ต่ำช้าที่สุด! อดีตรองอธิการมธ. ยันเด็กสามนิ้ว 'อบจ.จุฬาฯ' จงใจเหยียบย่ำพระเกียรติองค์พระมหากษัตริย์

นี่ไม่ใช่เป็นแค่การเห็นต่าง แต่เป็นการหมิ่นแคลน เย้ยหยัน เหยียบย่ำพระเกียรติขององค์พระมหากษัตริย์ที่คนไทยให้ความเคารพเทิดทูนมากที่สุดพระองค์หนึ่งในราชวงศ์จักรี กระทำสิ่งที่ตัวเองสะใจโดยไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ของประเทศเลยแม้แต่น้อย ถือเป็นการกระทำที่ต่ำช้าจนถึงที่สุด

18 ต.ค.2565- รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Harirak Sutabutr ระบุว่าที่อบจ หรือองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ลงใน face book ใน page ของ อบจ เองในวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า นี่ไม่ใช่เป็นแค่การเห็นต่าง แต่เป็นการหมิ่นแคลน เย้ยหยัน เหยียบย่ำพระเกียรติขององค์พระมหากษัตริย์ที่คนไทยให้ความเคารพเทิดทูนมากที่สุดพระองค์หนึ่งในราชวงศ์จักรี กระทำสิ่งที่ตัวเองสะใจโดยไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ของประเทศเลยแม้แต่น้อย ถือเป็นการกระทำที่ต่ำช้าจนถึงที่สุด

จงใจไม่โพสต์พระบรมฉายาลักษณ์และข้อความสดุดีพระองค์ยังไม่เป็นไร แต่นี่โพสต์ภาพโจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวชาวฮ่องกง background ของภาพจงใจทำให้ดูเหมือนเป็น background ของพระบรมฉายาลักษณ์ แต่งกลอนอวยพรนาย หว่อง ข้อความในบทกลอนยังไปแช่งประธานาธิปดีสี จิ้น ผิง ให้มอดม้วยเป็นผุยผง โดยแทนที่จะใช้ชื่อ สี จิ้นผิง ก็เลี่ยงไปใช้คำว่า “หมีพูห์” ลงท้ายบทกลอนด้วยข้อความว่า “ทรงพระเจริญ” ใต้ภาพมีช้อความว่า “ฮ่องกงเป็นประเทศ”

นี่ไม่ใช่เป็นเสรีภาพที่ทำได้อย่างที่อ้างกัน การใช้เสรีภาพต้องไม่เป็นการไปละเมิด เหยียบย่ำผู้อื่น กรณีนี้จัดได้ว่าอาจเป็นการกระทำที่เป็นความผิด 2 ประการ

ที่แน่ๆคือเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์อย่างชัดแจ้ง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

อีกประการคือ เป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน สาปแช่งประมุขของจีน อันเป็นการกระทบความมั่นคงของประเทศไทย

สโมสรนิสิตจุฬาฯในสมัยอ.ธีรยุทธ บุญมี เขามีแต่รณรงค์ให้สหรัฐอเมริกาถอนฐานทัพออกจากประเทศไทย รณรงค์ต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น แต่อบจ ในยุคนี้กลับไม่แตะต้องสหรัฐอเมริกา แต่เป็นปฏิปักษ์กับจีน

ท่านผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ท่านต้องรู้สึกเดือดร้อนและอับอายที่องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่พระบามสมเด็จพระพุธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงก่อตั้ง ไปกระทำการเช่นนี้ และคงไม่อาจนิ่งเฉยแล้วปล่อยผ่านไป คงต้องลงมาจัดการอย่างใดอย่างหนึ่งกับนายก และกรรมการ องค์การบริหารสโมสรนิสิต เพราะเชื่อว่าท่านผู้บริหารคงไม่ได้เห็นดีเห็นงามไปกับการกระทำอันน่าอับอายสำหรับชาวจุฬาครั้งนี้

เชื่อว่านิสิตเก่าของจุฬาที่มีเป็นแสนเป็นล้าน กำลังเฝ้าติดตามอยู่ว่ามหาวิทยาลัยจะมีการดำเนินการอย่างไร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นักวิชาการ' วิเคราะห์ผลการเลือกสว.จะเป็นผลดีต่อประเทศชาติ มากกว่าเป็นผลเสีย

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

ปูดวาระซ่อนเร้น! เหตุดึงดัน 'แจกเงินดิจิทัล'

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ได้คุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินคนหนึ่ง ซึ่งได้เคยดำเนินการออกหุ้นกู้ให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่

อดีตรองอธิการบดี มธ. เชื่อศาล รธน.วินิจฉัยคดี ‘นายกฯ’ เป็นคุณต่อประเทศแน่นอน

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่ละท่าน มีความรู้ ผ่านการทำงานใหญ่มามากมาย มีความเป็นอิสระ ทั้งยังมีความเที่ยงธรรม