11 เม.ย.2566 - เมื่อเวลา 12.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายหาเสียงเงินดิจิทัล ของพรรคเพื่อไทย คิดว่าทำได้หรือไม่ ในฐานะที่เป็นรัฐบาลมา 8 ปี ว่า วันนี้ได้ให้โอกาสหน่วยงานด้านเศรษฐกิจการเงินการคลังมาชี้แจง แต่ตนไม่ได้อยากไปอะไรกับใคร เพราะเป็นเรื่องของการหาเสียงของแต่ละพรรค วันนี้มาพูดคุยถึงการรักษาเสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศ และการใช้จ่ายของประเทศที่ผ่านมา เราใช้จ่ายอย่างไร เพื่อจะพุ่งเป้าไปยังผู้ที่เดือดร้อน ทำให้เกิดรายได้ เรื่องการประกอบอาชีพต่างๆเพิ่มเติมด้วย ไม่ใช่ให้เงินอย่างเดียว โดยจะเห็นได้ว่าในส่วนที่เป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ร่วมทำกันมาแล้ว ซึ่งก็ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนไปได้มากพอสมควร ทั้งนี้ ต้องดูเม็ดเงินว่าจะสามารถทำอะไรได้อีก ฉะนั้นงบประมาณต่างๆของปี 2567 ตั้งไปแล้ว ถ้าจะไปแก้ไขอะไรต้องไปแก้กันในสภาฯหน้า เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นกฎหมายเป็นระเบียบที่ต้องทำ งบประมาณไว้ก่อนล่วงหน้าในปี 2567 โดยจะต้องนำสิ่งต่างๆที่จะต้องทำต่อในเรื่องการลงทุนต่างๆที่มีกฎหมายชัดเจนการลงทุนกี่เปอร์เซ็นต์การใช้งานกี่เปอร์เซ็นต์ และมีงบประมาณเหลือเท่าไหร่ที่จะทำโครงการใหม่ รวมถึงงบประมาณการใช้หนี้ การเติมเงินคงคลัง ที่เราสำรองจ่ายไปในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 ฉะนั้น ต้องมองในบริบทใหญ่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ถ้าเรามองในภาพรวมจะเห็นว่าเศรษฐกิจเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ซึ่งคำว่าดีขึ้นไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะร่ำรวยทั้งหมด เพียงทำให้สถานะทางการเงินการคลังของเราแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น สิ่งที่เห็นได้คือการท่องเที่ยว ที่มีคนเข้ามาหลาย 10 ล้านคน การจองเครื่องบินเข้ามาหลายหมื่นไฟล์ ในช่วงโลว์ซีซั่น ถือ เป็นการจัดหารายได้เพิ่มเติม ซึ่งเราจะต้องเตรียมความพร้อมประเทศของเรา เพื่อรองรับการท่องเที่ยวตลอดจนการลงทุนใหม่ โดยบีไอไอสถิติช่วงต้น ปีที่ผ่านมาสูงขึ้นถึง 40 กว่าเปอร์เซ็นต์หลายแสนล้านบาท และยังมีการลงทุน จากภายนอกประเทศเข้ามาอีก รวมถึงเรื่องอุตสาหกรรมใหม่ๆ รถไฟฟ้า แบตเตอรี่สถานีเติมไฟต่างๆ มีครบทุกอัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญจะต้องพัฒนาเทคโนโลยีให้ได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งวันนี้เดินหน้าไปเยอะแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นรายได้ที่จะเข้ามาตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างที่หลายคนอยากได้มากขึ้น ถ้าเราหาเงินไม่ได้ก็จะลำบาก ซึ่งต้องใช้เวลาทำต่อเนื่องหลายปี และหลายอย่างเราทำใหม่ เพื่อรองรับสถานการณ์ที่จะต้องใช้งบประมาณสูงขึ้น ในโอกาสต่อไป
“ฉะนั้น จะทำอะไรใหม่ๆก็ตามจะต้องคำนึงถึงว่าเรามีทรัพยากรอยู่เท่าไหร่ เราจะดูแลใครได้บ้างและดูแลได้มากน้อยแค่ไหน ฉะนั้นการจะทำอะไรต่างๆ ก็ตามถ้ามันมากเกินไปสิ่งที่ทำอยู่แล้วเดิม ก็สูญเสียไปทั้งหมดนั่นแหละ อะไรที่เคยได้มันก็จะไม่ได้ เพราะไปทำเรื่องใหม่ทั้งหมด ซึ่งมันจะคุ้มค่ากันหรือเปล่ากับการสูญเสียไปก็ไม่รู้เหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องของประชาชนที่จะต้องช่วยกันคิดแล้วกัน” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังมีข้อเสนอแนะหรือมีข้อห่วงใยอะไรหรือไม่ในเรื่องดังกล่าว นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ระมัดระวังเรื่องความมีเสถียรภาพของสถานะทางการเงินการคลังของประเทศ ซึ่งตอนนี้เราอยู่ในระดับต้นๆ ที่รักษามาตรฐานตรงนี้ไว้ได้ องค์กรทางด้านการเงินระหว่างประเทศชื่นชมเราสามารถบริหารจัดการได้ดี การเงิน เรามีเสถียรภาพ ค่าเงินบาทยังโอเคมีค่าอยู่ หลายๆ อย่างมันดีขึ้น เพียงแต่ว่ายังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับประชาชนโดยรวม ก็ต้องเห็นใจรัฐบาลด้วย ถ้ามีเราก็รู้แลให้ได้หมด อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งต้องระมัด ระวังที่สุดในการใช้จ่ายเงิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สส.เพื่อไทย ดี๊ด๊า ประเทศไทยมีระบบที่เป็นมาตรฐาน!
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้คงสบายใจขึ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับ
สาวกเพื่อไทย ยื่นศาลรธน.สอบ 'ธนพร' ละเมิดอำนาจศาล
ที่บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญ นายนิยม นพรัตน์ หรือเค สามถุยส์ และนายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร เดินทางมายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นหนังสือร้อง นายธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์
'ชูศักดิ์' เผย 'เพื่อไทย' ได้รับความเป็นธรรม ศาลรธน. ไม่รับคำร้องปมล้มล้างการปกครอง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายอิสระ ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย(พท.) ยุติการกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองจะผูกพันไปยังกรณีที่มีการยื่นคำร้องเดียว
'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง
จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
2 ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย รับคำร้อง 'ทักษิณ' สั่งรัฐบาลเอื้อประโยชน์ฮุนเซน น่าจะเกิดผลใช้สิทธิล้มล้างปกครองฯ
จากกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2567 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูก
'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.
หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ