ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊กเพจพรรคเพื่อไทย
9 มี.ค.2566 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "ประลองกำลัง" โดยนายจตุพร กล่าวถึงคำร้องการยุบพรรคว่า กรณีคนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี (นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ) และไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดได้เลย ถือเป็นบุคคลภายนอกพรรคการเมือง จะมีโอกาสได้เพียงเป็นผู้ช่วยหาเสียงเท่านั้น ดังนั้น การพูดแต่ละอย่างจะต้องระวัง ยิ่งตนเคยศึกษาเรื่องนี้ยังถูกร้องครอบงำจึงมีบทเรียนโดยตรงมาแล้ว
พร้อมย้ำว่า การเป็นบุคคลภายนอกมีความละเอียดอ่อนต่อการพูดหาเสียง และที่สำคัญอย่าพูดต่อหน้ากรรมการบริหาร หรือกรรมการบริหารไม่ห้ามปราม หรือพูดนอกเหนือจากมติกรรมการบริหารพรรค ซึ่งจะเข้าข่ายการครอบงำ ดังนั้น จุดหลักคำร้องการยุบพรรคจะอยู่ตรงนี้ เช่น การพูดจะให้ใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ ขณะที่พรรคยังไม่มีมติใดๆ จึงควรไปศึกษาว่าเป็นการครอบงำหรือไม่
รวมทั้ง คนนอกพรรค ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคนำเสนอนโยบายต่างๆ ในขณะที่พรรคยังไม่ได้มีมติ ย่อมเป็นหลักฐานชัดเจนอาจเข้าข่ายครอบงำและถูกร้องให้ยุบพรรคได้ไม่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม การยื่นยุบพรรคเพื่อไทยของนายสนธิญา สวัสดี นั้น ตนว่า ไม่น่าตกใจ แต่สิ่งที่ควรต้องตกใจมาจากการยื่นคำร้องยุบพรรคก่อนหน้านี้ เพราะผ่านการตรวจสอบแบบลับๆในด่านแรกเป็นเบื้องต้นไปแล้ว
นอกจากนี้ เห็นว่า การยุบพรรคมีความสัมพันธ์กับผู้มีอำนาจรัฐ โดยบทเรียนการยุบพรรคที่ผ่านมามักดำเนินการใช่วงเวลาให้เกิดผลกระทบทางการเมืองตามความต้องการ ซึ่งการยุบพรรคมีทั้งยุบขณะที่ยังไม่มีการเลือกตั้ง หรือยุบพรรคระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง หรือยุบพรรคหลังการหาเสียงเลือกตั้ง ดังนั้น ในสถานการณ์ขณะนี้ อยู่ที่ผู้มีอำนาจจะเลือกห้วงเวลาใดเท่านั้น
นายจตุพร เชื่อว่า ความมุ่งหมายทางการเมืองอยู่ที่การเข้าสู่อำนาจ รัฐมนตรีบางคนพูดตรงๆ ไม่สลับซับซ้อนถึงการเป็นนักการเมืองที่ไม่ถนัดการเป็นฝ่ายค้าน โดยเลือกตั้งทุกครั้งจะได้เป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลเสมอ ดังนั้น จึงต้องเล่นการเมืองให้เป็นภายใต้กติกา รธน. 2560 ที่มีข้อห้ามยิบย่อยมากมายเหลือเกิน
"ในเรื่องคำร้องยุบพรรคกับพฤติการของผู้ร้องจะแตกต่างกัน ในกรณีพฤติการผู้ร้องนั้น แม้มีหลักฐานว่า ผู้ร้องมีเบื้องหลัง อย่างไรก็ตาม การพิสูจน์ความผิดนี้ย่อมไปเข้ากฎหมายอื่น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อความที่ร้องให้ยุบพรรค จึงเป็นคนละขั้นตอน ดังนั้น อ.ชูศักดิ์ ศิรินิล ชี้แจ้งว่าคนร้องมีเบื้องหลัง แต่เป็นการพูดเชิงการเมือง มุ่งทำลายเครดิตเพื่อลดน้ำหนักความน่าเชื่อถือของผู้ร้อง แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่ผู้ร้องได้ร้องให้ยุุบพรรค ดังนั้น การตอบโต้จึงไม่ตรงประเด็นเนื้อหายุบพรรค"
ก่อนหน้านี้ นายจตุพร กล่าวไว้ว่านายสนธิญา สวัสดี ไปยื่นการยุบพรรคเพื่อไทยจากกรณีการครอบงำนั้น ตนอยากบอกณัฐวุฒิว่า ไม่ต้องสนใจ เพราะสิ่งที่ควรสนใจนั้น ได้มีการยื่นและสอบสวนชี้มูลความผิดเบื้องต้นจนจบไปแล้ว ซึ่งกรณีนี้มีขั้นตอนตามลำดับ ใน 4 ด่านคือ ยื่นเรื่อง สอบสวน ตั้งอนุกรรมการมาตรวจสอบ ส่ง กกต.ชุดใหญ่พิจารณาชี้มูล แล้วส่งศาล รธน. วินิจฉัย ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนตั้งอนุกรรมการมาตรวจสอบเพื่อส่งให้ กกต.ชุดใหญ่มีมติ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กกต. เตือนข้อพึงระวังหาเสียงและยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง อบจ.
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารประชาสัมพันธ์ข้อพึงระวังในการหาเสียง การรายงานค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อให้
กมธ.คุ้มครองผู้บริโภครับลูกเร่งผลักดัน 3 กม.ของภาคประชาชน
'กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค' รับหนังสือแก้ไขกฎหมาย 3 ฉบับ เร่งสภาผลักดัน แก้ปัญหาสินค้าไม่ตรงปก - ติดฉลาก -ให้ข้อมูลโภชนาการไม่สมบูรณ์
แฉอีโม่ง วิ่งเต้นล้มปมชั้น 14 เตือนหยุดทำเถอะ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2568 ให้จับตาดูวันที่ 15 ม.ค.ที่แพทยสภาขีดเส้นตายให้แพทย์รักษาทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 ส่งรายงานการรักษามาตรวจสอบการเอื้อหนีติดคุก แล้วยังต้องติดตามผลตรวจสอบของ ป.ป.ช.กรณีชั้น
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ดร.เสรี ฟาดพรรคขี้โม้-พรรควาทกรรม
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า “พรรคหนึ่งมีแต่วาทกรรม ไม่เคยทำงาน
กกต.ปลุก‘กปน.’ จับโกงเลือกอบจ. พท.ทุบพรรคส้ม
กกต.ติวเข้มวิทยากรเตรียมพร้อมเลือกตั้ง อบจ. กำชับ 3 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดหีบต้องทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ