15 ต.ค.2565 - นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ และคณะ ไปร่วมงานรวมพลังประชาธิปัตย์ ชุมพร ที่เพื่อนใจรีสอร์ต จ.ชุมพร เพื่อเปิดตัวผู้สมัครชุมพร ประชาธิปัตย์ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายอิสรพงษ์ มากอำไพ ส.ส. 1 สมัยเขต 2 นายสราวุธ อ่อนละมัย ส.ส.ชุมพร 3 สมัย และเขต 3 นายมีศักดิ์ ภักดีคง” อดีตรองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอดีตอธิบดีกรมประมง
นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ว่ามีความมั่นใจจากผู้สมัครของพรรคทั้ง 3 เขต เป็นผู้มีศักยภาพสูงทุกคน เราสามารถคัมแบ็คแน่นอน ในส่วนของจังหวัดชุมพร
เมื่อถามว่า ในเขตเลือกตั้งที่ 3 นั้นเดิม มีอดีต ส.ส. ปชป. ที่ย้ายไปสนับสนุนพรรคอื่น จะทำให้เป็นการแย่งฐานคะแนนเดิมหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประชาธิปัตย์ก็มีฐานของประชาธิปัตย์ บวกกับผู้สมัครหน้าใหม่ที่มีฐานส่วนตัว มีฐานครอบครัว ญาติมิตรเพื่อนฝูงในเขต 3 จำนวนมากเช่นกัน ดังนั้นเราก็ต้องมั่นใจว่าเราสู้ได้ ส่วนคู่ต่อสู้นั้นเป็นเรื่องปกติที่ต้องแข่งกัน ไม่ว่าเขตไหนก็ต้องมีหลายพรรคการเมืองแข่ง ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. ปัจจุบัน หรือเป็นอดีต ส.ส. หรือผู้สมัคร ซึ่งเหมือนกับทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้
“ชุมพร คงไม่มีเขตไหนลงสมัคร 2 คน ก็คงมี 3-9 คน ธรรมดาทุกครั้งอย่างนี้ แต่เรามั่นใจว่าเที่ยวนี้เราพร้อมมากสำหรับ 3 เขตของชุมพร” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ถามต่อว่าในเขตเลือกตั้งที่ 3 เป็นพื้นที่ทำประมงเป็นส่วนใหญ่ พรรคประชาธิปัตย์จะชูนโยบายเด่นๆ เพื่อเพิ่มคะแนนให้ผู้สมัครอย่างไรบ้างหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ผู้สมัครเขต 3 ของพรรค เป็นอดีตอธิบดีกรมประมง ทราบดีทั้งหมดเพราะเคยทำงานร่วมกับตนมา เพียงแต่เราไม่สามารถผลักดันทั้ง 13 ข้อ จนเป็นที่พอใจของชาวประมงก่อนหน้านี้ได้ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงประธานคณะกรรมการประมงแห่งชาติ จากตนเป็นรองนายกฯ ท่านอื่น แต่นโยบายนี้เรายังเก็บไว้ และได้มอบหมายให้ว่าที่ผู้สมัครเขต 3 ไปแล้ว เนื่องจากมีประสบการณ์ตรงกับเรื่องนี้ ดังนั้นเที่ยวหน้าจะต้องมาช่วยสรุปทำนโยบายเพื่อขับเคลื่อนประมงของประเทศให้ฟื้นกลับมาคู่กันต่อไป ไม่ว่าจะเป็นประมงพื้นบ้าน หรือประมงพาณิชย์ เพราะประมงนั้นสร้างรายได้ให้กับประเทศ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศเป็นแสนล้าน วันนี้หดหายไปจนเกือบจะเรียกว่าหมด เป็นเรื่องน่าเสียดายมาก ไม่เช่นนั้นประมงจะเป็นตัวขับเคลื่อนจีดีพีสำคัญของประเทศอีกตัวหนึ่ง แต่อนาคตเราทำแน่ ถ้าเรามีโอกาสเป็นแกนยำตั้งรัฐบาล และจะเป็นนโยบายหนึ่งในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์จะมีนโยบายด้านเศรษฐกิจ ปากท้อง นอกเหนือจากประกันรายได้อย่างไรบ้าง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประกันรายได้เป็นดีเอ็นเอของเราในการขับเคลื่อนต่อไป เพียงแต่จะไม่หยุดอยู่ที่ประกันรายได้เกษตรกร แต่ต้องขยายวงออกไปถึงกลุ่มอื่นๆ ที่จะทำให้กลุ่มเปราะบาง และประชาชนที่เป็นกลุ่มสำคัญๆ ของประเทศได้มีหลักประกันเรื่องรายได้ หากเราเป็นแกนนำรัฐบาล เราจะได้ช่วยสร้างเงินเพื่อเป็นหลักประกันให้กับกลุ่มเหล่านี้ นอกจากนั้นในเรื่องภาพรวม ตนมีอยู่ทั้งหมดแล้ว แต่จะพูดทั้งหมดก็ยังไม่ใช่เวลา แต่อย่างน้อยให้เห็นภาพรวมว่า เศรษฐกิจของประเทศนั้น จะต้องยืนอยู่ทั้งเรื่องการส่งออก เพื่อส่งผลต่อผู้ใช้แรงงานให้มีงานทำ และเกษตรกรสามารถขายพืชเกษตรได้ราคาดี เพราะมีตลาดส่งออก สิ่งนี้ถือเป็นผลงานเชิงประจักษ์แล้ว หากพูดเรื่องส่งออก ก็เชื่อว่าทุกคนมั่นใจ “จุรินทร์ทำได้” และยังมีเรื่องการท่องเที่ยวที่จะมาเป็นตัวร่วมเพื่อขับเคลื่อน จีดีพีของประเทศต่อไป เมื่อถึงเวลาแล้วจะเปิดแน่นอน ไม่มีปัญหา เข้าใจดีทุกอย่างว่าเราจะขับเคลื่อนประเทศ สร้างเงินให้ประเทศด้วยวิธีไหนอย่างไร
ถามถึงจำนวนส.ส.ภาคใต้ที่คาดหวังในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เราเคยประกาศไปแล้ว 35-40 ตนคิดว่าเป็นไปได้มาก 40 ที่นั่ง ซึ่งเราไม่ได้พูดจากความฝัน แต่เราพูดจากฐานความเป็นจริง ส่วนประเด็นที่บอกว่า ทุกพรรคการเมืองมารุมอยู่ที่ภาคใต้ ทุกพรรคก็เป็นอย่างนี้ ไม่เคยมีครั้งไหนที่พรรคการเมืองแต่ละพรรคไม่มะรุมมะตุ้มอยู่ในภาคใต้ ขอให้ไปย้อนดูแต่ละเขต มีตั้งแต่ 4 คน 5 คน 10 คน 12 คน ก็มี ที่ผ่านมาประชาธิปัตย์จะเป็นตัวยืนทุกครั้ง และมีพรรคการเมืองอื่นลงมาเป็นคู่แข่งขัน ซึ่งเราก็ยืนหยัดมาได้ถึงวันนี้ แม้ว่าแต่ละช่วงจะได้มากบ้าง น้อยบ้าง แต่เราก็ยืนหยัดมาได้ ซึ่งเที่ยวหน้า ตนก็คิดว่าไม่ได้มีปรากฏการณ์ที่แปลกอะไรขึ้นมาในแง่ที่จะต้องมีหลายพรรคลงไปแข่ง
เมื่อถามว่ากระแสข่าวจะมีสมาชิกพรรคย้ายเข้าและย้ายออก ขณะนี้นิ่งแล้วหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นิ่ง แต่ก็ธรรมดา เพราะตนก็เคยพูดไว้แล้วว่า ทุกพรรคการเมืองพอใกล้โหมดเลือกตั้งจะมีเข้า มีออก ไม่มียกเว้น ไม่ใช่มีแต่ประชาธิปัตย์จะเข้าจะออก แต่มีทุกพรรควันนี้ก็ยังเห็นอยู่ทุกวันว่ามีเข้า มีออก
“มันเป็นเรื่องธรรมดา บางคนพอพรรคตัดสินใจเลือก นาย ก. นาย ข. ก็ต้องย้ายพรรคถ้าจะลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะพรรคส่งเขตเดียว 2 คนไม่ได้ ก็เป็นที่มาที่อาจจะต้องย้ายพรรค นี่ผมพูดในภาพรวมนะ บางท่านต้องการเงื่อนไข แต่พรรคนั้นๆ ให้ไม่ได้ ก็เปลี่ยนพรรค ซึ่งก็สุดแล้วแต่เหตุผลของแต่ละคน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังกล่าวด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์จะมีคนใหม่ๆ เข้ามาหลายคน เมื่อถึงเวลาก็จะทยอยเปิดตัว และที่เปิดตัวไปแล้วก็หลายคน ไม่ได้มีแต่นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และน.ส.วทันยา บุนนาค เท่านั้น ยังมีอีกหลายคนที่เป็นคนรุ่นใหม่ เช่นภาคใต้ที่เปิดตัวไปแล้วที่จ.สุราษฎร์ธานี ก็จบจากประเทศอังกฤษ แบะอีกไม่นานจะมีในจังหวัดอื่นๆ อีก ซึ่งจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป แม้แต่ในกรุงเทพฯ ก็จะมีผู้สมัคร ส.ส. รุ่นใหม่ที่จะเดินเข้าพรรคอีกหลายคน และมีผู้สมัครหน้าใหม่ที่มีศักยภาพ มีโอกาสได้รับเลือกเป็นส.ส.แน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'วรชัย' พูดเต็มปาก! 'ชวน' ไม่ควรว่าทักษิณ ถ้ายังกวาดบ้านตัวเองไม่สะอาด
นายวรชัย เหมะ อดีตสส.สมุทรปราการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำนองว่า ตัวเองเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่ไม่โกง
ดิเรกฤทธิ์ : ปัญหาประชาธิปไตยสุจริตวันนี้
ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่าปัญหาประชาธิปไตยสุจริตวันนี้(11 มกรา
แม่หมอ..มองทะลุ ปี 68 เปลี่ยนนายกฯ ..ยุบสภา-ลาออก!!.. I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568
'อิ๊งค์' ยัน ทักษิณ-เพื่อไทย หาเสียงเลือกตั้งอบจ. เป็นไปตามกฎหมาย
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในฐานะหัวหน้
หนาว! คำร้องยุบพรรคเพื่อไทย อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริง
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงคำร้องยุบ 6 พรรคการเมืองว่
'สุริยะ' ชี้ 'วิโรจน์' พูดให้ดูดี ไม่สนนามสกุลเดียวกับ 'ธนาธร' ก็จะตรวจสอบ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม กล่าวกรณีฝ่ายค้านออกมาระบุว่าเตรียมจองคิวอภิปรายไม่ไว้วางใจกระทรวงคมนาคมว่า เป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะตรวจสอบรัฐบาลถือว่าเป็นเรื่องปกติ