ปมคดี แม้ว-ชวนส่อลากยาว ทนายทักษิณไม่ยอม โต้นายหัวชวนใครทำให้คดีล่าช้าเกือบ 10 ปี แฉแหลกออกหมายเรียก 4 รอบไม่เคยถาม ย้อนถามใช้อำนาจอะไรให้อัยการยื่นฟ้องตัวเอง
27 ต.ค.2565 - กรณีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา แถลงข่าวภายหลังตกเป็นจำเลยในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องความผิดหมิ่นประมาท โดยการโฆษณา จากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายชวนระบุว่ารู้ว่าคดีจะขาดอายุความ จึงมอบหมายให้นายราเมศ รัตนะเชวง คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะทนายความช่วยประสานตำรวจและอัยการเพื่อให้ฟ้องคดี เพื่อมิให้คดีขาดอายุความ หากคดีขาดอายุความ องค์กรตำรวจ และอัยการจะเสียหายได้ โดยยึดหลักในความเคารพกฎหมาย ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกันพร้อมสู้คดี นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความนายทักษิณกล่าวว่า ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากนายทักษิณในการแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อเอาผิดกับนายชวน ในข้อหาหมิ่นประมาท คดีนี้ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลวัดพญาไกรมาตั้งแต่ปี 2555 ถึงเวลานี้ เป็นเวลาจะเกือบ 10 ปี ต้องย้อนถามนายชวน ใครกันแน่ที่ทำให้คดีล่าช้ามาเป็นเวลา 10 ปี และถามอีกว่าได้ยึดหลักในความเคารพกฎหมาย และได้อยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมสู้คดีจริงหรือไม่
“ความจริง ต้องให้ความเป็นธรรมกับองค์กรตำรวจและอัยการ นับแต่ผมในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก ดร.ทักษิณ ในการแจ้งความร้องทุกข์คดีนี้แล้ว ได้ติดตามคดีนี้มาโดยตลอด จึงได้ทราบว่า ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวน ได้มีหมายเรียกให้นายชวน มารับทราบข้อกล่าวหามาแล้วถึง 4 ครั้ง แต่นายชวน ไม่ได้มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก จนเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนขอศาลออกหมายจับ ซึ่งเป็นเหตุให้คดีล่าช้ามาถึงเกือบจะ10 ปี ผมเป็นทนายความและทำคดีมาจะ 30 ปี ยังไม่เคยเห็นคดีไหนล่าช้าเท่าคดีนี้ ถ้าเป็นคดีชาวบ้านธรรมดาๆ คดีคงจบไปนานแล้ว”
นายนรวิชญ์กล่าวว่า นายชวนอ้างว่ายึดหลักในความเคารพกฎหมายและอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน และพร้อมสู้คดี แต่เหตุใดนายชวนจึงไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกทั้ง 4 ครั้ง คงไม่ตอบว่า ไม่ได้รับหมายเรียก อย่างนี้จะถือว่านายชวนได้ยึดหลักในความเคารพกฎหมายและอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน และพร้อมสู้คดีตามที่พูดหรือไม่ และการที่คดีล่าช้าเกือบจะถึง 10 ปี สาเหตุมาจากการที่นายชวน ไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ไม่ใช่องค์กรตำรวจหรืออัยการทำคดีล่าช้าใช่หรือไม่
“ที่นายชวนอ้างว่า เห็นว่าคดีอีก 3 วันคดีจะขาดอายุความจึงได้ขอให้ตำรวจและอัยการ ยื่นฟ้องต่อศาลนั้น ในส่วนนี้ก็มีคำถามว่านายชวนในฐานะผู้ต้องหาหรือจำเลยเอาอำนาจอะไรไปสั่งให้ องค์กรตำรวจและอัยการฟ้องคดีนี้ ทั้งที่การพิจารณาของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ ในการจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องคดีในคดีใดๆ นั้น ต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน และข้อกฎหมายเป็นสำคัญ ไม่ใช่ทำตามคำสั่งของใคร และที่สำคัญต้องไม่ตามคำสั่งของผู้ต้องหา หรือจำเลย การที่นายชวน พูดเช่นนี้ ถือว่า องค์กรตำรวจและอัยการเสียหาย และทำให้ประชาชนสับสน องค์กรตำรวจ และอัยการ ต้องออกมาชี้แจงเรื่องนี้ให้กระจ่าง ฝากเป็นข้อคิดทุกท่าน อย่าพูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่ผู้อื่น”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เทพไท' ยุกก.บห.ปชป.ย้ายไปสังกัดพท.จับตา 'ทักษิณ' กล้าปรับออกจากรัฐบาลหรือไม่
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊กในหัวข้อ ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย เหมือนน้ำกับน้ำมัน มีเนื้อหาดังนี้
'ชวน' อวยพรคนไทยให้เข้มแข็งด้วยตัวเองอย่ารอแค่เงินแจก
'ชวน' อวยพรคนไทยประสบความสำเร็จ ย้ำต้องเข้มแข็งช่วยเหลือตัวเอง ไม่รอเงินแจก
'ชวน' นำคนตรังทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่
อดีตนายกฯ ชวน ร่วมทำบุญตักบาตร เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2568 ร่วมด้วยประชาชน พร้อมอวยพรให้คนตรังอยู่ดีมีสุข ร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม
'หมอวรงค์' ฟันธงปี 2568 ความจริงเรื่องป่วยทิพย์จะปรากฎ
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี
'เทพไท' เตือน 'ทักษิณ' ฟังคำแนะนำ 'นายหัวชวน' ก่อนซ้ำรอยไม่มีแผ่นดินอยู่
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก
‘ชวน’ ร่อนหนังสือถึงผู้ตรวจฯ-กกต.แก้ปมผู้บริหารท้องถิ่นลาออกก่อนครบวาระ
นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าตนพร้อมด้วยนายบัญญัติ บรรทัดฐาน และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือถึงประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)