20 ต.ค.2565 - เวลา 13.00 น. ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสาวเซซิเลีย ซูนิลดา กาลาร์เรตา บาซัน (H.E. Miss Cecilia Zunilda Galarreta Bazán) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเปรูประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่
ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตเปรูฯ แสดงความยินดีในโอกาสที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง และได้เข้าเฝ้าฯ ถวายอักษรสาส์นตราตั้งเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 เชื่อมั่นว่า ประสบการณ์และการทำงานของเอกอัครราชทูตเปรูฯ จะส่งผลให้ความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยกับเปรูเพิ่มพูนมากขึ้น พร้อมเน้นย้ำว่า หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนไทยมีความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับเอกอัครราชทูตเปรูฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกัน
นายอนุชา กล่าวว่า เอกอัครราชทูตเปรูฯ รู้สึกยินดีที่ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีในวันนี้ และขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นจากรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ การหารือในวันนี้จะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้กระชับความสัมพันธ์ ซึ่งไทยเป็นประเทศที่สวยงาม มีความสัมพันธ์กับเปรูอย่างราบรื่นและใกล้ชิด นอกจากนี้ ไทยและเปรูยังมีความร่วมมือที่ครอบคลุมและเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ ทั้งด้านการค้า การลงทุน ความร่วมมือทางด้านการพัฒนา ความร่วมมือในพหุภาคี และในกรอบเอเปค
นายอนุชา กล่าวว่า ความร่วมมือด้านการค้า ทั้งสองฝ่ายต่างมองว่า การค้าของไทยกับเปรูยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก โดยเฉพาะความร่วมมือในด้านการค้าสินค้าเกษตร ซึ่งไทยและเปรูต่างมีความหลากหลายทางชีวภาพและเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรอาหารรายใหญ่ของโลก โดยนายกรัฐมนตรีมองว่า โมเดลเศรษฐกิจ BCG สอดคล้องกับนโยบายของเปรูที่ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันในสาขาเศรษฐกิจหมุนเวียน พลังงานชีวภาพ และการเกษตรยั่งยืน ทั้งเกษตรอินทรีย์และคาร์บอนต่ำ
นายอนุชากล่าวอีกว่า ด้านเอกอัครราชทูตเปรูฯ ชื่นชมโมเดลเศรษฐกิจ BCG ว่าสอดคล้องกับนโยบายของเปรู และมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โอกาสนี้ เปรูเชิญชวนภาคธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ถนน โรงพยาบาล และภาคบริการต่าง ๆ ซึ่งไทยมีศักยภาพ และสามารถเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเปรูได้ นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตเปรูฯ ยังเห็นพ้องกับไทยในการสานต่อการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-เปรู ฉบับสมบูรณ์ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญที่นำไปสู่การขยายมูลค่าการค้าระหว่างกัน และภาคเอกชนทั้งสองประเทศจะได้ใช้ประโยชน์จาก FTA ไทย-เปรู อย่างเต็มที่ เอื้อต่อการขยายตัวของการส่งออก และขับเคลื่อนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ความร่วมมือทางด้านการท่องเที่ยวและการพัฒนา นายกรัฐมนตรียินดีที่คณะผู้แทนจากเปรูได้เดินทางมาไทยเพื่อร่วมโครงการด้านการท่องเที่ยว เชิงศิลปะด้านอาหารเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นตัวอย่างที่สำคัญของการส่งเสริมความร่วมมือในสาขาใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันต่อทั้งสองฝ่าย พร้อมเน้นย้ำความพร้อมของไทยในการส่งเสริมความร่วมมือกับเปรู ในสาขาที่อยู่ในความสนใจร่วมกัน ซึ่งเอกอัครราชทูตเปรูฯ ยินดีอย่างยิ่งที่จะแสวงหาความร่วมมือกับไทยซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวต่อไปว่า ความร่วมมือในกรอบพหุภาคี นายกรัฐมนตรีพร้อมส่งเสริมความร่วมมือในกรอบพหุภาคีกับเปรู รวมถึงความร่วมมือในกรอบพันธมิตรแปซิฟิก (Pacific Alliance) ซึ่งทราบว่า เปรูได้เสนอโครงการความร่วมมือด้านดิน และการจัดการปุ๋ยในกรอบพันธมิตรแปซิฟิก ไทยพร้อมพิจารณาความเป็นไปได้ในการดำเนินความร่วมมือดังกล่าวกับเปรู ด้านเอกอัครราชทูตเปรูฯ ยินดีแสวงหาความร่วมมือกับไทยเพิ่มเติมในเรื่องการเกษตร การทำฟาร์ม และปุ๋ย โดยมองว่าเป็นสาขาที่ฝ่ายไทยมีความเชี่ยวชาญ
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือในกรอบเอเปค เอกอัครราชทูตเปรูฯ กล่าวว่า นายโฮเซ เปโดร กัสติโย เตร์โรเนส ประธานาธิบดีเปรู ยืนยันการเข้าร่วมการประชุมที่กรุงเทพฯ ด้วยตนเอง ซึ่งจะเป็นโอกาสให้หารือถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ครอบคลุมและยั่งยืน นายกรัฐมนตรีพร้อมต้อนรับประธานาธิบดีเปรูในการเข้าร่วมการประชุมฯ พร้อมกล่าวขอบคุณเปรูที่ให้การสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย โดยหัวข้อหลักและประเด็นในการประชุมครั้งนี้สอดคล้องกับประเด็นที่เปรูให้ความสนใจ โดยเฉพาะการสนับสนุนการค้าพหุภาคีและการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ยั่งยืน ครอบคลุม และพร้อมรับมือกับภัยคุกคามในอนาคต โดยการประชุมที่ไทยจะเป็นผลต่อเนื่องที่สำคัญ ปูทางไปสู่การเป็นเจ้าภาพเอเปคของเปรูในปี ค.ศ. 2024 ซึ่งฝ่ายไทยพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เทพไท'แฉ 2 เป้าหมายที่วิษณุให้สัมภาษณ์ เรื่องพ่อนายกฯ เข้าคุก
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช
ตามนัด! 9 ธ.ค. ‘สนธิ-ปานเทพ’ บุกยื่นหนังสือกล่าวหารัฐบาล ปมMOU44
พรุ่งนี้ 9 ธ.ค.67 9โมงครึ่ง คุณสนธิเเละ อ.ปานเทพ จะไปยื่นหนังสือกล่าวหารัฐบาล ปม MOU 44
นายกฯแพทองธาร เปิดทำเนียบฯต้อนรับคณะนักธุรกิจจากอเมริกา กว่า 40 บริษัท
ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้พบปะหารือกับคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา
นายกฯ พร้อมคู่สมรส ซักซ้อมพิธีต้อนรับนายกฯสิงคโปร์เยือนไทย
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อม นายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เดินมาที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อซักซ้อมและดูสถานที่ในจุดที่จะเดินตรวจแถ
'ปลัดยุพา' เริ่มลุยงาน สปน. เร่งสรรหา 'เลขาฯ สคบ.' จบใน 1 เดือน
'ปลัดยุพา’ เข้าทำเนียบฯ วันแรก สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยันพร้อมลุยงาน สปน. แก้ปัญหาประชาชน คาด 1 เดือน สรรหา ‘เลขาฯ สคบ.’ คนใหม่ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
นายกฯอิ๊งค์ลั่นประเทศไทยต้องยืนหนึ่งบนเวทีโลก
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า “ก่อนการเดินทางกลับประเทศไทยช่วงเวลา 18 นาฬิกาของวันนี้ (วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน) ตามเวลาเปรู ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 27 ชั่วโมง โดยจะถึงประเทศไทยในวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน ประมาณ 11 นาฬิกา ตามเวลาในประเทศไทย นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สรุปภาพรวมภารกิจ การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ดังนี้