แฟ้มภาพ
22 พ.ย.2565 - นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng ระบุว่า.....กำหนดเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ให้นับตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้คือวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๐ นั้น
.....รัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๕๘ วรรคสี่ บัญญัติว่า นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตําแหน่ง
.....หมายความว่า ระยะเวลาในระหว่างอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตำแหน่ง ไม่นำมานับคิดรวมเป็นเวลาในการดำรงตำแหน่ง ๘ ปี
.....ในปี ๒๕๖๒ พระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับในวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๒ จึงต้องถือว่าพลเอกประยุทธ์พ้นจากตำแหน่งในวันนั้น การอยู่ในตำแหน่งของพลเอกประยุทธ์ตั้งแต่วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๒ เป็นระยะเวลาที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่หลังจากพ้นจากตำแหน่ง
.....เมื่อมีการเลือกตั้งในวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒ แล้ว และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พลเอกประยุทธ์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๒
.....ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๒ จนถึงวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๒ รวม ๔ เดือน ๑๕ วัน เป็นระยะเวลาที่พลเอกประยุทธ์อยู่ปฏิบัติหน้าที่หลังจากพ้นจากตำแหน่ง จึงไม่เอามานับรวมเป็นเวลาที่พลเอกประยุทธ์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
.....สภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันซึ่งได้รับเลือกตั้งมาเมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒ ครบวาระในวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๖ พลเอกประยุทธ์ก็ต้องพ้นตำแหน่งไปด้วย ในระหว่างรอการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดไว้ว่าเป็นวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๖ เมื่อเลือกตั้งแล้ว ต้องรอประกาศผลการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ก็น่าจะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า ๒ เดือน เมื่อคิดตั้งแต่วันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๖ เป็นเวลา ๑ เดือน ๑๕ วัน รวมกับเวลาหลังเลือกตั้งแล้วจนถึงวันที่มีรัฐบาลชุดใหม่อีกประมาณ ๒ เดือน รวมเป็นระยะเวลาที่พลเอกประยุทธ์อยู่ปฏิบัติหน้าที่หลังจากพ้นตำแหน่ง ๓ เดือน ๑๕ วัน จึงไม่เอามานับรวมเป็นเวลาที่พลเอกประยุทธ์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเช่นเดียวกัน
.....รวมระยะเวลาที่พลเอกประยุทธ์อยู่ปฏิบัติหน้าที่หลังพ้นจากตำแหน่งในปี ๒๕๖๒ เป็นเวลา ๔ เดือน ๑๕ วัน และในปี ๒๕๖๖ เป็นเวลาประมาณ ๓ เดือน ๑๕ วันรวมเป็นเวลาประมาณ ๘ เดือน ไม่นำมานับรวมเป็นเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ ตามที่ระบุไว้ในมาตรา ๑๕๘ วรรคสี่ว่า มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตําแหน่ง
.....ถ้ารัฐสภาลงมติเลือกพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี การนับเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ ๘ ปี ตั้งแต่วันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๐ ซึ่งครบ ๘ ปี ในวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๘ แต่ไม่อาจนำเวลาในระหว่างที่พลเอกประยุทธ์อยู่ปฏิบัติหน้าที่หลังพ้นจากตำแหน่ง ๒ ครั้งเป็นเวลาประมาณ ๘ เดือน มารวมอยู่ในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
.....ดังนั้นพลเอกประยุทธ์จึงมีสิทธิดำรงตำแหน่งต่อจากวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๘ ไปได้อีกประมาณ ๘ เดือน คือดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้จนถึงวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๘
......ทั้งนี้ถ้าหลังเลือกตั้งในปี ๒๕๖๖ใช้เวลาการประกาศผลเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลมากกว่า ๒ เดือน ก็ดำรงตำแหน่งได้เกินจากวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๘ ตามจำนวนวันที่เกินจาก ๒ เดือน แต่ถ้าใช้น้อยกว่า ๒ เดือนก็ดำรงตำแหน่งได้ไม่ถึงวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๘ โดยลดลงตามจำนวนวันที่น้อยกว่า ๒ เดือน
.....สรุปได้ว่าถ้าพลเอกประยุทธ์ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ก็มีสิทธิดำรงตำแหน่งต่อไปจากวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๘ อีกประมาณ ๘ เดือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอาแล้ว 'อิ๊งค์' มีสิทธิ์หลุดเก้าอี้นายกฯ เซ่นตั้ง 'เลี้ยบ' นั่งรองประธานที่ปรึกษาของนายกฯ
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า “รัดแน่นกว่าเดิม”
ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 43)
ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475
'วิสุทธิ์' วอน สว. 80-90 เสียง หนุนร่างแก้รธน. ตัดอำนาจวุฒิสภาให้ประเทศเป็นปชต.
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์กรณีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่น
ชื่นมื่น ‘บิ๊กตู่’ คืนถิ่นกองทัพภาคที่ 1 ร่วมงานสถาปนา 115 ปี
‘บิ๊กตู่’ คืนถิ่น กองทัพภาคที่ 1 ร่วมงานสถาปนา 115 ปี ชื่นมื่นท่ามกลางวงล้อมทหาร ทักทายสื่อฯ 'สวัสดีปีใหม่' ขณะที่กองทัพภาคที่ 1 ย้ำความพร้อมทำหน้าที่ปกป้องสถาบันหลักของชาติ
เทพไท ชี้ ‘ทักษิณ’ ยังขลัง ขึ้นเวทีช่วยผู้สมัคร นายกอบจ. เพื่อไทย โกยคะแนน
ใครจะบอกว่า นายทักษิณหาเสียงไม่มีผลต่อคะแนน ผมขอเถียงคอเป็นเอ็นว่า ทักษิณขึ้นเวทีหาเสียง มีผลต่อคะแนนผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยแน่นอน
'วรชัย' พูดเต็มปาก! 'ชวน' ไม่ควรว่าทักษิณ ถ้ายังกวาดบ้านตัวเองไม่สะอาด
นายวรชัย เหมะ อดีตสส.สมุทรปราการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำนองว่า ตัวเองเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่ไม่โกง