'สมคิด' แจงยิบกระแส 'พรรคตระกูลสร้าง' ผนึกรวมสู้ศึกเลือกตั้ง

12 ต.ค.2565 - ที่จังหวัดพัทลุง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวรวมพรรคสร้างอนาคตไทยกับพรรคไทยสร้างไทย ของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ว่า ใครจะรวมกับใครเป็นเรื่องของเขา แต่ตอนนี้พรรคสร้างอนาคตไทยยังไม่ได้คิดรวมกับใคร และถ้าจะรวมกับใครในอนาคตต้องดูว่าความคิดเหมือนกันหรือไม่ และอุดมการณ์ตรงกันหรือไม่ เรื่องนโยบายไปด้วยกันได้หรือไม่ ถ้ารวมกันแล้วนโยบายเหมือนกัน รวมกันแล้วดี รวมแล้วดีกว่าไม่ดีก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของอนาคต

เมื่อถามว่า “2 ส.” คือนายสมคิด และคุณหญิงสุดารัตน์ สามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า “ส.” สมคิด เป็นแค่ประธานพรรค ต้องถาม นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย กับคุณหญิงสุดารัตน์ ซึ่งก็พูดจาภาษาเดียวกัน แต่จะรวมกันหรือไม่ ไม่แน่ใจต้องแล้วแต่พรรคแต่ไม่ว่าอย่างไรต้องยึดนโยบายพรรคที่มีอยู่แล้ว ถ้าเคลียร์กันได้ก็ไปพูดคุยกัน เรื่องอื่นไม่เกี่ยว

ถามย้ำว่าที่ระบุว่าพูดจาภาษาเดียวกัน แสดงว่าก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกันบ้างแล้ว นายสมคิดกล่าวว่า “ไม่ ผมยังไม่ได้คุย การพูดจาภาษาเดียวกันคือดูนโยบายของพรรคสร้างอนาคตไทยว่าจะเตรียมการเพื่ออนาคตอย่างไร จะแก้ไขปัญหาระยะสั้น ถ้าคิดเหมือนกันมีแนวคิดทำงานคล้ายกันก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าไม่เหมือนกันเลยแล้วมารวมกันเพื่อให้มีส.ส.มากขึ้นก็ไม่รู้จะรวมไปเพื่ออะไร”

ผู้สื่อข่าวถามต่อ ว่าถ้าหากมาร่วมมือทำงานจะทำให้พรรคสร้างอนาคตไทยและพรรคแนวร่วมแข็งแกร่งมากขึ้นหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า อย่าไปคิดว่ารวมแล้วจะมีส.ส.มากขึ้นเพื่อแบ่งรัฐมนตรี ถ้านักการเมืองคิดอย่างนั้นอย่าทำการเมืองดีกว่า เพราะจะทำให้บ้านเมืองจะล้มอยู่แล้ว แต่จะเอาเงินไปซื้อม้าเข้าคอก คอกไหนมีมากกว่าก็ได้เป็นรัฐมนตรีมากกว่าก็เห็นกันมาแล้วว่าเป็นกันอย่างไร ดังนั้นการเมืองที่ดีคือแต่ละพรรคนำเสนอนโยบายให้ประชาชน เมื่อแข่งกันเรื่องนโยบายประชาชนก็เข้าใจจะแพ้หรือชนะให้ไปอยู่ที่ตรงนั้นดีกว่า ถ้ามาบอกว่าพรรคนี้รวมกับพรรคนี้แล้วจะได้ 20 เป็น40 มีแรงต่อรองมากขึ้น ไม่ใช่พรรคสร้างอนาคตไทย

เมื่อถามว่ามีการประเมินกันว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าแบ่งเป็นขั้ว พรรคสร้างอนาคตไทยจะอยู่ขั้วไหน และพรรคไหนที่เป็นคู่แข่งหรือเป็นพรรคพันธมิตร นายสมคิด กล่าวว่า สาเหตุที่มาช่วยพรรคสร้างอนาคตไทยเพราะว่าการแบ่งขั้วคือตัวทำลายประเทศไทย แบ่งขั้วมาสิบกว่าปีถามว่าได้เห็นอะไรดีขึ้นมาบ้าง มีแต่คนแบ่งขั้วที่ได้ประโยชน์และมีตัวตน แต่ประชาชนเป็นอย่างไร ดังนั้นถ้าต้องการไปสู่อีกยุคสมัยหนึ่งที่ทำให้บ้านเมืองดีขึ้นควรต้องก้าวข้ามเรื่องเหล่านี้ อย่าเห็นว่าขั้วใดขั้วหนึ่งเป็นศัตรู หรือว่าจะทำการเมืองให้บ้านเมืองเจริญได้อย่างไร ถ้ามัวแต่ไปปั่นให้ประชาชนมีแต่ความโกรธแค้นไม่ลืมอดีตไม่ใช่การเมืองที่สร้างสรรค์ แต่เป็นการเมืองที่ทำลายประเทศไทย ให้ดูประเทศเวียดนามเวลานี้ที่เศรษฐกิจไตรมาส 3 โต 13 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่เห็นแบ่งขั้ว ถ้ามัวแต่แบ่งขั้วก็เหลือแค่เปอร์เซ็นต์กว่า

ในขณะที่เศรษฐกิจเวียดนามแค่ 2 ใน 3 ของเราแต่ภายในไม่ถึง 5 ปีเขาเท่าเราและแทบจะแซงเราแล้ว อุตสาหกรรมที่ดีไปที่เวียดนามหมด จึงถึงเวลาที่ต้องเลิกสิ่งที่คิดว่าฝ่ายโน้นถูกฝ่ายนี้ผิด คนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลต้องไม่ใช่ตัวที่สร้างความขัดแย้งเสียเอง แต่ต้องสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น ถ้าตัวเองเป็นต้นเหตุความขัดแย้งไม่มีประโยชน์ เชื่อว่าทุกคนรู้และเข้าใจ

“ผมคิดว่าอนาคตข้างหน้าเป็นยุคของการสร้างความปรองดองและต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่อย่างนั้นจะสายเกินไปสำหรับทุกคน”นายสมคิดกล่าว

เมื่อถามว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยังอยู่ต่อ นายสมคิด กล่าวว่า การจะอยู่ต่อหรือไม่ ไม่ใช่ตนบอก อยู่ที่ประชาชนต้องคิดและตัดสินใจ และอยู่ที่ตัวนายกฯเองด้วย เชื่อว่านายกฯรู้ทุกอย่าง ก็ต้องใช้เวลาคิดไตร่ตรองว่าสถานการณ์ข้างหน้าเป็นอย่างไร ท่านเหมาะสมเพียงไร ถ้าคิดว่าเหมาะสมกับสถานการณ์ข้างหน้าก็ต้องสู้ต่อ ไม่มีใครว่า แต่แพ้ชนะเป็นเรื่องของอนาคต

เมื่อถามว่า ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลพรรคสร้างอนาคตไทยก็พร้อมจะร่วมงานด้วยหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ไม่เชิงอย่างนั้น ถ้านโยบายไม่ดีและยังมีการแบ่งขั้วแบ่งข้าง พรรคสร้างอนาคตไทยจะไปอยู่ขั้วอย่างนั้นทำไม ไร้สาระ

ถามว่าพรรคสร้างอนาคตไทยตั้งเป้าจะได้ส.ส.กี่ที่นั่ง หลังจากลงพื้นที่มาแล้ว 3 ครั้ง นายสมคิดกล่าวว่า ยังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น และทุกครั้งที่ตนมาพูดคิดว่าประชาชนต้องได้ประโยชน์ ชาวบ้านต้องรู้ว่าอะไรเป็นอะไร สิ่งที่ตนพูดต้องการให้นักการเมืองท้องถิ่นได้ฟัง รัฐบาลฟัง อะไรที่เป็นประโยชน์ก็เอาไปใช้ อะไรที่คิดว่าไม่ได้ประโยชน์ก็ไม่ต้องใช้

เมื่อถามว่าประเมินว่าจะได้ถึง 25 ที่นั่งหรือไม่ ประะานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า จะไปรู้ได้อย่างไร เมื่อถามว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์จะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าจะแลนด์สไลด์หรือไม่ ทำใจให้ไม่มีขั้วและดูตัวนโยบายของแต่ละพรรคว่าทำอย่างไร ปัญหาก็จะไม่มี ต้องอย่ามองว่ามีขั้ว ไม่ใช่ประเภทไม่เลือกเขาเรามาแน่ หรือไม่เลือกเราเขามาแน่ ควรเลิกได้แล้ว ให้ทิ้งขยะไปได้เลยเพราะสิ่งนี้แหละประเทศชาติจะลงท้องร่อง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง

คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ

'แพทองธาร' โชว์วิชั่น การเมืองมีเสถียรภาพ ประเทศไทยจะดีขึ้น!

นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ไทยสงบ สันติ หวังรัฐบาลเปลี่ยน นายกฯเปลี่ยน แต่นโยบายเพื่อปชช.เดินหน้า บอกต่างชาติเจอคำถามแรกถามพ่อ-อาเป็นอย่างไร ย้ำการเมืองมั่นคง มีเสถียรภาพแน่นอน

ไทยในสายตาต่างชาติ (ตอนที่ 48: พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ?)

ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476

รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง

ปากไว! นายกฯ อบรม 'พ่อนายกฯ' รอที่ประชุมเคาะก่อนไปพูดบนเวทีแจกเงินหมื่น

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศัยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น มอง

พิราบขาว ตามจิกทักษิณ ยกปราศรัยหาเสียงที่อุดร หลักฐานมัดครอบงำเพื่อไทย

ที่สำนักคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 ยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อกกต.กรณีคำร้องยุบ 6 พรรคการเมือง