1 มี.ค.2566 - นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด มีคำสั่งตั้งคณะทำงานขึ้นตรวจสอบ ข้อเท็จจริง กรณีปรากฎเป็นข่าวตามสื่อมวลชนและที่มีผู้มาร้องเรียนเกี่ยวกับคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญา ที่ประชาชนให้ความสนใจและอาจมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสุด โดยมีคณะทำงาน 5 คณะ ให้มีอำนาจและหน้าที่ตามข้อ 1-9 และรายงานผลการตรวจสอบพร้อมความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการสั่งคดีและข้อเสนอแนะอื่นๆตามที่เห็นสมควรต่ออัยการสูงสุดเพื่อประกอบการพิจารณาสั่งการต่อไป
สำหรับรายละเอียดคำสั่งนั้น เป็นคำสั่งที่ 420/2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีข่าวสารและเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และอาจมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสูงสุด ด้วยสำนักข่าวเเห่งหนึ่ง เผยแพร่ข่าว ต้องเร่งรัดกวาด ขยะใต้พรมที่สำนักงานอัยการสูงสุด โดยมีการกล่าวถึง มีคดีจำนวนหลายคดี ที่กลายเป็นภาระและเป็น ขยะใต้พรม ที่ น.ส.นารี ตัณฑเสถียร ต้องเร่งเก็บกวาด ขณะที่เวลาที่อยู่ ในตำแหน่งมีเพียง 1 ปี ซึ่งเวลาผ่านไปแล้ว 5 เดือน จึงเหลือเวลาอยู่ในตำแหน่งอีกเพียง 7 เดือน ถ้าไม่สามารถ สะสางสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ได้หมด ภาระนี้จะกลายเป็นของผู้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดคนต่อไป
ซึ่งตามข่าวมี 6 คดี ประกอบด้วย คดีเผาสวนงูภูเก็ต ,คดี ซี.พี.เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวก ,คดีนายแทนไท ณรงค์กูล กับพวก ,คดีมาวินเบต ดอทคอม ,คดียาเสพติดเมทแอมเฟตามีน 4 เเสนเม็ด ที่จังหวัดนนทบุรี และคดีนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ กับพวก ตามหนังสือร้องเรียนของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ฉบับลงวันที่ 14 ก.พ.66 ถึงประธาน ก.อ. อันเป็นกรณีเกี่ยวกับคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 และมาตรา 27 แห่งพรบ.องค์กรอัยการ และพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553จึงแต่งตั้งบุคคลต่อไปนี้เป็นคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีข่าวสาร และเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและอาจมีผลกระทบต่อ ภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสุดดังกล่าว โดยมีองค์ประกอบดังนี้
คณะที่ 1 คดี นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ กับพวก และคดีเผาสวนงูภูเก็ต ประกอบด้วย 1.นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ รอง อสส.หัวหน้าคณะทํางาน 2.นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รอง อสส. 3.นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ ผู้ตรวจการอัยการ เป็นคณะทํางาน
คณะที่ 2 คดี ซี.พี.เค อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด กับพวก (บริษัทเครือเปรมชัยถูกกล่าวหารุกป่า)ประกอบด้วย 1.นายศักดา ช่วงรังษี รอง อสส.เป็นหัวหน้าคณะทํางาน 2.นายโชคชัย ทิฐิกัจจธรรม คณะทํางาน 3.นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการ สคช.เเละรองโฆษก อสส.คณะทํางาน
คณะที่ 3 คดี นายแทนไท ณรงค์กูล กับพวก ประกอบด้วย 1.นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ รอง อสส. หัวหน้าคณะทำงาน 2. นายโกวิท ศรีไพโรจน์ อธิบดีอัยการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ 3.นายคถา สถลสุด อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เเละรองโฆษก อสส. เป็นคณะทำงาน
คณะที่ 4 คดี มาวินเบต ดอทคอม ประกอบด้วย นายสมเกียรติ คุณวัฒนานนท์ รอง อสส.เป็นหัวหน้าคณะทํางาน นายชาติ ชัยเดชสุริยะ อธิบดีอัยการสำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย 3.นายทรงพล สุวรรณพงศ์ ผู้ช่วยเลขานุการอัยการสูงสุด เเละรองโฆษก อสส.
คณะที่ 5 คดี ยาเสพติดเมทแอมเฟตามีน 400,000 เม็ด ที่จังหวัดนนทบุรี ประกอบด้วย 1.นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ รอง อสส.หัวหน้าคณะทํางาน 2.นายนิติ สุขเจริญ รองอธิบดีอัยการสำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย 3.นายจิตภัทร พุ่มหิรัญ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคดีแพ่งกรุงเทพใต้ เเละรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
โดยให้คณะทำงานทั้ง 5 ชุดมีอำนาจและหน้าที่ดังนี้ 1.ตรวจสอบข้อเท็จจริงและการสั่งคดีของพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ได้รับมอบหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและอาจมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงาน อัยการสูงสุด
2.จัดทำลำดับเหตุการณ์ (Timeline) ในการดำเนินคดีที่ได้รับมอบหมายตั้งแต่รับสำนวน และการสั่งคดีของพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงต่อที่ประชุม ก.อ. และสาธารณชน
3.เรียกสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา
4.เชิญพนักงานอัยการ เจ้าหน้าที่และบุคลากรที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ข้อเท็จจริง ข้อมูลหรือ ความเห็นประกอบการตรวจสอบ
5.เรียกเอกสารจากหน่วยงานภายในสำนักงานอัยการสูงสุดที่เก็บรักษาเอกสารเพื่อประกอบ การพิจารณา และให้หน่วยงานดังกล่าวให้ความร่วมมือจัดส่งเอกสารโดยพลัน
6.เชิญบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ข้อเท็จจริง ข้อมูลหรือความเห็นประกอบการตรวจสอบ และขอเอกสารหลักฐานจากบุคคลและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ ให้หัวหน้า คณะทํางานฯ แต่ละคณะมีอำนาจลงนามในหนังสือออก
7.ให้หัวหน้าคณะทํางานแต่ละคณะมีอำนาจแต่งตั้งคณะทำงานเพิ่มเติมได้ตามความจําเป็น และเหมาะสม
8.ให้หัวหน้าคณะทำงานแต่ละคณะมอบหมายให้บุคคลหรือคณะบุคคลดำเนินการอื่นใด เพื่อให้ความช่วยเหลือสนับสนุน หรืออำนวยความสะดวกในการดำเนินการตรวจสอบของคณะทำงานให้สำเร็จ ลุล่วง รวมถึงการให้ข้อมูลข่าวสารหรือประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการดำเนินการตรวจสอบของคณะทำงานได้ ตามที่เห็นสมควรและจำเป็น
9.รายงานผลการตรวจสอบพร้อมความเห็นและข้อเสนอแนะในประเด็นเกี่ยวกับการสั่งคดี และข้อเสนอแนะอื่น ๆ ตามที่เห็นสมควรต่ออัยการสูงสุดเพื่อประกอบการพิจารณาสั่งการในโอกาสแรก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ทักษิณ' หลุดปาก 'ยิ่งลักษณ์' จะกลับบ้าน แสดงถึงอาการร้อนรนในสถานการณ์ 22 พ.ย.
'จตุพร' แทงสวน อสส.ส่งความเห็นหลังปล่อยอำนาจหลุดมือ เชื่อ 22 พ.ย. ศาลรธน. มติเอกฉันท์ รับคำร้อง โต้สีอื่นไม่เคยตกใส่เสื้อแดง มีแต่สีคนตระบัดสัตย์ไม่ซื่อตรงปชช. ชี้ 'ทักษิณ' หลุดปาก 'ยิ่งลักษณ์' จะกลับบ้าน แสดงถึงอาการร้อนรนในสถานการณ์ เตือนหลายฝ่ายทนไม่ไหว คดีทุจริตไม่ติดคุกสักวัน หวั่นเหตุการณ์ซ้ำรอย
ทักษิณ-พท.โคม่า! ธีรยุทธเมินอสส.ตัดตอน เทียบคดีก.ก.ศาลรับร้อง
อสส.ไม่รับดำเนินคดี "ทักษิณ-เพื่อไทย" ล้มล้างการปกครอง
เข้าทาง! ผู้ร้องคดี 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง ฟันธงศาลรธน. รับคำร้องแน่นอน
จากกรณีที่มีข่าวว่านายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด ได้ส่งหนังสือความเห็นถึงศาลรธน.ในคำร้องคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ร้องว่า นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่หนึ่งและพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่สอง
ตามคาด! อสส.ไม่รับดำเนินการคดี 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
อัยการสูงสุดไม่รับดำเนินการคดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง ส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเเล้วพร้อมผลการสอบถ้อ
อสส.ชงศาลรธน.คดีล้มล้างฯ
อัยการสูงสุดส่งเอกสารปม “ธีรยุทธ” ร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ครอบงำ-ล้มล้างให้ศาลแล้ว
'อสส.' ตอบความคืบหน้าคดี ทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างปกครองฯ ต่อศาลรธน.เเล้ว
รายงานข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด ความคืบหน้ากรณี เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมีเผยแพร่เอกสาร การพิจารณาคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา