ศาลอาญาคดีทุจริตฯ สั่งคุกเเก๊งตำรวจกับพวกทุจริตจัดสร้างเเฟลตตำรวจตลอดชีวิต แต่ให้การเป็นประโยชน์เหลือ 33 ปี 4 เดือน โดยโทษลดหลั่นลงมา
30 มี.ค.2566 - ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลอ่านคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.96,131/2564 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.ธีรยุทธ กิติวัฒน์ คณะกรรมการประกวดราคาจัดสร้างโครงการ กับพวกประกอบด้วย พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ, พล.ต.ต.สมาน สุดใจ, พ.ต.อ.ปัทเมฆ สุนทรานุยุตกิจ, พ.ต.อ.จิรวุฒิ จันทร์เพ็ง, พ.ต.ต.สิทธิไพบูลย์ คำนิล, พ.ต.ท.คมคริบ นุดาลัย, ด.ต.สายัณ อบเชย, บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นจำเลยที่1 -9 คน เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำเเหน่งหน้าที่
โจทก์ฟ้องว่า จําเลยที่ 1-6 เป็นเจ้าพนักงานได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการประกวดราคาจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ รายการอาคารที่พักอาศัย (แฟลต) ขนาด 30 ครอบครัว สูง 5 ชั้น จำนวน 163 หลัง วงเงิน 3,709,880,000 บาท ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีเจตนาแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายและเอื้อประโยชน์แก่บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่นจำกัด จำเลยที่ 9 โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมเพื่อช่วยเหลือจำเลยที่ 9 ให้เป็นผู้มีสิทธิเข้าทำสัญญา โครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำเลยที่ 7 เป็นเจ้าพนักงานได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตรวจการจ้าง ได้อาศัยโอกาสที่มีอำนาจหน้าที่เรียกรับเงินจากจําเลยที่ 9 จํานวน 60,000บาท เพื่อช่วยเหลือจําเลยที่ 9 ด้วยการอำนวยความสะดวก ในการดำเนินการก่อสร้างการตรวจการจ้าง การตั้งเรื่องเบิกจ่าย และการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการก่อสร้าง
โดยจําเลยที่ 9 ยินยอมจ่ายเงินให้แก่จําเลยที่ 7 เพื่อแลกกับการตอบแทนช่วยเหลือในการตรวจการจ้าง จำเลยที่ 8 เป็นเจ้าพนักงานได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ควบคุมงานได้อาศัยโอกาสที่มีอำนาจหน้าที่เรียก รับทรัพย์สินจากจำเลยที่ 9 จำนวน 91,618,000 บาท เพื่อช่วยเหลือจำเลยที่ 9 ด้วยการอำนวยความสะดวกในการดำเนินการก่อสร้าง การตรวจการจ้าง การตั้งเรื่องเบิกจ่าย และ การดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง โดยจําเลยที่ 9ยินยอมจ่ายเงินให้แก่จําเลยที่ 8 เพื่อแลกกับการตอบแทนช่วยเหลือดังกล่าว ขอให้ลงโทษจําเลยที่ 1-6 ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 151,157 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงาน ของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10,12 จำเลยที่ 7,8 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149,157 จําเลยที่ 9 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149,157,86 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิด เกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา86
พิเคราะห์พยานหลักฐานตามทางการไต่สวนประกอบสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของโจทก์และพยานหลักฐานของจำเลยทั้งเก้าแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 1-6 เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตๆ อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิด ความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151,157 และเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำการใดๆ โดยมุ่งหมายมิให้ มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมเพื่อเอื้ออำนวยแก่จำเลยที่ 9 ให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงาน ของรัฐ และเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐซึ่งมีอำนาจหรือหน้าที่ในการพิจารณาหรือดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคา รู้หรือมีพฤติการณ์ปรากฏแจ้งชัดว่าควรรู้ว่าการเสนอราคาในครั้งนั้น มีการกระทำผิด ละเว้นไม่ดำเนินการเพื่อให้มีการยกเลิกการดำเนินการเกี่ยวกับการเสนอราคาในครั้งนั้น ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 10,12 ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151เป็นบทเฉพาะย่อมไม่ต้อง ปรับบทความผิดตาม มาตรา157 ซึ่งเป็นบททั่วไปอีก
ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการ อย่างใดในตำแหน่งว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา149 และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 157 ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 เป็นบทเฉพาะย่อมไม่ต้อง ปรับบทความผิดตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบททั่วไปอีก
จําเลยที่ 7 เป็นเจ้าพนักงานเรียก รับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด ในตำแหน่งว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา149 และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 157 ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 เป็นบทเฉพาะย่อมไม่ต้องปรับบทความผิดตาม มาตรา157 ซึ่งเป็นบททั่วไปอีก ทรัพย์สินหรือประโยชน์อันอาจคำนวณราคา เป็นเงินได้กรณีจําเลยที่ 7 จํานวน 60,000บาท
กรณีจําเลยที่ 8 จํานวน 91,618,000 บาท ที่ได้มาจากการกระทําความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการให้รับตามพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 มาตรา 32 เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าเงินจำนวนดังกล่าวถูกนำไป รวมกับทรัพย์สินอื่นหรือมีการจําหน่ายจ่ายโอนเป็นทรัพย์สินอื่นโดยสภาพไม่สามารถส่งมอบได้หรือการติดตามเอาคืนจะกระทําได้โดยยากเกินสมควร จึงให้จําเลยที่ 7,8 ส่งสิ่งที่ศาลสั่งริบชำระเป็นเงินจำนวนดังกล่าวแทนตามมูลค่าภายในกำหนด 1 เดือน นับแต่วันอ่านคำพิพากษา
จำเลยที่ 9 เป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1-6 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ตามพ.บ.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86
พิพากษาว่า จําเลยที่ 1-6 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 (เดิม) และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10,12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จําเลยที่ 7,8 มีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147(เดิม) จําเลยที่ 9 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐฯ มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 86 การกระทำของจำเลยที่ 1-6 เป็นการกระทำกรรมเดียวอันเป็นความผิดต่อ กฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ฯ มาตรา 12 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มี โทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ลงโทษจำเลยที่ 1-6จำคุกคนละตลอดชีวิต และปรับคนละ 3.9 เเสนบาท จำเลยที่ 7 จำคุก 5 ปี จำเลยที่ 8 จำคุก 19 ปี จำเลยที่ 9ปรับ 2.6 เเสนบาท
ทางนำสืบของจำเลยที่ 1-8 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุ บรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78ประกอบมาตรา 53 จําเลยที่ 1-6 คงจำคุกคนละ 33 ปี 4เดือน และปรับคนละ 2.6 เเสนบาท จำเลยที่ 7 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 8 คงจำคุก 12ปี 8 เดือน นับโทษของจำเลยที่ 2ใ นคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอาญา หมายเลขแดงที่ อท 28512561 ของศาลนี้ โดยให้จำเลยที่ 7,8 ส่งสิ่งที่ศาลสั่งริบ เป็นเงินแทนตามมูลค่าดังกล่าวภายในกำหนด 1 เดือน นับแต่วันอ่านคำพิพากษา
หากจำเลยที่ 1-6 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 กรณีต้องกักขัง แทนค่าปรับให้กักขังเกินกว่า 1 ปี แต่ไม่เกิน 2 ปีได้ จำเลยที่ 9 ซึ่งเป็นนิติบุคคลไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29,29/1 ยกฟ้องจำเลยที่ 9 สำหรับฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทําความผิดของจําเลยที่ 7และที่ 8
ภายหลังมีคำพิพากษา จำเลยทั้ง 8 ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 7, ,8 ส่วนจำเลยที่ 1-6 อยู่ระหว่างศาลอุทธรณ์พิจารณา
ทั้งนี้ภายหลังครบกำหนดเวลาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวจำเลยที่ 1-6 ไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพเพื่อรอคำสั่งพิจารณาประกันของศาลอุทธรณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับคดีนี้ ป.ป.ช.ยื่นฟ้องฟ้องคดีเมื่อวันที่ 13 ก.ค.2564 ศาลได้ดำเนินกระบวนพิจารณานัดสอบคำให้การ ตรวจพยานหลักฐาน และสืบพยานโจทก์และจำเลย 29 นัด รวมระยะตั้งแต่วันฟ้องถึงวันอ่านคําพิพากษาเป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน 17 วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีหนาว! ‘เรืองไกร’ ร้อง ปปช. ตรวจสอบจนท.ของรัฐ 8 ราย ยื่นบัญชีและเสียภาษีถูกต้องหรือไม่
วันนี้ผมจึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ของรัฐรวม 8 รายดังกล่าว
'รพ.ตำรวจ' เตะถ่วง! ไม่ยอมส่งเวชระเบียน 'ทักษิณ' ให้ ป.ป.ช.
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ชวนคุยเรื่องคุณทักษิณ กับกระบวนการยุติธรรม
'พีระพันธุ์' ข้องใจนำกัญชากลับสู่ยาเสพติด 'คนเดียวกันพูดคนละอย่างได้อย่างไร' จี้ป.ป.ส.แจง
'พีระพันธุ์' ข้องใจ นำกัญชากลับเข้าสู่บัญชียาเสพติด 'คนเดียวกันพูดคนละอย่างได้อย่างไร' เล็งให้ ป.ป.ส.แจง หลังนโยบายชักเข้าชักออก ขอคุยก่อนประชุม ย้ำต้องอธิบายให้ได้
ชัดเจน! เสี่ยหนูบอกนายกฯ แล้วไม่เห็นด้วยโยกกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด
'อนุทิน' แจ้งนายกฯทราบ เตรียมโหวตไม่เห็นด้วยกัญชากลับเป็นยาเสพติดในที่ประชุม ป.ป.ส. หลังเกิดความไม่สบายใจ ชี้พรรคร่วม รบ.ต้องสนับสนุนนโยบายซึ่งกันและกัน ข้องใจ สธ.เปลี่ยนความเห็นกลับไปกลับมา
ศาลนัดฟังคำสั่ง 'บิ๊กโจ๊ก' ฟ้องหมิ่น 'อัจฉริยะ' 6 ส.ค. ปัดมีคนเรียก 10 ล้าน แลกแฉ
ศาลนัดฟังคำสั่ง 'โจ๊ก' ฟ้องหมิ่น ‘อัจฉริยะ’ 6 ส.ค. 'บิ๊ก ตร.' ย้อนถามกลุ่มนายพลชลบุรีโดนคดีกลับไม่ถูกปลดออก ปัดมีคนเรียกเงิน 10 ล้าน แลกแฉนายพล
วิจารณ์แซ่ด! อัยการปราบทุจริตฯ สั่ง สอท. ส่งสำนวนคดีเว็บพนันพันบิ๊กตร. ให้ ป.ป.ช.
'อัยการปราบทุจริตฯ' ร่อนหนังสือด่วนที่สุดให้ 'สอท.' รับสำนวนคดีเว็บพนันพันบิ๊กตำรวจ ไปส่ง ป.ป.ช. ทั้งที่ อสส. ยังไม่ได้มีคำสั่งชี้ขาดข้อหารือ วิจารณ์เเซ่ดบรรทัดฐานใหม่