1 ก.พ.2566 - ที่ศูนย์ประสานงานพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า พรรคพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง วางผู้สมัคร และคนที่จะดูแลในแต่ละเขตแล้ว เหลือเพียง 2 จังหวัดที่กำลังสรรหาตัวผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมอยู่ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ทุกอย่างจะเรียบร้อย เชื่อว่านโยบายจะได้ใจประชาชน
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า รู้สึกกังวลที่กกต. จะแยกพื้นที่เขตเลือกตั้งบางเขตออก ตอนนี้ต้องต่อสู้กับการใช้อิทธิพลของผู้มีอำนาจที่จะแบ่งเขตให้บิดเบี้ยว เพื่อให้ได้เปรียบทางการเมือง พรรคเตรียมที่จะร้องกกต. หลายเขต เพราะบางจังหวัดไม่เพิ่มหรือลดเขต แต่ไปเปลี่ยนเขตโดยไม่มีเหตุผล เพื่อพยายามแบ่งเขตให้พวกของตนเองได้เปรียบมากที่สุด คือความสกปรกของการใช้อำนาจรัฐมาทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมตั้งแต่ก้าวแรก และจะเป็นการเลือกตั้งที่คาดเดาได้เลยว่า จะใช้เงินมากที่สุดตั้งแต่มีการเลือกตั้งมา ขอประชาชนอย่ายอมรับกับความสกปรกเหล่านี้
“พรรคไทยสร้างไทย พร้อมที่จะชิงชัยในสนามเลือกตั้ง แม้จะมีผู้สมัครคนหน้าใหม่ เพราะเป็นคนในพื้นที่จึงไม่กังวลที่จะต่อสู้กับพรรคอื่น สิ่งที่จะใช้เป็นกลยุทธ์ไปสู่ชัยชนะ คือ เป็นพรรคที่ส่งเสริมประชาธิปไตย และจะมาเพิ่มโอกาส ไม่สร้างภาระ ไม่สร้างวิกฤติให้กับประเทศและประชาชน พรรคขอเสนอตัวเป็นทางเลือก” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีข่าวดีลกับพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ไม่ได้ล่ม แต่ส่งให้นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ นำทางไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐก่อน หลังจากเลือกตั้งพรรคไทยสร้างไทย จะไปจับมือกับพรรคพปชร. คุณหญิงสุดารัตน์ ตอบว่า ไม่มี เพราะอยู่คนละพรรค ตอนที่เจรจาเพื่อที่จะร่วมเป็นพันธมิตรเดินหน้าไม่เอาเผด็จการ หากพรรคสร้างอนาคตไทย เห็นด้วยก็พร้อมที่จะเป็นพันธมิตรกันได้ ฉะนั้นจะร่วมมาทำงานและรวมพรรคกันก็ยังอยู่ระหว่างหารือเท่านั้น แต่ท้ายที่สุดก็กลับลำไปอยู่กับพล.อ.ประวิตร จึงพิสูจน์ให้เห็นชัดว่าไปต่อด้วยกันไม่ได้
“หลังจากวันแถลงข่าวจับมือเป็นพันธมิตรกันก็ไม่ได้คุยกัน เห็นท่าทีว่า ความคิดเห็นไม่สอดคล้องกัน ไม่สามารถมาร่วมเป็นพรรคเดียวกันได้ ขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่มีตามไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐแน่ ข่าวที่ออกมาอาจมีคนหวังดีประสงค์ร้ายปล่อยข่าว” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
ขณะที่ น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทยกล่าวว่า ท้ายที่สุดหากพล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ ไปจับมือร่วมรัฐบาลกัน พรรคไทยสร้างไทย ไม่ขอร่วมรัฐบาลกับฝ่ายเผด็จการ แม้พล.อ.ประวิตร จะเปิดตัวและแสดงจุดยืนว่า แยกทางกับพล.อ.ประยุทธ์แล้ว แต่ยังไม่เชื่อใจ จะขอเป็นฝ่ายค้าน ยืนยันว่าไม่ติดปัญหาว่าจะไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย เพราะอุดมการณ์ทางการเมืองมีจุดยืนเดียวกัน ส่วนใครจะตัดพี่ตัดน้องก็ปล่อยเขาไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จี้รัฐบาลประท้วงกัมพูชา
"สนธิรัตน์" นำทีมพลังประชารัฐลงพื้นที่ตราด "ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์" ชี้อันตรายมาก แนวสันเขื่อนดินที่กัมพูชาสร้างต่อเติมออกไป หากไม่มีการประท้วงหรือไม่มีข้อคัดค้านใดๆ ก
พปชร. ลงตราด ชวนชาวบ้านในพื้นที่ร่วมคัดค้าน MOU 44
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานร่วมศูนย์นโยบาย และวิชาการ และ ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนในจังหวัดตราด โดยได้รับการประสานงานจากประชาชนในพื้นที่
'ก๊วนธรรมนัส' เปิดตัวเข้าคอก 'กล้าธรรม' ลั่นทำการเมืองสร้างสรรค์ ไล่พรรคร่วมฯค้านบ่อยๆก็ออกไป
พรรคกล้าธรรม นำโดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และสส.จำนวน 20 คนที่ถูกพรรคพลังประชารัฐขับออก
20 สส. ก๊วนธรรมนัส ย้ายเข้าพรรคกล้าธรรมแล้ว เพิ่มจำนวน สส.เป็น 24 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม สส. 20 คนที่ถูกขับพ้นพรรคพลังประชารัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้แก่ 1.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา 2.นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี 3.นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ 4.นายจีรเดช ศรีวิราช สส.พะเยา 5.นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว
พปชร. จี้รัฐบาลเปิดเผยความจริง ปมลูกเรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำเมียนมาหรือไม่
นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงกรณี 4 ลูกเรือประมงไทยที่ถูกทหารเมียนมาจับกุมตัวไป และมีคำพิพากษาจำคุกว่า เมื่อตอนที่ 4 ลูกเรือประมงถูกจับใหม่ๆ ทั้งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม
'ลุงป้อม' ส่ง 4 สส. ตัวแทนพปชร. ร่วมดินเนอร์พรรคฝ่ายค้าน 18 ธ.ค.นี้
นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ในฐานะรองโฆษกพรรค พปชร. แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารประจำสัปดาห์ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค