‘แรมโบ้’ชำแหละยับเพื่อไทยอ่อนเปลี้ยเพลียแรง นโยบายไร้รูปธรรม หยัน ‘อุ๊งอิ๊ง’ หาความสามารถไม่เจอ "เศรษฐา" เก่งขายบ้านแต่นี่ประเทศไทย ชี้จะกวาดส.ส. 310 ที่นั่ง อาจเป็นจริงแค่ในความฝัน แต่พอตื่นขึ้นมา ระวังจะกระอักเลือดกันทั้งคอกและเจ้าของคอก
10 มี.ค.2566 - นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ 'อุ๊งอิ๊ง' ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และบุตรสาว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หนีคุกหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ออกมาประกาศว่าเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส. 310 ที่นั่งเป็นรัฐบาลเพียงพรรคเดียว
นายเสกสกล กล่าวว่าเป็นเรื่องปกติทางการเมืองอยู่แล้ว เพราะเมื่อถึงการเลือกตั้ง แต่ละพรรคการเมืองก็ล้วนมีความคาดหวังมี การตั้งเป้าหมาย จำนวนผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. เข้าไปทำหน้าที่ในสภา คาดหวังจะจัดตั้งกันเป็นรัฐบาลกันทุกพรรคอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามความคาดหวังและการตั้งเป้าหมายนั้นต้องยืนอยู่บนตรรกะเหตุผลและข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมของพรรค นโยบายของพรรค พอที่จะสามารถดึงดูดพี่น้องประชาชนให้ตัดสินใจเลือกส.ส.และพรรคการเมืองนั้นๆหรือไม่
นายเสกสกล กล่าวว่าสำหรับพรรคเพื่อไทยนั้น สภาพวันนี้ต่างจากพรรคไทยรักไทย ในอดีตที่เคยชนะเลือกตั้งเมื่อปี 2548 แบบแลนด์สไลด์ ได้ส.ส. 377 ที่นั่ง แต่นั่นก็ทั้งกวาด ทั้งต้อน ทั้งดูด ใช้อำนาจรัฐสารพัดรูปแบบเพื่อเอาส.ส. จากพรรคการเมืองต่างๆ เข้าไปไว้ในคอกดูดกันแบบยกคอกยกพรรคกันเลยทีเดียว จนชนะถล่มทลาย ตามประสงค์ของเจ้าของคอกขณะนั้น
"แต่สภาพของพรรคเพื่อไทยวันนี้อ่อนเปลี้ยเพลียแรง บรรดาผู้ที่เคยถูกกวาดต้อนเข้าคอกไทยรักไทย มาพลังประชาชน วันนี้ตาสว่าง รู้เซ่นเห็นชาติเจ้าของคอกกันดี หลายกลุ่มหลายก๊ก เลิกถูกจูงจมูกปลดแอกออกมาตั้งพรรค ออกมาสังกัดพรรคต่างๆเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการที่พรรคเพื่อไทย ตั้งเป้าหมายจะกวาด ส.ส.สูงถึง 310 ที่นั่ง จึงเป็นไปไม่ได้เลย”
นายเสกสกล กล่าวต่อว่าและที่สำคัญนโยบายพรรคเพื่อไทยวันนี้ แทบจะมองไม่เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอันหรือเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ที่จะสามารถดึงดูดพี่น้องประชาชนไปลงคะแนนเลือกตั้งให้ เท่าที่เห็นก็มีแค่จะเอาพ่อกลับบ้าน หรือเอ่ยอ้างเอาความสำเร็จบางนโยบายในอดีต มาอวดอ้างขายฝัน ทั้งที่บริบทสังคมได้เปลี่ยนแปลงไปเยอะมากแล้ว
ขณะที่บางนโยบายที่ล้มเหลว ทุจริต คอร์รัปชัน สร้างความพินาศย่อยยับให้กับประเทศชาติบ้านเมืองอย่างจำนำข้าว พี่น้องชาวนา เกษตรกร คนรากหญ้าเซ่นสังเวยชีวิตหลายต่อหลายคน กลับไม่ยอมรับความผิดพลาดแต่ประการใด
นายเสกสกล กล่าวด้วยว่า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย วันนี้เผยโฉมให้เห็น 2 คนคนแรกคือ นางสาวแพทองธาร นอกจากเป็นลูกสาวอดีตนายกฯผู้หนีคุกหนีคดีแล้ว อยากถามว่า ตลอดชีวิต 35 ปีกว่าๆ อะไรคือความสามารถที่ประสบความสำเร็จในชีวิต และได้เคยรู้ทุกข์ รู้สุขของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะ คนยากคนจนสักกี่มากน้อย
อีกคนคือนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งตนเองยอมรับว่ามีความสามารถ ประสบความสำเร็จ ในการประกอบธุรกิจโดยเฉพาะการขายบ้าน แต่นี่คือประเทศไทยไม่ใช่หมู่บ้านจัดสรร ซึ่งมีความแตกต่างกัน เพราะต้องทำให้ไม่ใช่ทำเอา ฉะนั้นจึงไม่ง่าย ที่คนคนหนึ่งประสบความสำเร็จในธุรกิจจะประสบความสำเร็จในการบริหารประเทศชาติบ้านเมือง
"ฉะนั้นแล้วทั้ง สภาพพรรคเพื่อไทยที่ไม่เหมือนในอดีต ทั้งนโยบายที่ไร้รูปธรรม เน้นพาพ่อกลับบ้าน และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยที่เปิดตัวออกมาดังกล่าวนั้น จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่พรรคเพื่อไทยจะกวาดส.สเข้าสภาสูงถึง 310 ที่นั่ง อาจจะเป็นจริงก็แค่ในความฝัน แต่พอสะดุ้งตื่นขึ้นมารู้ตัวอีกทีระวังจะกระอักเลือดกันทั้งคอกและเจ้าของคอก"นายเสกสกล กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คนเสื้อแดงแห่รับ 'ทักษิณ' เตรียมปราศรัยหาเสียงนายกอบจ. วันเดียว 3 เวที
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ของนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายก
แม้วเดินสายโชว์บารมี อิ๊งค์ปราศรัยนครพนม
"ทักษิณ" ลุยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ. จ่อขึ้นเวทีเชียงราย 3 เวที "เทิง-เชียงของ-แม่จัน" ปราศรัยช่วย "สลักจฤฎดิ์-เมียยงยุทธ" ก่อนเดินสายลำปาง-นครพนม-บึงกาฬ-หนองคาย-มหาสารคาม-ศรีสะเกษ
ย้อนวิบาก...3ป.67 ปิดฉาก...ก้าวไกล เปลี่ยน...นายกฯ เปิด...ระบอบทักษิณ I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 04 มกราคม 2568
‘พ่อ-ลูก’ แห่ช่วยหาเสียง หลายพื้นที่สอย ‘ผู้สมัคร’
“แพทองธาร” ลุยช่วยหาเสียง อบจ.นครพนม 12 ม.ค.นี้ ส่วนพ่อนายกฯ ลงซ้ำ 18 ม.ค.นี้ “อนุทิน” ไม่หวั่น ขอแค่ส่งใจช่วยเครือข่ายสีน้ำเงินรักษาเก้าอี้ภาคอีสาน
'วันนอร์' ชี้นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร บทลงโทษไม่ควรรุนแรงถึงขั้นตัดสิทธิ-ยุบพรรค
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีสถานการณ์การเมืองปี 2568 มีโอกาสเกิดคดีความที่นำมาสู่การยุบพรรคการเมือง และตัดสิทธิ สส. ว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับองค์กรที่มีหน้าที่วินิจฉัย
'ชูศักดิ์' ดักคอฝ่ายค้านยื่นซักฟอก บอกปม 'ชั้น14-MOU44' คุยนานแล้วไม่มีน้ำหนัก
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบมีการลงมติตามมาตรา 151 ในสมัยประชุมนี้ว่า ถือเป็นสิทธิของฝ่ายค้าน แต่ตนคิดว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นขึ้นอยู่กับประเด็น