23 ก.พ.2566 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยื่นหนังสือต่อนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อให้ตรวจสอบการทุจริตหลายโครงการของพรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มของกระทรวงคมนาคม ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการพรรค ภท. ว่าไม่กังวลที่นายชูวิทย์ออกมาแฉ นายศักดิ์สยามได้ชี้แจงไปแล้ว การจะกล่าวหาใคร ทางที่ดีที่สุดจะต้องมีหลักฐานให้ชัดเจน การคาดคะเนหรือวิเคราะห์ไม่สามารถใช้ในกระบวนการยุติธรรมได้ ต้องมีหลักฐาน เพราะถ้ามีหลักฐานก็ฟาดไม่เลี้ยง
เมื่อถามว่า การออกมาแฉในช่วงนี้ จะมีผลกระทบในการหาเสียงของพรรคหรือไม่ เพราะใกล้ช่วงเลือกตั้งแล้ว นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี ตนเชื่อว่าประชาชนรับทราบกันดี โดยเฉพาะช่วงใกล้กันตั้ง การสาดโคลนใส่กันสามารถเกิดขึ้นได้ ที่ผ่านมาก็เกิดขึ้นตลอด ซึ่งส่วนใหญ่เวลาสาดโคลน คนสาดก็ต้องระมัดระวัง อาจจะพูดเป็นตัวย่อหรืออ้อมๆบ้าง ซึ่งเรื่องเหล่านี้หาสาระไม่ได้
เมื่อถามว่า มองเป็นเรื่องการเมืองที่ต้องการดิสเครดิตพรรค ภท.หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า มันแน่นอนอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อมีการแข่งกัน และความคิดคนก็ไม่เหมือนกัน คนที่อยากจะเข้ามาในการเมืองมากๆ บางทีก็เล่นนอกบท แต่ไม่เป็นไร เราไม่ได้ทำอะไรผิด ก็คือไม่ผิด ซึ่งกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยก็ยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คนที่ไม่ผิดก็ไม่เห็นถูกลงโทษใดๆ ส่วนคนที่โดนก็คือผิดจริงๆ ฉะนั้น เราก็ต้องเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่มีคนของพรรคร่วมรัฐบาลพานายชูวิทย์เข้ามายื่นหนังสือถึงในทำเนียบรัฐบาล นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องแบบนี้ตนไม่ขอก้าวก่าย ใครทำอะไรไว้ก็ต้องอธิบาย ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่นายชูวิทย์ออกมาพูดส่วนใหญ่เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งนั้น นายอนุทินกล่าวว่า “เวลาชี้นิ้วไปที่คนอื่น 1 นิ้ว อีก 4 นิ้วก็จะชี้เข้าตัว” ส่วนใครจะมองว่า 2 มาตรฐานหรืออย่างไรตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้ติดตาม ยืนยันว่าความสัมพันธ์พรรคร่วมไม่มีอะไร ที่ผ่านมาทุกยุคทุกสมัย บรรดาหมู่มวลสมาชิกก็มีการทะเลาะเบาะแว้งกันในลักษณะนี้ ขอแค่ระดับบนอย่ามีปัญหากัน คุยกันได้ เปิดช่องกันไว้
"ระดับหัวหน้าพรรค ทั้งตัวผมเอง นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ นายวราวุธ ศิลปอาชา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น มีความเคารพนับถือ เกรงอกเกรงใจกัน ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรกัน แค่รุ่นใหญ่โอเคก็พอแล้ว"นายอนุทิน กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือ เสธ.หิ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้พานายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าพบนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สส.เพื่อไทย ดี๊ด๊า ประเทศไทยมีระบบที่เป็นมาตรฐาน!
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้คงสบายใจขึ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับ
'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง
จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
เปิด 5 ปัจจัย ทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอม
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ 5 ปัจจัย ทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอม มีเนื้อหาดังนี้
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'แพทองธาร' โชว์วิชั่น การเมืองมีเสถียรภาพ ประเทศไทยจะดีขึ้น!
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ไทยสงบ สันติ หวังรัฐบาลเปลี่ยน นายกฯเปลี่ยน แต่นโยบายเพื่อปชช.เดินหน้า บอกต่างชาติเจอคำถามแรกถามพ่อ-อาเป็นอย่างไร ย้ำการเมืองมั่นคง มีเสถียรภาพแน่นอน
ไทยในสายตาต่างชาติ (ตอนที่ 48: พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ?)
ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476