นายกฯ จับมือ 'โจ ไบเดน' ประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ เสนอกระชับความเป็นหุ้นส่วน 3 ประเด็น

นายกฯ เสนอในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ครั้งที่ 10 กระชับความเป็น “หุ้นส่วน” ใน 3 ประเด็น เพื่อให้ความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐฯ เข้มแข็ง และเป็นพลัง

12 พ.ย.2565 - เวลา 17.20 น. ที่กรุงพนมเปญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ครั้งที่ 10 ซึ่งเป็นการประชุมแบบเต็มคณะ (plenary) โดยมีสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นประธานการประชุม และมีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ (เมียนมาไม่เข้าร่วม) นายโจเซฟ อาร์. ไบเดน จูเนียร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเลขาธิการอาเซียน เข้าร่วม โดยในการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ทบทวนความคืบหน้าและกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐฯ ด้านการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นภูมิภาคและระหว่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมสำคัญที่จะได้ทบทวน กำหนดทิศทางความสัมพันธ์ว่าจะก้าวไปข้างหน้าร่วมกันอย่างไร ท่ามกลางวิกฤตและความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกและในภูมิภาค ความท้าทายในโลกยังทวีความรุนแรงและซับซ้อนยิ่งขึ้น เกิดความเหลื่อมล้ำด้านการพัฒนา วิกฤตด้านอาหารและพลังงาน ภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความขัดแย้งระหว่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจะก้าวข้ามผ่านอุปสรรคเหล่านี้ได้ต้องสร้างความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้านระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เสนอให้กระชับความเป็น “หุ้นส่วน” ใน 3 ประเด็น ดังนี้ 1. “หุ้นส่วนเพื่อสร้างบรรยากาศของความร่วมมือในภูมิภาค” ยินดีที่สหรัฐฯ สนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียนอย่างต่อเนื่อง และหวังว่ายุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก และข้อริเริ่มอื่น ๆ ของสหรัฐฯ อาทิ “ออคัส” กลุ่มภาคี “คว้อด” และกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิกจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และหวังที่จะเห็นมหาอำนาจและผู้เล่นสำคัญในภูมิภาคทำงานร่วมกัน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือภายใต้หลักการของมุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก โดยควรคว้าโอกาสทองจากการประชุมใหญ่สามการประชุมในภูมิภาคในห้วงสัปดาห์นี้ เพื่อหารือทางออกที่เป็นไปได้สำหรับวิกฤตที่เร่งด่วน

2. “หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาขีดความสามารถด้านเศรษฐกิจ” สหรัฐฯ ควรส่งเสริมการพัฒนาด้านดิจิทัลและเศรษฐกิจดิจิทัล ทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และการพัฒนาขีดความสามารถให้แก่แรงงานและผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ MSMEs สตาร์ทอัพ และผู้ประกอบการสตรี นายกรัฐมนตรีหวังว่า กิจกรรม “เทรดวินส์บิสซิเนสฟอรั่ม” ที่ไทยในปีหน้า จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจในสาขาเหล่านี้ด้วย

3. “หุ้นส่วนเพื่อการดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ยินดีที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับวาระนี้ เพื่อให้การดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศบรรลุผลต้องสนับสนุนกลไกทางการเงินสีเขียว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว และการลงทุนและการสร้างงานในอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในโอกาสนี้ ไทยในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคจะมุ่งเน้นการสร้างภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่เปิดกว้าง เชื่อมโยง และสมดุลแบบองค์รวม โดยมีโมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็นแนวคิดพื้นฐาน ซึ่งไทยพร้อมที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ ในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคในปีหน้า เพื่อขับเคลื่อนวาระนี้อย่างต่อเนื่องและให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าความเป็นหุ้นส่วนในประเด็นเหล่านี้จะเป็นแกนหลักสำคัญช่วยให้ความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐฯ มีความเข้มแข็ง และเป็น “พลัง” พาภูมิภาคและโลกเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนกว่าเดิม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ เร่งเคลียร์งานก่อนปีใหม่ โชว์แฟ้มเอกสารกองโต

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมรูปภาพแฟ้มเอกสารตั้งบนโต๊ะ ก่อนระบุว่า แฟ้มส่งท้ายปี 2567 และเตรียมงานให้พร้อมสำหรับสวัสดีปีใหม่ 2568ค่ะ

นายกฯ คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่เฟส 4

นายกฯ คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ เฟส 4 ครอบคลุมทั่วไทย 1 ม.ค.2568 ลดแออัด รพ. อำนวยความสะดวกปชช. พร้อมดันสร้างอาชีพ 'นศ.จบใหม่-คนเกษียณอายุ' เป็นนักบริบาล 15,000 ตำแหน่ง