เสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานมุ่งอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

พลังงานเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทุกประเทศรวมถึงไทยจึงต้องการแหล่งพลังงานที่มั่นคง และจำเป็นต้องจัดหาแหล่งพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการของประเทศในระยะยาว โดยที่ผ่านมา ทั่วโลกต่างพึ่งพาพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นหลัก ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีปริมาณจำกัด และไม่สามารถเกิดขึ้นใหม่ได้อีก นอกจากนี้ ในขณะที่เชื้อเพลิงฟอสซิลถูกเผาไหม้ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ได้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gases) ค้างอยู่ในชั้นบรรยากาศของโลก ซึ่งก๊าซดังกล่าวจะดักจับและกักเก็บความร้อนไว้ ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน (Global Warming) และการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ (Climate Change) ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศของโลก ประเด็นดังกล่าวจึงกลายมาเป็นวาระสำคัญที่ทุกประเทศต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน ในฐานะที่ไทยเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก และเพื่อเป็นการเน้นย้ำว่าไทยให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าว จึงมีการผลักดันการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน โดยลดการผลิตและใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด BCG Economy Model ซึ่งเป็นแนวคิดหลักของการประชุม APEC 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ

ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงาน โดยลดการผลิตและใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการปลูกสตรอว์เบอร์รีในโรงเรือนเพาะปลูกไม้เมืองหนาว ณ สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดระยอง ที่มีการนำของเสียจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติมาสร้างโรงเรือนอุณหภูมิเย็นเพื่อปลูกพืชเมืองหนาว เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน, โครงการผลิตเชื้อเพลิงจากปาล์มน้ำมันหรือไบโอดีเซล และการใช้พลังงานโซลาเซลล์ เพื่อส่งเสริมการผลิตและใช้พลังงานทางเลือกแทนพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และโครงการโรงงานไฟฟ้าชีวมวล ที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ เป็นต้น

ยิ่งไปกว่านั้น ไทยได้ประกาศเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีการผลักดันนโยบายต่าง ๆ เพื่อลดมลภาวะและลดการใช้พลังงาน เช่น สนับสนุนให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในไทยและการนำเข้ายานยนต์ไฟฟ้า พร้อมทั้งให้สิทธิพิเศษเพื่อดึงดูดนักลงทุน เช่น การลดภาษีนำเข้า หรือการให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แก่นักลงทุนที่มาตั้งฐานการผลิตในไทย เป็นต้น พร้อมกันนี้ ยังส่งเสริมให้มีการลงทุนโดยลดการใช้พลังงานหรือใช้พลังงานทดแทน ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น หากมีการเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรตามเกณฑ์ที่กำหนดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน จะได้รับการยกเว้นภาษีนิติบุคคล 3 ปี รวมถึงการยกระดับการดำเนินการให้ได้มาตรฐาน GAP, FSC และ ISO เป็นต้น นอกจากนี้ ในการประชุม APEC 2022 ยังเป็นโอกาสของไทยในการนำเสนอ “เป้าหมายกรุงเทพฯ เรื่องเศรษฐกิจ BCG (Bangkok Goals on BCG Economy)” ในเวทีโลก เพื่อนำแนวคิด BCG Economy Model มาส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาค โดยมีเป้าหมายสำคัญ 4 ข้อ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ การจัดการปัญหาสภาพภูมิอากาศซึ่งรวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พีระพันธุ์' เผยความก้าวหน้า 'รื้อ ลด ปลด สร้าง' ระบบพลังงานไทย

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์เฟซบุ๊กว่า สวัสดีครับ ผมขออนุญาตเรียนความก้าว

'พีระพันธุ์' ลั่น 'รทสช.' ชงกฎหมายปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป

'พีระพันธุ์' เผย 'รทสช.' เตรียมยื่นร่างกฎหมาย ปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อปเข้าสภาวันนี้ ชี้ ต้องแก้กฎหมายที่ยุ่งยาก หวังลดภาระค่าไฟฟ้า-สร้างอาชีพใหม่ให้ประชาชน พร้อมขอบคุณ 'นายกฯ' ที่สนับสนุน

ดร.อาทิตย์ ชื่นชม ‘พีระพันธุ์’ ไม่เหมือนนักการเมืองคนอื่น

ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยรังสิต อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อในเฟซบุ๊ก ชื่นชมนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าก