ‘บิ๊กตู่’ เหน็บนโยบายพรรคการเมืองไร้หลักการ ปท.รับกรรม

‘บิ๊กตู่’ เหน็บนโยบายหาพรรคการเมืองพูดเองเออเอง คนชอบ แต่ไร้หลักการปท.ชาติรับกรรม   ขอโทษปชช.รบกวนเดินหาเสียงตลาด เผยนโยบายพรรคใกล้เสร็จส่งกกต.แล้ว

16 เม.ย.2566-ที่องค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.)  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ว่า  ก่อนอื่นต้องขอโทษประชาชนด้วยที่วันนี้ มีความจำเป็นออกมาลงพื้นที่ในฐานะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในนามพรรค รทสช. ถือเป็นกติกาที่ต้องหาเสียงกัน ดังนั้นต้องขอโทษหากรบกวนคนที่มาตลาด แต่ก็ยินดีที่ทุกคนให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง ทุกคนมีมิตรไมตรีให้กัน ฉะนั้นขออวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการค้าขายต่างๆเหล่านี้ และทำให้ตนมีการบ้านกลับไปคิดอีกว่าจะทำอะไรให้ดีขึ้นกว่าเดิม เป็นการทำต่อ และทำใหม่ให้ดีขึ้นกว่านี้อีก

ทั้งนี้ ปัญหาบ้านเราคือร้านค้าเล็กๆน้อยๆค่อนข้างเยอะ กำลังการผลิตเยอะ แต่กำลังซื้อน้อยไป ฉะนั้นจะต้องทำให้ทั้งสองทางไปด้วยกัน ทั้งคนขายและคนซื้อ สามารถพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันได้ในการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในระดับฐานราก เพราะเป็นส่วนสำคัญของประเทศไทยทั้งในวันนี้และวันหน้า หากเราสามารถพึ่งพาตัวเองได้ใช้จ่ายกันในพื้นที่ได้ เงินก็จะหมุนเวียนในระบบมากขึ้น ในส่วนของงบประมาณรัฐบาลที่เพิ่มเติมมาคือเรื่องของการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างประเทศ ที่เรายังมีแผนเอาไว้แล้ว ซึ่งจะมีผลในไม่อีกกี่ปีข้างหน้า เป็นการเติมทั้ง 2 อย่างให้เต็มประเทศไทยก็จะมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน

เมื่อถามว่าอยากให้นายกรัฐมนตรีอธิบายถึงเงินนโยบายของพรรคเรื่องเงินสวัสดิการที่บอกว่าให้มากกว่า 10,000 บาท พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หากลองดูตัวเลขง่ายๆ ถ้าตัวเลขที่เราทำได้คำนวณดูแล้วไม่ผิดกติกาไม่ผิดกฎหมาย ตั้งวงเงินไว้เดือนละ 1,000 บาท ถ้ารวมทั้งปีได้ 12,000 บาท อันนั้นถ้าเปรียบเทียบ 10,000 บาทกี่เดือน ในระยะเวลา 6 เดือน ที่ใช้ และเป็นการให้ครั้งเดียว แต่สิ่งที่เราทำได้ทุกเดือน ลองคูณตัวเลขดีมาก และน้อยอย่างไร และมันพุ่งเป้าไปสู่กลุ่มที่เขามีความเดือดร้อนจริงหรือไม่ การใช้เงินไม่ใช่จะหว่านไปทั่ว มันไม่ได้ อันนี้เป็นความคิดเห็นของทางต่างประเทศด้วย เราก็นำมาวิเคราะห์ และวิจัยว่าอะไรทำได้หรือทำไม่ได้  ทั้งนี้อย่าลืมว่าเราจะต้องให้ความ สำคัญกับเสถียรภาพการเงิน ของเราที่แข็งแกร่ง

ถามต่อว่าของเดิมที่ทำอยู่จะดีกว่า ตรงที่ใช้ได้ทั้งประเทศ ไม่ได้กำหนดรัศมีในการใช้ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะใช้ได้ทุกพื้นที่ อย่าลืมว่าบางร้านค้าข้างล่างที่หวังจะไปเก็บเงินอะไร  มีปัญหาอยู่ตรงที่บางร้านเป็นร้านเล็กๆน้อยๆอาจไม่ได้จดทะเบียน ซึ่งเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน นอกจากยกระดับให้เขาดีขึ้น เพื่อเข้าสู่ระบบในการจดทะเบียนห้างร้านเพราะถ้าไม่จดทะเบียนขึ้นทะเบียน ก็พัฒนาไม่ได้ เก็บภาษีไม่ได้ แต่ก็เห็นใจ เพราะบางคนรายได้น้อย  เข้าใจหรือไม่ลองคิดเปรียบเทียบอย่างนี้

“ผมไม่ได้ติเตียนว่าใครทั้งหมด ผมบอกเหตุผลของผม และล่าสุดผมเป็นผู้บริหารเอง ในขณะนี้ลองเปรียบเทียบดูแล้วกัน ถ้าไม่พุ่งเป้า เราจะเพียงพอหรือไม่ ถ้าไม่แก้ปัญหาแบบพุ่งเป้าใครเดือดร้อนมาก เดือดร้อนน้อยก็ต้องดูแลกันตามนั้นทุกเรื่อง ก็ต้องทำตามนี้ในหลักการ”

เมื่อถามอีกว่าในเรื่องของนโยบายที่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ให้ส่งตามกำหนดระยะเวลาพรรครทสช.เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทางพรรคทำแล้วและเขาต้องส่งให้ทัน คงใกล้เสร็จหมดแล้ว เผลอๆจะเสร็จหมดแล้วด้วยซ้ำไป เพราะเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนก็ได้ถาม ทราบว่าใกล้เสร็จแล้ว เพราะเขาทำมาหลายวันแล้ว และรู้ว่าต้องชี้แจงกกต.ที่มาอย่างไร จากตรงไหนจะใช้จ่ายอะไร ต้องคำนึงถึงรายรับที่มีอยู่และ รายจ่ายที่ต้องมีอยู่แล้วเดิม ซึ่งการดูแลผู้มีรายได้น้อยก็มีอยู่แล้ว ซึ่งทุกนโยบายต้องผ่านประธาน คณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคฯ ไม่เช่นนั้นจะเป็นประธานไปทำไม เพราะประธานไม่ได้มีหน้าที่นั่งเฉยๆ

เมื่อถามถึงผลสำรวจความเห็นประชาชนที่อันดับความนิยมตก ทำให้เสียกำลังใจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทันทีว่า ไม่เสียหรอกก็เป็นเรื่องของประชาชน เป็นเรื่องของประเทศชาติ ว่าจะได้รับอะไรต่อไป ก็แล้วแต่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคน ตนไม่ห้ามและไปอะไรกับใครไม่ได้อยู่แล้ว

ถามอีกว่าในช่วงโค้งสุดท้ายพรรครทสช.จะมีปรับกลยุทธ์ในการหาเสียงอย่างไรหรือไม่ เพื่อให้ผลโพลมาอันดับ 1 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญสุด ตนมองในแง่ว่าทำอย่างไรให้ประชาชนเข้าใจ และเกิดการให้ความร่วมมือ หากเราหาเสียงกันแบบมีแต่ให้ จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เราก็ทราบกันมาอยู่แล้วที่ผ่านมา ก็เกิดเยอะแยะแล้วแล้ว ได้อะไรกลับมาหรือไม่  มีแต่ปัญหามาตลอด ฉะนั้นวันนี้ทุกประเทศในโลกวันนี้ ถ้าใช้วิธีการนี้ก็คือการดูแลเฉพาะเจาะจง กลุ่มรายได้เท่าไหร่ควรจะได้อะไร และอะไรที่ควรจะได้ทุกคน อะไรที่จะได้บางคน บางรายได้มีหลักคิดทั้งหมด พูดเองเออเองทั้งหมด คนชอบก็กรรมเวรของประเทศชาติไปก็แล้วกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดิเรกฤทธิ์' พ้อ! ไร้องค์กรตรวจสอบ กกต. ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ 'เลือก สว.'

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "ประชาธิปไตยต้องไม่มีอำนาจใดไม่ถูกตรวจสอบ"

เลขาฯกกต. โต้ก้าวไกล ปมยื่นยุบพรรค

นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต และนายทะเบียนพรรคการเมือง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึงอำนาจ และการปฏิบัติหน้าที่ของกกต. เลขาฯกกต.และนายทะเบียนพรรคการเมืองต่อกรณีการยื่นยุบพรรคการเมือง

อีลอน มัสก์ หนึ่งในคนร่ำรวยระดับโลกที่ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โดนัลด์ ทรัมป์

โดนัลด์ ทรัมป์ค่อยเบาใจเรื่องเงินทองที่ต้องใช้ในการรณรงค์หาเสียงลงได้บ้าง เมื่ออีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ข

'วัน' ยื่น กกต. ลาขาดเพื่อไทย เปิดใจทั้งน้ำตา คำพูดผู้ใหญ่ต้นเหตุไขก๊อก

'วัน อยู่บำรุง' ยื่นลาออกเพื่อไทยแล้ว เปิดใจน้ำตาคลอ พ้อคำพูดผู้ใหญ่ไม่อาจด้านอยู่ต่อ ย้ำสัมพันธ์ 'บิ๊กแจ๊ส' แน่นแฟ้น​ ลั่นตระกูลอยู่บำรุงไม่ประจบสอพลอใคร พร้อมเปิดทางร่วมงานพรรคใหม่