'ฟอสซิลแม้ว' ตั้งวงโชว์กึ๋น 'ประเทศไทยต้องไปต่อ แต่ประยุทธ์ต้องพอเถอะ'

พรรคเพื่อไทย17 ม.ค.2566 - ที่พรรคเพื่อไทย มีการจัดเสวนา “ประเทศไทยต้องไปต่อ แต่ประยุทธ์ต้องพอเถอะ” มีแกนนำพรรค และส.ส.ร่วมเสวนา โดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ได้ประกาศว่าประเทศไทยต้องไปต่อ ขณะเดียวกันยังสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หวังส่งสัญญาณหมายถึงเมื่อพลเอกประยุทธ์ไปต่อ ประเทศไทยจะขาดตัวเองไม่ได้ ทั้งที่จะได้ ส.ส. ถึง 30 คนหรือไม่ ขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทยเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ไม่ให้ ส.ว.โหวตนายกรัฐมนตรี แต่ ส.ว.บอกจะแก้มาตรา158 เรื่องการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี รู้ลึกกว่านั้น ทราบมาว่าส.ว.จะเสนอให้ปลดล็อกแก้ไขคุณสมบัติส.ว.ด้วย จากเดิมหาก ส.ว.จะสมัครเป็น ส.ส.ต้องพ้นจากตำแหน่งมาเกินกว่า 2 ปี เป็นไม่มีกำหนด

“หาก ส.ว.ทำแบบนี้จริง คงสุดยอดโกลาหล การเมืองจะยิ่งเลวลง ไม่ใช่เจริญขึ้น บางคนเป็น ส.ส.พรรคนี้ แต่ไปโหวตให้อีกพรรคหนึ่ง ที่นั่งในสภาอยู่ตรงไหนไม่รู้ แล้วมาโหวตให้รัฐบาล เห็นได้ชัดว่า ปฏิรูปการเมืองล้มเหลว ปฏิรูประบบราชการล้มเหลว เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลยว่า วันดีคืนดี จะได้เห็นเงินจำนวนมากในห้องข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่น่าแปลกประหลาด น่าสังเวชใจที่ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ เห็นภาพนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ยืนเข้าแถว ถือพวงมาลัยใส่พาน ให้รัฐมนตรี ถามว่าการเมืองในประเทศไทยขณะนี้เป็นแบบนี้หรือ ระบบราชการประเทศไทยเป็นขนาดนี้เลยหรือ หากไปสืบสาวราวเรื่อง การกระทำดังกล่าวอาจเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ เพราะก้าวก่ายแทรกแซงการทำงานของข้าราชการประจำหรือไม่ หากพลเอกประยุทธ์ยังกระชากลากถูประเทศไปแบบนี้ แล้วคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ ต้องไปต่อ ประเทศจะยิ่งดิ่งลง และท้ายที่สุดจะตก ต่ำที่สุดในเอเชีย”นายชูศักดิ์กล่าว

นายชูศักดิ์กล่าวว่า การที่พลเอกประยุทธ์ ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจตัวเอง อยู่ๆ สะดุดขาตัวเอง จะแก้ไขให้การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปี ถ้าเป็นตน คงอยู่ไม่ได้ การที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 6 ต่อ 3 ให้การดำรงนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ ยังไม่ครบวาระ 8 ปีก็จริง แต่ตุลาการ อีก 3 เสียง บอกว่า พลเอกประยุทธ์ขาดคุณสมบัติแล้ว เพราะดำรงตำแหน่งมา 8 ปี การที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ บอกว่าไม่ขาดคุณสมบัติ เสียงต้องเอกฉันท์ สะอาด ปราศจากราคีทั้งหลายทั้งปวง

นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ก่อนที่พลเอกประยุทธ์ อยากจะอยู่ต่อ อยากให้พลเอกประยุทธ์พิจารณาและมองเห็นถึงข้อเท็จจริงต่างๆ ได้แก่ 1.ข้อกฎหมาย รัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องไม่เกิน 8 ปี 2.สามัญสำนึก วันนี้พลเอกประยุทธ์ จะมาเปลี่ยนบรรทัดฐานใหม่ สร้างมรดกทางความคิดที่เลวร้ายให้ลูกหลาน 3.ความเคารพต่อความรู้สึกประชาชน พลเอกประยุทธ์ต้องดูว่าปฏิกิริยาสังคม โพล ต่างๆ ไม่เชื่อว่าพลเอกประยุทธ์จะไม่รู้ว่าประชาชนเกลียด เพราะการเผยแพร่ข่าวสารในโซเชียลมีเดียทุกวันนี้ พลเอกประยุทธ์เปิดทุกวัน คนในครอบครัวและลูกน้องต้องบอกอยู่แล้ว 4.สำนึกในความรับผิดชอบต่อประเทศ หากอยู่ต่อ ท่ามกลางภาพอนาคตที่จะแย่ลงกว่าวันนี้ แต่กลับสร้างพรรคเฉพาะกิจและยังจะวางแผนต่อสู้อีก 5.ธรรมะ โลกนี้ต้องมีความพอดี ยกตัวอย่างระบบจักรวาล ดวงอาทิตย์มีขึ้น มีลง พลเอกประยุทธ์ต้องมีเวลาที่รู้จักพอ

“เชื่อว่าประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นของฝ่ายเพื่อไทยแน่ หากสมมติ คุณจะเป็นรัฐบาลแบบถูลู่ถูกัง จะผ่านอภิปรายไม่ไว้วางใจทีต้องแจกกล้วย เป็นรัฐบาลแบบเป็ดง่อย อ่อนเปลี้ย อย่าทำเพื่อสนองกิเลสตัวเองอีกเลย ตอนนี้ประเทศจมดิ่งลงในโคลนแล้ว การอภิปรายตามรัฐธรรมนูญ152 ความจริงของพลเอกประยุทธ์จะต้องเปิดเผย เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านและประชาชน สุดท้ายจะยุบสภาหนีอภิปราย แล้วประชาชนจะลงโทษในการเลือกตั้ง” นายสุทิน กล่าว

ขณะที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การขับเคลื่อนประเทศของ พลเอกประยุทธ์ ถือว่าไม่ถูกต้อง ได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับไปสมัครสมาชิกพรรคของอีกพรรคการเมืองหนึ่ง เพื่อจุดมุ่งหมายของในการเป็นแคนดิเคตนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีก 2 ปี ตามกฎหมาย แม้ความจริงจะเกินมาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น มีการคิดร่วมกันในหมู่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ไม่ใช่แค่โยนหินถามทาง แต่เป็นความตั้งใจปลดล็อกให้สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ไม่สิ้นสุด หากปลดล็อกให้สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ไม่สิ้นสุด สิ่งที่น่ากังวล

1. พลเอกประยุทธ์ จะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ส่วนพรรคฝ่ายค้านร่วมกับพรรคอื่น ก็ได้เสียงเกินครึ่งในสภา สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือจะมีงูเห่าเต็มสภา เพื่อให้รัฐบาลอยู่ได้

2. หากมีความต้องการแก้รัฐธรรมนูญ สมมติพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน ทั้งที่คะแนนเกินครึ่ง ถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญต้องได้เสียง 20% ของฝ่ายค้าน ถึงเวลานั้น จะเกิดงูเห่าเต็มสภา เพราะรัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ และประชาชนไม่มีโอกาสยับยั้งได้ ที่ผ่านมา ภายใต้การบริหารของพลเอกประยุทธ์ ประเทศไทยฟื้นตัวช้าที่สุดและเศรษฐกิจโตเป็นอันดับท้ายๆ ในอาเซียน ในปี 64 โตเพียง1.3% จะพ้นกับดักรายได้ปานกลางได้อย่างไร ต้องแก้ปัญหาส่งออก แต่กลับไม่เคยเจรจาการค้า ปัญหาการคอร์รัปชันยิ่งเลวร้ายมาตลอดในสมัยพลเอกประยุทธ์ ดังนั้น ก่อนการเลือกตั้งจะเกิดขึ้น ขอเรียกร้องให้ ส.ว.ร่วมปิดสวิตซ์ตัวเอง และเพื่อให้เลือกตั้งมีผลสะท้อนความต้องการประชาชนจริงๆ เพื่อไม่ให้พลเอกประยุทธ์ได้เสียงเพียงพอไปต่อ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สส.เพื่อไทย ดี๊ด๊า ประเทศไทยมีระบบที่เป็นมาตรฐาน!

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้คงสบายใจขึ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับ

สาวกเพื่อไทย ยื่นศาลรธน.สอบ 'ธนพร' ละเมิดอำนาจศาล

ที่บริเวณ​หน้าศาลรัฐธรรมนูญ​ นายนิยม นพรัตน์ หรือเค สามถุยส์ และนายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร เดินทางมายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นหนังสือร้อง นายธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์

'ชูศักดิ์' เผย 'เพื่อไทย' ได้รับความเป็นธรรม ศาลรธน. ไม่รับคำร้องปมล้มล้างการปกครอง

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายอิสระ ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย(พท.) ยุติการกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองจะผูกพันไปยังกรณีที่มีการยื่นคำร้องเดียว

'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง

จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ

2 ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย รับคำร้อง 'ทักษิณ' สั่งรัฐบาลเอื้อประโยชน์ฮุนเซน น่าจะเกิดผลใช้สิทธิล้มล้างปกครองฯ

จากกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2567 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูก

'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.

หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ