'บิ๊กตู่' ขอจงภูมิใจที่ได้อยู่บนแผ่นดินไทย หยุดแบ่งสีแบ่งฝ่าย ยืนยันไม่มีศัตรู

"บิ๊กตู่" หยอดคำหวาน มาเพชรบูรณ์ไม่เคยผิดหวัง ขอจงภูมิใจที่ได้อยู่บนแผ่นดินไทย ลั่น แตกแยกเมื่อไหร่ ศักยภาพ-ขีดความสามารถประเทศหมดทันที วอนเข้าใจรัฐบาลมีกระเป๋าเดียว แต่ต้องแก้ปัญหาหลายเรื่อง ยิ้มพูดกำกวม “อยู่อีกนาน” ก่อนแก้มุก ความเป็นห่วงจะอยู่ในใจอีกนาน ย้ำ ให้ทุกคนยิ้มเอาไว้ บอก "ผมเองยิ้มอยู่ทุกวันนี้ แต่ในใจร้อนอยู่"

24 พ.ย.2565 - เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธี KICK OFF มาตรการช่วยเหลือและยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 โดยทันทีที่มาถึงนายกฯได้เดินทักทายประชาชนส่งสัญลักษณ์ไอเลิฟยู ขณะที่ภายในงานได้มีการเปิดเพลงใจเพชร ที่ประพันธ์คำร้องโดย พล.อ.ประยุทธ์

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับประชาชนว่า ตนขอบคุณชาวเพชรบูรณ์ และมาหลายครั้งก็ไม่เคยผิดหวัง วันนี้ยินดีที่ได้มาพบเกษตรกรชาวเพชรบูรณ์ ตนได้ไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาแล้วเพื่อความสบายใจและขอพรให้กับประเทศชาติที่อยู่ในใจของตนตลอดมา ตนยินดีที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเพื่อเป็นกำลังใจ และรักษาเสถียรภาพด้านราคา และเกษตรกรมีรายได้อย่างยั่งยืน ตนพูดในสิ่งที่ตนคิด และเดินหน้ามาโดยตลอด เราต้องจัดการ และคำนึงถึงปลายทางเป็นหลัก ถ้าราคาสูงเราก็ขายได้ เราต้องมาดูว่าจะผลิตอย่างไรให้ต้นทุนน้อยที่สุด ถ้าเราใช้กลไกเดิมๆ ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะปุ๋ย ยา หรือสารเคมีต่างๆ ทั้งค่าแรงค่าจ้างต่างๆ ล้วนแต่เป็นต้นทุนทั้งสิ้น ทำให้เกิดราคาส่วนต่างไม่มาก ประกอบกับหนี้สินค้างชำระ รวมถึงหนี้ครัวเรือนก็ยังมีอยู่ ทำอย่างไรให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น ขณะที่หลายประเทศเองก็เจอปัญหาเหมือนเราหรือมากกว่าเราด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นเพราะเราร่วมมือกัน และอยู่ด้วยกันบนแผ่นดินเดียวกัน

นายกฯ กล่าวต่อว่า สิ่งแรกที่อยากจะเรียนพวกเราคือจงภูมิใจในการอยู่ผืนแผ่นดินไทยให้มากที่สุด เพราะเป็นดินแดนแห่งความสงบและสันติ เป็นดินแดนแห่งใต้พระบรมโพธิสมภาร และอยู่ร่มเงาใต้ทุกศาสนา เป็นพหุวัฒนธรรม ซึ่งคนไทยอยู่ร่วมกันได้ แตกแยกกันไม่ได้ ถ้าแตกแยกเมื่อไหร่ศักยภาพและขีดความสามารถที่เรามีอยู่จะหมดไปทันที เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญต้องเริ่มจากตัวพวกเรา ไปถึงชุมชุน ไปถึงสังคม ไปถึงระดับประเทศต้องรักกัน นั่นคือประเด็นที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะรัฐบาลตนหรือใครก็ตาม ทำให้สิ่งเหล่านี้เข้มแข็งขึ้น เติบโตขึ้น รวมพลังให้มากยิ่งขึ้น ในการเดินหน้าประเทศต่อไป เราทำแบบเดิมทั้งหมดไม่ได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นตนคาดหวังว่าสิ่งที่ตนทำไว้วันนี้นั้นจะเป็นพื้นฐานและแนวทาง และจะต้องมีสิ่งที่ดีกว่านี้ไปเรื่อยๆ สิ่งที่พูดมาตอนแรกว่าเราจะทำอย่างไร ที่จะบริหารได้ครบวงจร ตนยินดีที่มีการหารือของหลายสมาคม มีการลงนามเอ็มโอยูไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร สมาคมชาวนา ศูนย์ข้าวชุมชน และโรงสี โดยกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นไปตามนโยบายที่ตนได้ให้ไปทั้งหมดจะทำอย่างไรให้คนเข้าถึงบริการภาครัฐ ทำอย่างไรเขาจะเข้มแข็ง ทำอย่างไรให้เกิดความทั่วถึงและเป็นธรรม อย่างเดียวที่ให้เกิดขึ้นได้คือการร่วมมือกัน

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลต้องดูแลพืชอย่าง ข้าว ยาง ปาล์ม ข้าวโพด และมันสำปะหลัง ในแต่ละปีรัฐบาลต้องใช้เงินมากขึ้นทุกปี ขอให้เห็นใจรัฐบาลเหมือนกัน ตอนนี้โชคดีที่เรายังสามารถอยู่ในกรอบวงเงินงบประมาณที่มีอยู่ และโชคดีที่ราคาข้าวยังสูงขึ้น ส่วนต่างตรงนี้ก็ไม่ต้องจ่ายมากนัก เราจะได้มีเงินไปดูแลอย่างอื่นได้บ้าง ต้องเข้าใจการใช้งบประมาณเป็นแบบนี้ ซึ่งมีกระเป๋าเดียว แต่ต้องแจกจ่ายไปหลายกระเป๋า เพราะนอกจากเกษตรกร ก็ยังมีธุรกิจเอกชน เอสเอ็มอีต่างๆ ที่ต้องดูแล ที่ผ่านมาตนเข้าใจความลำบากของท่าน ท่านยิ่งลำบาก ตนยิ่งลำบากกว่าท่าน ตนไม่ลำบากเหนื่อยกายเหนื่อยใจเท่าท่าน แต่ตนเหนื่อยว่าจะแก้ปัญหาให้กับพวกท่านได้อย่างไร นั่นคือหัวใจการเป็นรัฐบาล หัวใจการเป็นอะไรก็แล้วแต่ต้องนึกถึงประชาชนไว้ให้มากที่สุด แล้วหาวิธีการทำอย่างไรให้ทำได้ ซึ่งจะได้มากได้น้อยต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน

“วันนี้ผมมาในนามรัฐบาล เพราะวันนี้ผมเป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นนายกฯ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะโครงการอะไรก็ตาม ต้องเข้าครม. ผมเป็นคนนำเข้า ครม. แล้วพิจารณาร่วมมือกันในการอนุมัติโดยพรรคร่วมรัฐบาลทุกคน ก็เป็นรัฐมนตรี ฉะนั้นทุกคนต้องรับผิดชอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐทั้งหมด ผมอยากให้เข้าใจตรงนี้ว่า ความเข้าใจระหว่างกันและกัน ถ้ามีรายได้มากขึ้น ประเทศรวยขึ้น ไทยมีจีดีพีสูงขึ้น ผมไม่กังวลเรื่องนี้เลย เพราะตอนนี้คือกรอบวงเงินมาตรา 28 รัฐบาลเขียนไว้แล้ว ต้องกี่เปอร์เซ็นต์ เราใช้เกินก็ผิดกฎหมาย แล้วเราก็จะไม่มีใช้ตรงนั้นด้วย หลายอย่างที่เราจำเป็นต้องไปกู้เพิ่มเติมมาก็เพราะด้วยสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเราต้องจำเป็นไปใช้ตรงนั้นตรงนี้ ขณะเดียวกันภาษีก็เก็บได้น้อยลง ซึ่งแผนงานต่างๆ ก็มีไว้แล้ว“ นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวต่อว่า "ปัญหามันเยอะ บางทีเราคุยกันก็เป็นปัญหา ข้าราชการก็กังวลในเรื่องข้อกฎหมาย ระเบียบอะไรต่างๆ ประชาชนก็อยากให้ปลดตรงนั้นตรงนี้ เอาละครับผมก็อยู่ตรงนี้ จะแก้อะไรได้ตรงไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือแก้ได้ด้วยความรักความสามัคคี ผมอยากเห็นทุกคนยิ้มแบบนี้ทั้งประเทศ ยิ้มแบบชาวเพชรบูรณ์ จะทุกข์จะสุขก็ยิ้มไว้ก่อน เพราะนี้คือสุขภาพจิตเรา สิ่งสำคัญที่สุดอีกประการหนึ่ง นอกจากผลกระทบโควิด-19 แล้วยังมีความขัดแย้งของต่างประเทศ และยังมีเรื่องของการกีดกันทางการค้าเรื่องราคาสินค้าการเกษตรที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐาน วันหน้าอาจจะต้องตรวจสอบถึงที่มา ผลิตที่ไหน ใช้ปุ๋ยแค่ไหน ใช้สารเคมีหรือไม่ ถ้าใช้อยู่ ไม่รับซื้อ นั่นคือปัญหาสำคัญของเรา นั่นคือมาตรการที่จะเกิดขึ้น ผมจึงบอกว่า ต้องรู้เท่าทันเกษตรยุคใหม่ และต้องพร้อมแก้ปัญหา ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่อยู่ในใจผมตลอดมาตั้งแต่เข้ามาเป็นนายกฯ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้และคงอยู่ไปอีกนาน”

ทั้งนี้ทันทีที่พูดประโยคนี้จบ นายกฯ ได้หยุดพูดชั่วขณะหนึ่ง และยิ้ม ทำให้ประชาชนที่นั่งฟังอยู่ปรบมือเสียงดัง ก่อนนายกฯ ​จะกล่าวต่อว่า “เอ๊ะ เดี๋ยวจะตีความผิดว่าผมอยู่อีกนาน อะไรทำนองนี้ ผมหมายความว่าสิ่งที่ผมเป็นห่วงจะอยู่กับผมอีกนาน เดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีก คือใครเป็นรัฐบาลก็ต้องทำ และลองคิดดูว่าสิ่งที่ผมพูดมันถูกไหม ซึ่งทำก็ต้องถูกต้องและถูกใจด้วยใช่หรือไม่ ฉะนั้นวันนี้มาตรการต่างๆ ออกมาหมดแล้ว”

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า วันนี้ก็โชคดีที่ การเงินการคลังของเราเริ่มจะดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามต้องไปชดเชยในสิ่งที่เราจำเป็นต้องกู้มา เพื่อทำในด้านอื่นๆ แทน เพราะเราไปช่วยประชาชนเสียเยอะจากโควิด-19 เพราะฉะนั้น มีผลกระทบในเชิงบวก และเชิงลบมากขึ้น และจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาบรรยากาศการท่องเที่ยวดีขึ้น หากประเทศไทยไม่ดีจริงนักท่องเที่ยวคงไม่มาขนาดนั้น เหมือนผึ้งตอมรัง เราจึงต้องรักษาสภาพนี้ไว้ให้ได้ ความสุขความสดชื่น ความยิ้มแย้มแจ่มใส ส่วนความทุกข์เก็บเอาไว้แล้วค่อยๆแก้ ค่อยๆ ระบายออก แต่ถ้าเราระบายออกด้วยความเกลียดชัง ซึ่งกันและกันมันก็ไม่มีอะไรจะดีขึ้น ปลูกฝังความเกลียดชังไปเรื่อยๆ เราก็จะทรมาน ยืนยันว่าตนไม่ใช่ศัตรูใครทั้งสิ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือทำอย่างไรให้พี่น้องชาวนามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งเราก็มีหลายมาตรการ วันหน้าก็ต้องไปคิดต่อว่าจะทำอย่างไร หากเราแตกแยกมากๆเรื่อยๆ แล้วจะได้ข้อยุติอะไรบ้างหรือไม่ วันนี้เราก็ต้องไปดูการแก้ไขปัญหาความยากจน การปรับโครงสร้างหนี้ อย่าลืมว่าเงินทั้งหมดนี้ไม่ใช่เงินของตน ไม่ใช่ของธนาคาร เป็นเงินที่สมาชิกนำเข้ามา ดังนั้นเป็นเงินประชาชนเหมือนกัน แต่การที่รัฐบาลนำมาใช้ตรงนั้นตรงนี้ ก็ต้องมารับผิดชอบเงินก้อนนั้นอยู่ดี นำงบประมาณมาเติมให้ ใช้หนี้ธนาคาร สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า "วันนี้มาเพื่อให้เห็นหน้าเห็นตากัน ทำสัญญาใจกันว่าเราจะช่วยกันนะ ไปด้วยกันให้ได้นะ ทั้งการทำให้ประเทศเราปลอดภัย เป็นประเทศที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี มันต้องใช้เวลาครับ ไม่ใช่ประเดี๋ยวประด๋าว ปีหนึ่งหรือสองปี อย่างนั้นมันไม่ใช่ ที่ผมอยู่มาวันนี้หลายปี ทำอะไรได้เยอะพอสมควรเหมือนกัน นี่ผมไม่ได้พูดว่าอยากหรือไม่อยากอยู่ใดๆทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวกัน เดี๋ยวจะไปตีความกันผิดอีก และตรงนี้จะเป็นยุทธศาสตร์ เป็นแผนแม่บท ส่งต่อไปยังรัฐบาลหน้า ใครจะมาใครจะไป ถ้าทำต่อก็จะเป็นอย่างนี้ และดีขึ้นเรื่อยๆ"

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า "ต้องการให้เกษตรกรเป็นกระดูกสันหลังที่ตั้งตรง แข็งแรง มีรอยยิ้ม ยิ้มสยาม ยิ้มสู้ ยิ้มไปเถิด มันจะเจ็บปวดอย่างไรยิ้มเข้าไว้ ความสุขมันอยู่ที่ใจ มันอาจจะมีความทุกข์ ผมก็ทุกข์ ที่ผมยิ้มอยู่นี้ ในใจผมก็ร้อนอยู่นะ แต่ก็ขอให้ยิ้มให้กับทุกคนมาพูดคุยปรับทุกข์ ผูกมิตรกัน ถ้ามีหน้าตาโมโหตลอดเวลา ก็จะไม่กล้าเข้าหากัน ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องของอารมณ์"

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้คืองานของรัฐบาล ที่พวกเราได้ร่วมมือกัน ดังนั้นหวังอย่างยิ่งว่าอย่างน้อยก็ได้ประโยชน์บ้าง และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือตน มาเพื่อต้องการให้กำลังใจ และสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ไม่มีหยุดคิด เมื่อตนไม่หยุดเขาก็ต้องไม่หยุด ต้องไปหาวิธีการแก้ปัญหามาให้ได้ ตนได้ให้โจทย์กับรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ให้ไปคิดในงานของทุกคน สิ่งใดที่บูรณาการร่วมกันได้ก็ทำ นั่นคือรัฐบาล คือตัวแทนที่เลือกมาจากประชาชนทุกคน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้อยากให้กำลังใจกับเกษตรกร อะไรที่จะทำให้เขาต่อไป แล้วก็มาจดบันทึกไว้ ก่อนนำมาปรึกษาทุกคน ครม. ก็คือเรื่องของรัฐบาล ที่มาจากส.ส. มาจากพรรคร่วมรัฐบาล ก็เป็นทีมรัฐบาล ในส่วนของสภา ก็มาจากส.ส. ภาครัฐ ส่วนกลางส่วนภูมิภาค เพราะทั้งหมดคือหัวใจของพวกเรา รวมพลังกันให้ได้เถิด หากทุกคนประท้วงกันไปประท้วงกันมา มันไม่ได้อะไรทั้งสิ้น หลายคนบอกประท้วงกันหน่อยเดียวก็ได้ แต่ถ้าผิดกฎหมายก็มีปัญหา

นายกฯ กล่าวว่า มีอะไรจะถามหรือไม่ เข้าใจไหม เห็นใจบ้างไหมจ๊ะ ต่างคนต่างเห็นใจก็แล้วกัน เรา เห็นใจยูเต็มที่ เพราะเรารับผิดชอบทั้งหมด ทุกกิจกรรมทั้งประเทศ และประชาชนทุกคนในฐานะหัวหน้ารัฐบาล นายกไม่ใช่คนเก่งอะไรมากมาย เพียงแต่ศึกษา และนำมาคิด วันๆ ก็คิดๆๆๆๆ แล้วระบายไปยังรองนายกฯ รัฐมนตรี ซึ่งล้วนแต่มีคนเก่งมากมาย บางเรื่องส่งไปนานแล้วแต่ยังไม่กลับมา ก็ต้องเรียกมาถามกันหน่อยว่าทำไมเรื่องยังไม่ออกเสียที ได้หรือไม่ได้ ตนเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้นโดยการรวมพลังของพวกเรา

นายกฯ กล่าวในตอนท้ายว่า อย่าลืมยิ้มให้กัน ยิ้มให้กันทั้งวันใครจะว่าบ้าก็ช่างเถิด จะให้โมโหกันทั้งวันได้อย่างไร หากยิ้มแล้วจะคุยกันได้ ค่อยๆปรับเคมีให้ตรงกันได้ เดี๋ยวก็ไปได้ โกรธเคืองกัน แบ่งพวกแบ่งฝ่าย แบ่งสีแบ่งสัน ไม่ได้อะไรขึ้นมา พอเถิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเสร็จสิ้น ได้เดินสอบถามสารทุกข์สุขดิบของประชาชนที่มาร่วมกิจกรรม โดยประชาชนบางคนถึงขั้นเข้ามาสวมกอดและร้องไห้ดีใจที่เจอนายกฯและได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล ขณะที่บางคนจะลงกราบที่เท้าของนายกรัฐมนตรีแต่นายกรัฐมนตรีได้ห้ามไว้ว่าไม่ต้องทำแบบนี้

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้แม้จะมีการรักษาความปลอดภัยทั้งทีมทหารและตำรวจ แต่เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้ามาใกล้ชิดนายกฯมากขึ้น ทั้งสวมกอดนายกฯ ขอถ่ายภาพ และเข้ามาร้องทุกข์ต่อนายกรัฐมนตรีโดยตรงได้แบบประชิดตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในการลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์มีส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)มารอต้อนรับด้วย คือ นายจักรัตน์ พั้วช่วย , น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ส.ส.เพชรบูรณ์ และนายบุญชัย กิตติธาราทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เพชรบูรณ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โธ่!บุคคลสาธารณะ 'ชูศักดิ์-เพื่อไทย' จ่อฟ้อง 'ธีรยุทธ'

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เตรียมฟ้องกลับนายธีรยุทธ

ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 37): ‘กรมขุนชัยนาทนเรนทร’ ทรงตกเป็นเหยื่อการเมืองของหลวงพิบูลสงคราม ? ”

รัฐธรรมนูญไทยฉบับที่ 4 คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 ประกาศใช้เมื่อ วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 รัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดจากคณะทหาร

'อังกินันทน์' ชนะขาด! ประกาศผลนับคะแนนเลือกตั้ง 'นายก อบจ.เพชรบุรี'

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี รายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี (อย่างไม่เป็นทางการ) ณ เวลา 23.59 น. โดยนับครบแล้วทั้ง 734 หน่วยเลือกตั้ง

ประกาศผลนับคะแนนเลือกตั้ง 'นายก อบจ.อุดรธานี' อย่างไม่เป็นทางการ

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รายงานผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี

โค่นแชมป์เก่า! 'วาริน' คว้าชัย 'นายก อบจ.เมืองคอน' ทิ้งห่าง 'กนกพร'

ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช อย่างเป็นทางการ ประกาศว่า นางสาววาริน ชิณวงศ์ ผู้สมัครหมายเลข 2 จากทีมนครเข้มแข็ง

'ดร.ณัฏฐ์' ชี้กรณี 'ทักษิณ-พท.' รอดคดีล้มล้างฯ ไม่ตัดอำนาจ 'กกต.' ไต่สวนยุบพรรคได้

ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยกคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยว่าการกระทำของนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยเป็นการ