'ป้อม-หัวหน้าพปชร.' ร่อนจม.ฉบับ 2 'ทุกปัญหามีทางออก ทุกประเด็นมีคำอธิบาย'

ประวิตร วงษ์สุวรรณ

แฟ้มภาพ

25 ม.ค.2566 - เฟซบุ๊กเพจ "พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ" ของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) โพสต์ข้อความโดยมีรายละเอียดดังนี้

ผมขอขอบคุณสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนที่ให้ความสนใจจดหมายเปิดใจ ที่ผมสื่อสารผ่านแฟนเพจ “พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เมื่อ 13 มกราคม ที่ผ่านมา ได้ทราบว่า วันแรกมียอดสืบค้นหาทางกูเกิลถึง 8 แสนครั้ง และเพิ่มขึ้นจนทะลุ 1.5 ล้านครั้ง ในวันที่สอง

ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกสำหรับผมและพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้รับเสียงตอบรับจากสังคม ตรงตามเจตนารมณ์ที่ผมต้องการจะสื่อสารสองทางผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ได้เต็มที่

ผมอาจจะเป็นมือใหม่บนโลกโซเชียลมีเดีย แต่ไม่ใช่มือใหม่ทางการเมือง ตลอด 8 ปี การเมืองมีคุณค่ามากสำหรับผม ซึ่งจะทยอยเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป ว่าผมได้เรียนรู้อะไรบ้าง ขอได้โปรดติดตาม

แต่สำหรับวันนี้ ผมอยากจะบอกว่า ผมได้เรียนรู้ว่านักการเมืองไม่จำเป็นต้องพูดเก่ง แต่จะต้องคิดเก่ง และที่สำคัญคือต้องหาคนเก่งมาร่วมงานด้วย เพราะคนเรานั้นไม่มีใครเก่งไปทุกเรื่อง

นอกจากนั้น นักการเมืองต้องสามารถประสานกับทุกฝ่าย ประนีประนอมกับทุกพรรค เพื่อลดความขัดแย้ง โดยยึดถือผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหัวใจสำคัญ จึงจะสามารถผลักดันประเทศชาติให้เดินหน้าไปได้

ผมพิสูจน์ตัวเองมาแล้ว ทั้งในฐานะ ผบ.ทบ. และนักการเมือง โดยเฉพาะในรัฐบาลชุดนี้ ในฐานะหัวหน้าพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้ประคับประคองมาจนจะครบวาระ ดังเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว

เป้าหมายที่พรรคพลังประชารัฐให้ความสำคัญในขณะนี้ คือจะต้องนำพาประเทศฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไปให้ได้ เพราะทั้ง IMF และธนาคารโลก ต่างก็เตือนว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้ จะยังชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศ

ผมจึงกำชับพรรคให้จัดทำนโยบายที่ยึดโยงกับประชาชน เพื่อพัฒนาประเทศจากล่างขึ้นบน ไม่ใช่จากบนลงล่าง โดยสรรหาคนเก่งที่มีความรู้

ความเชี่ยวชาญ ในด้านต่าง ๆ มาช่วยกันระดมความคิด เพื่อเสนอต่อสังคม หากสังคมตอบรับก็จะนำเข้าสู่ที่ประชุมพรรค เพื่อบรรจุเป็นนโยบาย

นโยบายแรกที่ประกาศไปแล้ว คือการเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเป็นเดือนละ 700 บาท เพื่อเติมพลังให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ดำรงชีวิต ซึ่ง ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อธิบายรายละเอียดกับสื่อมวลชนหลายสำนักไปแล้วอย่างชัดเจน

แล้วยังมีอีก 3 เรื่องเร่งด่วนที่ผมให้ความสำคัญก็คือ

1.สร้างโครงสร้างพื้นฐานชุมชนให้เข้มแข็ง
2.ปรับโครงสร้างพลังงานให้เป็นธรรม
และ 3.ปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิชุมชน ซึ่งจะเป็นการ “เพิ่มพลังให้ประชาชน เพื่อสร้างพลังแก่รัฐ”

จากนี้ พรรคพลังประชารัฐจะเปิดเวทีเสวนาหาข้อสรุปแนวนโยบายต่าง ๆ พร้อมทั้งไลฟ์สดทางแฟนเพจ “พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ” อย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชนว่า “ทุกปัญหามีทางออก ทุกประเด็นมีคำอธิบาย”

ขอให้สื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนทุกท่านรอติดตาม และร่วมแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ผมและคณะทำงานทุกคนยินดีรับฟังครับ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
วันที่ 25 มกราคม พ.ศ​. 2566

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดีลลับทักษิณ ยังอยู่หรือจบแล้ว? แนะล็อกเป้า นายกฯคนเดียว

หลังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ทำการตัดการจ่ายไฟไปที่เมียนมา เมื่อวันพุธที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามมติสภาความมั่นคงชาติ(สมช.) เพื่อสกัดการดำเนินธุรกิจของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ

‘จตุพร’ อ่านเกม ดีลลับหมดอายุ เม.ย.ปิดฉาก ‘ทักษิณ’ I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร

‘จตุพร’ อ่านเกม ดีลลับหมดอายุ เม.ย.ปิดฉาก ‘ทักษิณ’ อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568

เปิด 4 ทางเลือก! ความเป็นไปได้ หลังสภาล่ม-ร่างแก้ไขรธน.จะเดินหน้าอย่างไร?

การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหนึ่งในประเด็นทางการเมืองที่ร้อนแรงที่สุดของรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมสองฉบับเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา แต่เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเกิด “ล่ม” ขึ้นอีกครั้งเนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ

ดร.ณัฏฐ์ ชี้เกมยื้อแก้รธน. 'ปชน.-พท.' ข้ามขั้นตอน เสี่ยงขัดคำวินิจฉัยศาลรธน. ส่งตีความก็ไม่ช่วย

“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน เผย พลิกเกมยื้อแก้ไข รธน.ฉบับ ปชน.-พท. แม้บรรจุเป็นวาระแล้ว เป็นการลักไก่ ข้ามขั้นตอน ไม่ใช่ปัญหาความขัดแย้ง แม้ส่งศาลรธน. ย่อมไม่มีอำนาจรับไว้พิจารณา

ส่อล่มแต่ไก่โห่! ประธานสั่งพักการประชุม หลังโต้กันวุ่นปมนับองค์ประชุม

การประชุมร่วมรัฐสภา เกิดความตึงเครียด เมื่อสมาชิกฝ่ายค้านโต้แย้งการตัดสินใจของประธานรัฐสภาเกี่ยวกับการนับองค์ประชุม ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาเสนอวิธีการขานชื่อ แต่ท้ายที่สุด ประธานรัฐสภาสั่งพักการประชุม 20 นาที เพื่อให้มีการหารือร่วมกัน