31 ม.ค.2566 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประเทศไทย เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอบโต้นายสุนัย จุลพงศธร ลูกน้องทักษิณ ชินวัตร และนายอรรถชัย อนันตเมฆ หรือ โด่ง พรรคเพื่อไทย ซึ่งกล่าวหาเป็นเท็จร้ายแรงในกรณีบุคคลชื่อย่อ จ. ไปรับงานโจมตีเพื่อไทยด้วยเงิน 70-100 ล้านบาท
นายจตุพร กล่าวว่า การยัดเยียดใส่ร้ายตนล่าสุดมี 2 คลิปจากนายสุนัยและนายโด่ง โดยนายสุนัย เป็นกลยุทธ์ของทักษิณและบริวาร หลายคนอาจไม่รู้เท่าทัน แต่ตนหัวใจสลายมานานจึงรับรู้และเห็นกลยุทธ์ทักษิณที่ปฏิบัติการหลอกต้มตั้งแต่ดินถึงฟ้า โดยไม่คิดหรือใส่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพียงขอให้ตัวเองได้ประโยชน์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในคลิปกล่าวหาล่าสุดนั้น นายสุนัย สร้างเรื่องช่วงติดคุกแล้วโยงถึงคนสำคัญไปพบนายจตุพรเพื่อเจรจาให้รับภารกิจสลายคนเสื้อแดง โดยนายจตุพร ตอบโต้ว่า นายสุนัยเป็นคนขี้ขลาดตาขาวเมื่อยึดอำนาจปี 2557 หนีคดีเล็กๆ ลี้ภัยไปสหรัฐ แล้วส่งเสียงดัง เปิดรายการสุนัยทีวีและสุนัยแฟนคลัปเพื่อโจมตีสถาบันกษัตริย์เป็นหลัก และช่วงเลือกตั้ง นายก อบจ.เชียงใหม่ ยังใช้กลยุทธ์โจมตีตน แต่ชมทักษิณแล้วเรียกว่า เจ้านาย
นายจตุพร อธิบายว่า ช่วงที่คนติดคุก ย่อมเลือกไม่ได้ว่าให้ใครมาเยี่ยมตนได้บ้าง ตนติดคุกครบ 1 ปี 15 วันจนถูกปล่อยตัว ไม่ได้อภัยโทษแม้แต่วันเดียว แล้วมาติดอีกครั้งในคดีเดียวกันจนได้เป็นนักโทษชั้นดีเมื่อ 30 มิ.ย.ปีถัดมา ดังนั้นตนจึงติดคุกเต็มการลงโทษ ไม่ได้รับเงื่อนไขใดๆ ให้ถูกปล่อยตัวออกก่อนกำหนด
อีกทั้ง กล่าวว่า ถ้าคนสำคัญไปเจรจาให้มาสลายเสื้อแดง วิธีตรวจสอบง่ายๆ คือ ตนต้องได้รับการอภัยโทษออกจากคุกก่อน แต่ตนไม่ได้อภัยโทษแม้แต่วันเดียว และถ้ามีเงื่อนไขให้ปฏิบัติตามเจรจาแล้ว ทำไมต้องมาถูกขังอีกรอบในคดีเดิม นอกจากนี้ มีเสื้อแดงกลุ่มไหนและใครที่ตนไปเจรจาให้สลายขบวนการ ดังนั้นใครเดินทางมาพบใครในเรือนจำนั้น คงไม่ได้เป็นตนคนเดียว ส่วนการใส่ร้ายกรณีใส่เสื้อเหลืองนั้น ใครก็ใส่กัน ตระกูลของทักษิณก็ใส่กันทั้งโคตร แล้วทำไมตนใส่แล้วดูเสมือนเป็นปัญหา พร้อมถูกโยงว่า รับงานมาสลายเสื้อแดง ซึ่งก็เกินไป
"คุณไปถามลูกพี่คุณว่าไง จะเอาอย่างไง อยากล้มก็ล้มมาสิ ไม่ใช่เล่นสองหน้า ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง ยิ่งให้เสื้อแดงเชียงใหม่ในสายเจ๊ ไปหย่อนคลิปไว้ในรายการสุนัยทีวี และสุนัยแฟนคลับ การเล่นอย่างไม่ตรงไปตรงมา เป็นความขี้ขลาด คนที่คุณไม่ชี้หน้ากล่าวหาก็มีคนไปเยี่ยมในคุกเช่นกันนะ ผมชื่นชมความฉลาดแบบบัดซบของแก๊งนี่มาก คนหนึ่งเบื้องเสนอหน้ากราบ อีกคนเล่นบทล้มเพื่อเสนอในอีกตลาดการเมืองหนึ่ง"
นอกจากนี้ นายสุนัย ยังเสนอความเท็จว่า จตุพรประสานงานหลังยึดอำนาจให้ทหารเอารถไปรับคนหนีรายงานตัวกลับมาไทย โดยนายจตุพร ตอบโต้ว่า ช่วงยึดอำนาจตนถูกทหารคุมตัว เอาถุงดำคลุมหัวขึ้นเครื่องบินไปกักตัวในค่ายทหารติดชายแดนเขมร หลายคนคิดว่าตายแล้ว ทหารจึงนัดทีวีไปเพื่อยืนยันยังมีชีวิตอยู่
แล้ว พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ขอคุยส่วนตัว และปรึกษาถึงผู้หลบหนีไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. ตนจึงแนะนำให้ประกาศรายงานตัวใหม่ เลิกฉบับเก่าไป พวกเขาก็ไม่ต้องหนี เมื่อกลับไทยก็เอารถไปรับชายแดนเขมรนำไปกักตัว 3-7 วันไม่ต้องติดคุก แล้วก็ปล่อยตัวไป เรื่องมีแค่นี้ แล้วมีผู้หลบหนีมารายงานตัวก็ได้อยู่ในไทย ไม่ต้องหลบหนีไปลำบาก หรือไปไกลกว่า 20,000 ไมล์ถึงสหรัฐอย่างนายสุนัย
ส่วนโด่ง กล่าวหาว่า อักษร จ. ลงสมัคร ส.ส.ไม่ได้ เข้าพรรคการไม่ได้ ได้เจรจาต่อรองรับเงินระดับรองได้กล้วย 30 หวี ระดับหัว 70-100 ล้าน เพื่อโจมตีทักษิณและไม่ให้เลือกเพื่อไทย แต่ไปเลือกพรรคฝ่าย ประชาธิปไตย หรือพรรคอื่นๆ นายจตุพร กล่าวว่า ช่วงต่อสู้เสื้อแดงนั้น ตนไม่เคยเห็นอดีตดาราชื่อ “โด่ง”ในสมรภูมิเสื้อแดงเลย แต่เมื่อมาพูดสาธารณะราวกับรู้ทุกอย่าง อยู่ทุกสถานการณ์ ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย ดังนั้นการพูดความจริง ถ้าไม่จริงใจจะไม่เนียน ขาดความน่าเชื่อถือ นอกจากพวกควายเท่านั้นที่ต้องเชื่อควายด้วยกัน
นายจตุพร กล่าวว่า ช่วงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภาได้ 3 วัน ศาลสั่งถอนประกันตนจึงต้องเข้าคุกอีก ช่วงจะมีรับสมัครเลือกตั้งปี 2554 ก็มาเสนอกับตนไม่ให้ลง ส.ส. ทั้งที่ความหวังของตนจะออกจากคุกได้คือ เป็น ส.ส. แต่เขาบอกให้เอาเมียมาลงได้หรือไม่ ซึ่งเป็นการพูดแบบไม่รู้ตัวตนเลย เพราะการต่อสู้ตนจะไม่เอาครอบครัวมาเกี่ยวข้อง
รวมทั้ง ท่ามกลางที่ยากลำบากนั้น ตนยังถูกทักษิณทรยศหักหลังตลอดทาง แตก็กล้ำกลืน แม้ตอนออก พรบ.สุดซอย ใจไปแล้ว แต่ยังไปสู้ต่อที่ถนนอักษะ เมื่อถูกยึดอำนาจยังวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีก หากตนต้องการแสวงหาประโยชน์จะทำเช่นนี้ทำไม และไปเสี่ยงชีวิตในการต่อสู้อีกทำไม
"โด่งให้ระบุชื่อมาเลยเป็นใครและใครจ่าย อย่ามาโจมตีลอยๆ แบบชื่อย่อ จ. และใช้ตรรกะชั่วๆ ที่มีคนจ้างเงินก็ไม่รู้จะได้อะไร แม้ใช้ตรรกะเหลือเชื่อ ไม่สมเหตุผลความเป็นจริง มายัดเยียดใส่ร้ายแล้ว ถ้าเป็นผมไปรับเงิน 70-100 ล้านก็ขอให้ฉิบหายวายวอด อย่าได้มีความเจริญ และไม่ต้องตายดีด้วย ถึงอย่างนั้น ในสังคมควายก็ยังมีควายที่พร้อมเชื่ออยู่ดี"
นายจตุพร กล่าวถึงอีก จ.ชื่อ เจ๋ง ดอกจิก ว่า ได้มาลาตนเมื่อ 3 เดือนที่แล้วและเก็บข้าวของในห้องที่สถานีหมด เจอกันครั้งสุดท้ายที่ศาลในคดีก่อการร้าย ดังนั้น เขาจะทำอะไรเป็นเรื่องของเขา ตนไม่เกี่ยว และไม่มีสิทธิบังคับใครได้ แต่นายโด่งนำสองเรื่องมาอธิบายผูกติดกัน เพื่อให้เข้าใจผิดและหลงเชื่อผิดๆ
"โด่งฟังไว้ สถานีพีซทีวีมีหนี้เต็มไปหมด ทั้งค่าไฟ ค่ารถ พนักงานเหลือ 4 คน สปอร์ตเซอร์ก็หายวับ ถ้ามีเงิน 70-100 ล้านจะค้างค่าไฟเดือนละประมาณ 50,000 กว่าบาทชน 3 เดือนอีกหรือ ยิ่งตอนชุมนุมเสื้อแดงผมยังไม่เกี่ยวข้องเงินเลย ดังนั้น ตรรกะเฮงซวยที่ใส่ร้ายว่า รับเงินอีกฝ่าย ถ้าเป็นฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ มาโจมตีทักษิณ ไม่เลือกเพื่อไทย แต่ไปเลือกพรรคฝ่ายประชาธิไตย มันบ้าไปแล้ว และถ้าผมคิดหาประโยชน์ จะเสียงดังกับเพื่อไทยและทักษิณได้อย่างไร ต้องถูกถลกหนังหมดแล้ว อีกอย่างที่ผมบอกไม่อยากทำสงคราม แต่ไม่ได้กลัวอะไร ดังนั้นข้อกล่าวหานี้มันเฮงซวย"
นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าวางเกมกลยุทธแบบนี้ เอาความเท็จมาใส่ร้าย ใช้วิธีสามานย์จะเอาอะไรมาชนะตน อยากทำสงครามหรือไม่ ตนสามารถวิจารณ์ได้เป็นปี มีเวลาเหลือมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โธ่!บุคคลสาธารณะ 'ชูศักดิ์-เพื่อไทย' จ่อฟ้อง 'ธีรยุทธ'
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เตรียมฟ้องกลับนายธีรยุทธ
ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 37): ‘กรมขุนชัยนาทนเรนทร’ ทรงตกเป็นเหยื่อการเมืองของหลวงพิบูลสงคราม ? ”
รัฐธรรมนูญไทยฉบับที่ 4 คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 ประกาศใช้เมื่อ วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 รัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดจากคณะทหาร
นายกฯ ปลุกทุกภาคส่วน ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีทุกรูปแบบ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านวีดิทัศน์ว่า เนื่องในเดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ประจำปี 2567
'ภูมิธรรม' สดุดี 'ทักษิณ' ครองใจคนอุดรฯ พา พท. ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.
'ภูมิธรรม' ฟุ้งอุดรธานีหัวใจคนเพื่อไทยโดยแท้ ชนะเป็นเรื่องธรรมดา ยํ้า ปชช. ยังรัก 'ทักษิณ' ชอบผลงานที่ทำมา อุบ 'อิ๊งค์' ลงพื้นที่ขอบคุณ
ความจริง 'ชั้น 14' ชี้ชะตา 'รัฐบาลอิ๊งค์'
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อายุรัฐบาลขึ้นกับความจริงบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.)
'ทักษิณ-พท.' อย่าเพิ่งตีปีก! ชั้น 14 ป.ป.ช. ใกล้งวด คดีครอบงำยิ่งชัด รอ กกต. เคาะ
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หน้าแตกกันไปตามๆ กัน เมื่อได้ทราบผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าไม่รับวินิจฉัยคำร้อง