‘ทิพานัน’ โต้ยิบ 9 ประเด็น ไม่มีกฎหมายขายชาติ ชี้ร่างกฎกระทรวงฯ ยกระดับกฎเหล็ก คัดกรองหัวกะทิอยู่ไทย ยันทุกตารางนิ้วที่ถือครองไม่ใช่การเสียอธิปไตยของชาติ
4 พ.ย. 2565 – ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านตั้งกระทู้ถามสด ผลกระทบของร่างกฎกระทรวงมหาดไทย ให้สิทธิชาวต่างชาติศักยภาพสูง 4 กลุ่ม โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลจนมุมทางเศรษฐกิจ ว่า ไม่ใช่เรื่องจนมุมทางเศรษฐกิจ มีหลายมาตรการดึงดูดนักลงทุนด้านอื่นๆของรัฐบาล ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในพื้นที่อีอีซี ที่แม้เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวในช่วงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่กลับมีงบลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวสูงถึง 1.8 ล้านล้านบาท ดังนั้นรัฐบาลไม่ได้จนมุมใดๆ
โดยร่างกฎกระทรวงมหาดไทยฉบับนี้ มีการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเพิ่มเติมเพื่อดึงดูดนักลงทุนรายบุคคล ในขณะเดียวกันก็เพิ่มการควบคุมและคัดกรองให้รัดกุมขึ้น ดังนี้
1.อนุญาตให้เฉพาะคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง 4 กลุ่ม คือกลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย และกลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ ที่ได้รับสิทธิวีซ่าประเภทผู้พำนักระยะยาวใหม่ (Long-term resident visa : LTR) เท่านั้น
2.การซื้อขายไม่เปิดช่องให้นอมินีสามารถกว้านซื้อที่ดินได้ เนื่องจากมีหลักเกณฑ์ขั้นที่1 ที่กำหนดคุณสมบัติคนต่างด้าว 4 กลุ่ม ข้างต้นแล้วยังกำหนดให้ต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาทในธุรกิจหรือกิจการตามที่ร่างกฎกระทรวง กำหนด และต้องคงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปี โดยให้นับมูลค่าการลงทุน ณ วันที่ยื่นคำขอ หากถอนการลงทุนก่อนครบกำหนด 3 ปี ก็จะถูกระงับสิทธิ และสามารถออกเงื่อนไขในการป้องกันนอมินีเพิ่มเติมได้
3.ไม่สามารถถือครองขยายพื้นที่ได้ มากกว่า 1 ไร่ ต่อ 1 คน ดูสิทธิการซื้อครบ 1 ไร่ ไม่มีสิทธิซื้ออีกถึงแม้จะขายออกไปแล้ว
4.การซื้อที่ดิน กำหนดบริเวณชัดเจน ไม่ใช่ซื้อที่ไหนก็ได้ในประเทศไทย แต่ต้องเป็นพื้นที่ในเขตเมืองที่มีราคาสูง อยู่ภายในเขตกรุงเทพมหานครเขตเมืองพัทยา เขตเทศบาล หรืออยู่ภายในบริเวณที่กำหนดเป็นเขตที่อยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง ไม่ใช่อนุญาตให้ซื้อพื้นที่เกษตรกรรม
5.การซื้อขายเป็นระหว่างพื้นที่เอกชนกับเอกชนตกลงกันเอง และเป็นราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มเอง ไม่ใช่ ลงทุน 40 ล้านแล้วได้ที่ 1 ไร่
6.หากตกลงซื้อขายที่ดินแล้วตามขั้นตอน นอกจากยื่นเรื่องต่อเจ้าพนักงานที่ดินแล้ว ยังกำหนดให้ยื่นเรื่องต่ออธิบดีกรมที่ดิน เพื่อตรวจสอบเงื่อนไขทั้งหมดก่อน เช่น พบว่าเป็นนอมินี หรือมีการกว้านซื้อบริเวณใกล้เคียง ก็นำไปสู่การตรวจสอบเพิ่ม และสุดท้ายเมื่อถูกต้อง ถึงจะเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพิจารณาเป็นรายกรณีไป ไม่ใช่ซื้อได้ในทันที
7.รัฐบาลไม่ได้เป็นผู้จัดหาที่ดินให้ เพียงออกกฎหมายรองรับ และสิทธิอำนาจในการพิจารณาเงื่อนไขการอยู่ในแผ่นดินไทย ยังเป็นของรัฐบาลไทย
8.การใช้ชีวิตของต่างชาติในไทย ต้องดำรงเงื่อนไขก่อนซื้อ ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทย ไม่มีเอกสิทธิ์เหนือแผ่นดินไทย
และ 9.ทุกตารางนิ้วที่ต่างชาติมีที่พักอาศัยอยู่ในแผ่นดินไทย ยังต้องเคารพกฎหมายไทย จึงไม่ใช่การเสียอธิปไตยของชาติ
“รัฐบาลน้อมรับข้อห่วงใยของทุกฝ่าย ที่มีเจตนาในการที่ป้องกันไม่ให้เกิดช่องโหว่ในการแสวงหาผลประโยชน์อื่นใด ซึ่งตรงตามเจตนารมรณ์ของรัฐบาลซึ่งร่างกฎกระทรวงนี้อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่มีการปรับปรุงแก้ไขได้อยู่ขณะนี้” รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ภูมิธรรม’ มั่นใจนายกฯกลับมาประชุมตั้ง ‘เจทีซี’ เสร็จ ชงเข้าครม.19 พ.ย.ทันที
‘ภูมิธรรม’ ระบุ หากนายกฯกลับมา เรียกถก ตั้ง เจทีซี วันนี้ก็ เข้าครม.ทันพรุ่งนี้ โยน กต.เคาะรายชื่อ ลั่น เกาะกูดไม่จบซํ้ารอยเขาพระวิหารแน่ ยัน ไม่มีเหตุผลต้องยกเลิกเอ็มโอยู 44
ชาวนาต้นทุนกระฉูด! ปุ๋ยคนละครึ่งไม่ตอบโจทย์
บุรีรัมย์ ชาวนา เรียกร้องให้รัฐบาล ช่วยค่าเก็บเกี่ยวไร่ละพัน แบ่งเบาภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ยังขายได้ราคาต่ำ
'นิพิฏฐ์' ท้าเดิมพัน! 'ทักษิณ' ไม่ผิด112-ชั้น14 ยอมเอาตะกร้อครอบปาก
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ขอให้มนุษย์เข้าใจหมาด้วย" โดยระบุว่า
'ภูมิใจไทย' นัดหลังปีใหม่ ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลครั้งต่อไป ว่า
ระวังปากพาจน! 'ทักษิณ' สามหาว เสี่ยงขัดแย้งประเทศเพื่อนบ้าน
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ทักษิณ ปราศรัย ระวังปากพาจน" โดยระบุว่า
อึ้ง! ร้องเรียนโจรชวนลงทุนออนไลน์วันละกว่า 3.2 พันสาย
รองโฆษกรัฐบาล เตือนภัย 'มิจฉาชีพชวนลงทุนออนไลน์' พบผู้เสียหายโทรแจ้งอาชญากรรม ผ่านศูนย์ AOC เฉลี่ยวันละ 3,206 สาย ดำเนินการระงับบัญชีวันละ 1,130 บัญชีต่อวัน