น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ และสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ทรงเป็นพระราชอนุชาร่วมพระราชบิดาและพระราชมารดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ พระราชสมภพเมื่อวันที่ ๔ กันยายน พ.ศ. ๒๓๕๑ ณ พระราชวังเดิม กรุงธนบุรี ทรงพระปรีชาสามารถหลายด้านตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ ทรงเล่าเรียนศาสตร์และศิลป์ชั้นสูงในราชสำนักตามธรรมเนียมของเจ้านายในพระราชวงศ์ ทรงเป็นแบบอย่างของผู้ที่มีความอุตสาหะและใฝ่รู้ในเรื่องของการศึกษาจนเชี่ยวชาญ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ บังคับบัญชากรมทหารแม่นปืนหน้า กรมทหารแม่นปืนหลัง  กองญวนอาสารบ และกองอาสาจาม ทรงเป็นผู้ที่มีความทันสมัย รอบรู้ภาษาอังกฤษ และสนพระทัยวิทยาศาสตร์และเครื่องยนต์กลไก โดยเฉพาะเรื่องการต่อเรือจากตะวันตก

ครั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานบวรราชาภิเษกให้ดำรงพระอิสริยยศเสมอด้วยพระเจ้าแผ่นดิน เป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ที่สอง มีพระนามว่าสมเด็จพระปวเรนทราเมศร์ มหิศเรศรังสรรค์ พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นกำลังสำคัญในการบริหารราชการแผ่นดิน พระปรีชาสามารถที่เด่นชัดในสายตาของชาวสยามและชาติตะวันตก คือ ทรงเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ และทรงรอบรู้ธรรมเนียมปฏิบัติอย่างตะวันตกเป็นอย่างดี ทรงริเริ่มนำนวัตกรรมจากตะวันตกมาปรับประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์แก่บ้านเมือง อาทิ ทรงต่อเรือรบแบบใช้เครื่องจักร ทรงต่อเรือกำปั่นแบบตะวันตกลำแรกของสยาม ทรงฝึกหัดทหารปืนใหญ่ ทรงพระราชนิพนธ์แปลตำราปืนใหญ่ขึ้นเป็นเล่มแรก

พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชหฤทัยรักในงานด้านศิลปะ ทั้งดนตรี กวีวรรณกรรม นาฏศิลป์และประณีตศิลป์ พระราชวังบวรสถานมงคลที่ประทับของพระองค์ จึงเป็นเสมือนศูนย์กลางในการสร้างสรรค์งานศิลปกรรมหลากหลายสาขา ทรงมีความชำนาญด้านประพันธ์บทร้อยกรอง และทรงเป็นนักเล่นสักวาที่มีฝีพระโอษฐ์คมคาย ทรงพระราชนิพนธ์บทกล่อมและเพลงยาวต่างๆ ขึ้นหลายสำนวน ทรงริเริ่มประดิษฐ์ระนาดทุ้มเหล็กขึ้น โดยมีการจัดเล่นประกอบกับระนาดแบบเดิม รวมเป็นเครื่องดนตรี ๔ ชนิด เรียกว่า "ปี่พาทย์เครื่องใหญ่"

เบื้องปลายพระชนม์ชีพ  พระองค์ประทับ ณ พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ พระราชวังบวรสถานมงคล ลักษณะเป็นตึก ๒ ชั้น แบบตะวันตก พัฒนารูปแบบมาจากสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิคที่แพร่หลายอยู่ในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาขณะนั้น หลังคาพระที่นั่งทรงจั่วชั้นเดียวไม่มีมุขลดหน้าจั่วทั้งสองด้านปั้นปูนประดับเป็นตราพระราชลัญจกรประจำพระองค์ คือ รูปปิ่นประดิษฐานบนพานแว่นฟ้าอยู่ภายในช่อมาลาประกอบลายพันธุ์พฤกษา อันมีที่มาจากพระนามเดิมคือ “เจ้าฟ้าชายจุฑามณี” ชั้นล่างใช้เป็นที่อยู่ของพนักงาน ชั้นบนเป็นที่ประทับ ประกอบด้วย ห้องเสวย ห้องรับแขก ห้องพระบรรทม ห้องแต่งพระองค์พร้อมห้องสรง ห้องสมุดและห้องทรงพระอักษร พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวประทับ ณ  พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ตลอดมา จนกระทั่งเสด็จสวรรคต ในวันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๐๘

พระเกียรติคุณในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นที่ประจักษ์และตระหนักในมโนสำนึกของพสกนิกรไทยทุกหมู่เหล่า อีกทั้งที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และบริเวณโรงละครแห่งชาติ เดิมเป็นพระราชวังบวรสถานมงคลอันเป็นที่ประทับของพระองค์ วันที่ ๗ มกราคม ของทุกปีกรมศิลปากรจึงร่วมกับชมรมกองทุนพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว จัดพิธีถวายราชสักการะรำลึกถึงพระเกียรติคุณ ณ พระบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณโรงละครแห่งชาติ และจัดให้มีพิธีบำเพ็ญกุศล ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครนอกจากนี้ สำนักการสังคีต กรมศิลปากร ได้จัดการบรรเลงปี่พาทย์เสภาที่วังหน้า ณ บริเวณลานหน้าพระบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว โรงละครแห่งชาติ เพื่อร่วมน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณ และพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระคุณูปการอย่างอเนกอนันต์ต่อบ้านเมืองและศิลปวัฒนธรรมของชาติ ให้เป็นที่ประจักษ์แพร่หลายสืบไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บูรณะวัดไชยวัฒนารามนำชีวิตชีวาสู่มรดกโลก

วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา งดงามทรงคุณค่า เป็นหนึ่งในหลักฐานที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่และรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของกรุงศรีอยุธยาอดีตเมืองหลวงอันยิ่งใหญ่ วัดเก่าแก่แห่งนี้เป็นโบราณสถานสำคัญของอยุธยา และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาที่โดย

'4วัด1วัง'เที่ยวมรดกโลกอยุธยายามราตรี

กระแสตอบรับดีสำหรับโครงการท่องเที่ยวโบราณสถานยามค่ำคืนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปีนี้กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ยกระดับท่องเที่ยวโบราณสถานยามราตรีเปิดโบราณสถานให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเพิ่มขึ้นเป็น 5 แห่ง ประกอบด้วย 

ย้อนเวลา 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ

ชวนแต่งชุดไทยเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่ช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา  ดื่มด่ำกับบรรยากาศโบราณสถานยามค่ำคืนที่งดงามในงาน “ 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ภายใต้แนวคิด “ย้อนเวลา ส่องวิถี ปลุกแสงสี พระนครศรีอยุธยา” โดยจะจัดกิจกรรมตามวัดและโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์

โบราณสถานเวียงกุมกามเสียหายหนักจากน้ำท่วม

7 ต.ค.2567 - นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามผลกระทบของสถานการณ์อุทกภัยที่มีต่อโบราณสถานสำคัญของจังหวัด โดยพบว่า พื้นที่เวียงกุมกามที่เป็นเมืองโบราณสมัยพญามังรายปฐมกษัตริย์ล้านนา ที่ตั้งอยู่ในอำเภอสา

คนรักศิลปฯแย้งผู้ว่าฯทุบปูนปั้นครูทองร่วง ยันผู้เสียหายคือสาธารณะ เตือนผิดม.157

นายวรา จันทร์มณี เลขาธิการชมรมคนรักศิลปวัฒนธรรม อดีตเลขาฯศิลปินแห่งชาติ อังคาร กัลยาณพงศ์ โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีทุบปูนปั้นครูทองร่วง เอมโอษฐ ที่วัดมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดเพชรบุรี (ตอนที่ 2) ระบุว่า

วธ.สั่งวางมาตรการลดเสี่ยงโบราณสถานตลอดฤดูฝน

13 ก.ย.2567 - นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณน้ำฝนที่มีจำนวนมากที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงราย รู้สึกห่วงใยชาวจังหวัดเชียงรายและพื้นที่ใกล้เคียงอย่างมากที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด