17 ก.ย.2565 - นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้
ถอดรหัสดวงดาวกับการตัดสินคดี 30 ก.ย.
ทั้งๆที่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญเขากำหนดตัดสินคดีในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ก็แค่อีก 10 กว่าวัน แต่คนก็อยากรู้กันว่านายกพลเอกประยุทธ์จะรอดหรือไม่รอด วิเคราะห์กันไปต่างๆนานา บ้างก็ว่าไม่รอด บ้างก็ว่ารอด ด้วยเสียงเท่านั้นเท่านี้ โดยมี 5 ต่อ 4 เสียง ที่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นเสียงตั้งต้น
ตั้งแต่ท่านหยุดปฏิบัติหน้าที่ ดูกระแสทั้งภายในและภายนอกสภามันก็เงียบๆสงบ ไม่มีอะไรเท่าไหร่ อาจจะเริ่มมีแรงปะทะระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันในโค้งสุดท้ายปลายสมัยประชุม
เอาล่ะ... ที่ผมเคยบอกว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดก็อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ด้วยอิทธิพลของดาวมฤตยูและราหูที่ทับดวงเมือง จะไปผ่อนคลายก็เม.ย.ปีหน้าโน่น
วันที่ 30 ก.ย.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินออกมาอย่างไร ไม่มีใครรู้ เป็นเรื่องคาดเดากันทั้งนั้น ศาลแต่ละคนเท่านั้นที่รู้ว่าตัวเองจะตัดสินอย่างไร และใครคิดอย่างไร ผมเองก็ไม่รู้จริงๆ ก็คาดเดาเหมือนที่คนอื่นคาดเดา แต่ขอเอาดวงดาวในวันที่ 30 ก.ย.มาวางและถอดรหัสให้ดูกันทีละดวงดีกว่า ในวันนั้นดาวพฤหัสเป็นวินาศกับลัคนาดวงเมือง ดาวอาทิตย์และดาวศุกร์เป็นอริกับดวงเมือง จันทร์เป็นมรณะกับดวงเมือง อังคารอยู่เรือนกดุมภะแต่ถูกดาวมฤตยูทับไว้...
ในพื้นของดวงดาวเหล่านั้นยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของมฤตยูและราหูทับดวงเมือง หมายความว่าความเปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอน ความพลิกผันกับผู้มีอำนาจพร้อมที่จะเกิดขึ้นได้เสมอ ดาวพฤหัสคือเลข 5 อยู่ในเรือนวินาศยังแรงอยู่ หมายถึงผู้มีอำนาจผู้ทรงอิทธิพลจะหมดฤทธิ์หมดเดชหมดอำนาจ เลข 5 จะเกี่ยวกับ 5 ต่อ4 ที่ผ่านมาหรือไม่..ไม่รู้ แต่ช่างเหมาะเหม็งกันเหลือเกิน ดาวอาทิตย์เป็นเรื่องยศถาบรรดาศักดิ์ ตำแหน่งหน้าที่ก็เป็นอริกับดวงเมือง อาทิตย์คือหมายเลข 1 ส่งพลังแห่งความเป็นอริแรงมากในวันนั้น เลข 1 จึงอาจจะมารวมกับเลข 5 เป็น 5 + 1 = 6 ก็เป็นไปได้
ดาวจันทร์อยู่ในเรือนมรณะ หมายถึงความมีโชคมีชัยและชัยชนะ อับแสง เดือนดับ ไม่สว่างไสว ยิ่งในวันนั้นดาวอังคารหมายถึงดาวทหารซึ่งเป็นดาวประจำตัวก็ถูกอับแสงด้วยมฤตยู ฤทธิ์เดชของดาวอังคารเลยหมดพลัง ขาดความขลังความศักดิ์สิทธิ์
เมื่อถอดรหัสดวงดาวแต่ละดวงในวันที่ 30 ก.ย.นี้แล้วจะเห็นได้ว่าผู้มีอำนาจที่มีบทบาทมีตำแหน่งหน้าที่ในบ้านเมืองจะสิ้นยศหมดตำแหน่ง บุญไม่มาวาสนาไม่ช่วย ที่ป่วยก็หนัก ที่รักก็หน่าย จากเลข5 ก็อาจจะมีเลข1 ดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นอริโคจรมาบรรจบพบกันกลายเป็น 5+1 เป็นพลังแห่งวินาศ+อริ มฤตยูและราหูครอบงำซ้ำเติม
ส่วนเลข 3 ดาวอังคารก็หมดฤทธิ์หมดเดช ดูแล้วผู้มีอำนาจตกอยู่ในภาวะหนักหนาสาหัสสากรรจ์... ทั้งหมดเป็นเรื่องของดวงดาวในวันนั้นจริงๆ
ส่วนศาลจะตัดสินว่าอย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องของดวงดาวก็เป็นเรื่องของดวงดาว ไม่เกี่ยวกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และผมก็ไม่รู้จริงๆว่าจะตัดสินออกมาอย่างไร แต่ตามดวงดาวที่ผมเห็นมันเป็นเช่นนั้น...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สส.เพื่อไทย ดี๊ด๊า ประเทศไทยมีระบบที่เป็นมาตรฐาน!
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้คงสบายใจขึ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับ
สาวกเพื่อไทย ยื่นศาลรธน.สอบ 'ธนพร' ละเมิดอำนาจศาล
ที่บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญ นายนิยม นพรัตน์ หรือเค สามถุยส์ และนายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร เดินทางมายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นหนังสือร้อง นายธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์
'ชูศักดิ์' เผย 'เพื่อไทย' ได้รับความเป็นธรรม ศาลรธน. ไม่รับคำร้องปมล้มล้างการปกครอง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายอิสระ ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย(พท.) ยุติการกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองจะผูกพันไปยังกรณีที่มีการยื่นคำร้องเดียว
'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง
จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
2 ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย รับคำร้อง 'ทักษิณ' สั่งรัฐบาลเอื้อประโยชน์ฮุนเซน น่าจะเกิดผลใช้สิทธิล้มล้างปกครองฯ
จากกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2567 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูก
'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.
หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ