
4 ส.ค.2565 - รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อาจารย์คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และอดีตประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) โพสต์เฟซบุ๊กมีรายละเอียดดังนี้
ศึกอำนาจยกแรก ประวิตรเหนือกว่าประยุทธ์อยู่เล็กน้อย
ระหว่างที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี การต่อสู้เพื่อช่วงชิงโอกาสและภาวะการนำทางการเมืองระหว่างฝายพลเอกประยุทธ์ และฝ่ายพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ดำเนินไปอย่างเข้มข้น
ทันทีที่รับหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร เปิดฉากรุกทางการเมืองอย่างฉับพลัน มาตรการล้างภาพลักษณ์เดิม สร้างภาพลักษณ์ใหม่ถูกปล่อยออกมาอย่างถี่ยิบ
ภาพแห่งความชราภาพ ความอ่อนล้าโรยแรงทางร่างกายที่เดินไปไหนต้องมีคนพยุงหายไป ขณะที่ ภาพของความกระฉับกระเฉง แข็งแรงเข้ามาแทนที่ คำคม “ใจบันดาลแรง” ถูกปล่อยออกมาถูกจังหวะ และสะท้อนว่า พลังแห่งความปรารถนาในการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีนั้นมีพลานุภาพอย่างมหาศาล จนทำให้สภาพร่างกายที่เคยดูย่ำแย่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
ภาพที่เคยตอบนักข่าวว่า “ไม่รู้” เมื่อครั้งเป็นรองนายกฯหายไป แทนที่ด้วยการตอบคำถามเป็นเรื่องเป็นราว และสื่อออกมาในเชิงบวกมากขึ้น
ภาพของแห่งการยื่นมือช่วยเหลือหน่วยงานท้องถิ่น ก่อนที่ถูกร้องขอก็มีให้เห็น ดังกรณีโทรศัพท์ไปยังผู้ว่ากรุงทพฯ ในเรื่องการช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม การทำงานแบบประสานเครือข่าย โดยไม่ถือตัวว่ามีตำแหน่งสูงกว่าเช่นนี้ เป็นกลยุทธ์ทางการเมืองที่ทำให้ได้ใจคนไม่น้อยทีเดียว
ยิ่งกว่านั้น แผนงานการลงพื้นที่เพื่อติดตามงานต่าง ๆ ในต่างจังหวัด ก็มีการจัดวางอย่างเป็นระบบ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการแก้ปัญหา และการเข้าถึงประชาชน และเมื่อลงพื้นที่แล้วก็สร้างเหตุการณ์และภาพประทับใจเชิงการละครที่สามารถเป็นข่าวได้ทั้งสัปดาห์
ในช่วงสัปดาห์แรกของการรักษาการนายกฯ การเปิดเกมรุกทางการเมืองอย่างรอบด้านของฝ่ายพลเอกประวิตร ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จไม่น้อยทีเดียว
ขณะที่พลเอกประยุทธ์ ตกเป็นฝ่ายตั้งรับ แต่ก็มีความพยายามตอบโต้กลับ ดังการเรียกนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯ และพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา เข้าหารือสถานการณ์ทางการเมือง พร้อมกับปล่อยภาพของการหารือสู่สาธารณะ อันเป็นสัญญาณว่ายังพร้อมที่จะสู้เพื่อรักษาตำแหน่งเอาไว้ เพื่อรักษาขวัญกำลังที่กำลังตกต่ำของผู้สนับสนุนตนเอง
ตามด้วยการลงไปตรวจงานของหน่วยสังกัดกลาโหม ที่จังหวัดอยุธยา ทว่าแทนที่จะได้คะแนน กลับเสียคะแนนไปไม่น้อย ด้วยวิธีการจัดการแบบทหารที่เน้นความปลอดภัย มากกว่าการพบปะเข้าถึงประชาชน
เท่าที่เห็นจากข่าวสารต่าง ๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พลเอกประวิตรดูเหมือนจะเหนือกว่าพลเอกประยุทธ์อยู่ไม่น้อยทั้งงานบริหารราชการ บริหารเครือข่าย และงานมวลชน
แต่ละครการชิงอำนาจการเมืองยังไม่จบ ประชาชนก็กันต่อไปว่า เมื่อฝ่ายพลเอกประยุทธ์ รู้สถานการณ์ที่เป็นรองของตนเองแล้ว และตั้งตัวได้แล้ว จะดำเนินการใช้กลยุทธ์ทางการเมืองอะไรบ้างในการโต้กลับและพลิกสถานการณ์คืนมา
แต่หากทำไม่ได้หนทางของความพ่ายแพ้ และการปิดฉากบทบาททางการเมืองอย่างเจ็บปวดก็อาจเกิดขึ้นได้ในไม่ช้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
10 นาที 'บิ๊กป้อม' ซัด 'ประเทศไม่ใช่เวทีมือสมัครเล่น' อึ้ง!อิ๊งค์ แจงแค่ 10 วินาที
“ประเทศชาติไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือ” บิ๊กป้อม เปิดฉากอภิปราย 10 นาที ซัด“แพทองธาร” ไร้ความสามารถทั้งเศรษฐกิจ-ความมั่นคง-จริยธรรม ถูกครอบงำโดยคนในครอบครัว ด้านนายกฯ ชี้แจงสั้นๆ 10 วินาที แค่ประโยคเดียวว่า “ไม่เป็นความจริง”
ไม่พลาด 'ทั่นก่อแก้ว' โชว์พิทักษ์นาย! ตีรวน-ขัดจังหวะ 'บิ๊กป้อม'
วุ่นตั้งแต่เริ่ม! ‘บิ๊กป้อม’ ลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ถูก ‘ก่อแก้ว พิกุลทอง’ สส.เพื่อไทย ขัดจังหวะทันที อ้างไม่เข้าสภาเป็นประจำ สมควรอภิปรายหรือไม่ ด้านประธานสภาตัดบท เดินหน้าประชุมต่อ
'พปชร.' ขู่เช็กบิลนายกฯหลังจบศึกซักฟอก ปมจริยธรรม-ที่ดินอัลไพน์
พปชร.ขู่งัดดาบสอง เช็คบิลนายกฯหลังจบศึกซักฟอก ยื่นป.ป.ช.-ศาลรธน. ปมที่ธรณีสงฆ์ สนามกอล์ฟอัลไพน์-ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม เตรียมขยี้ลึก ดันกาสิโนใครได้ประโยชน์ ลุงป้อมพูดแค่สิบนาที
'ทักษิณ' ชวนขาประจำซดไวน์เปลี่ยนสันดาน ฉะ 'ป้อม-ปฏิวัติ' ทำการเมืองยุ่ง
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ จะเป็นกองหน้าแล้วคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลัง ต้องระวังเกี่ยวกับขาประจำที่คอยร้
ชื่นมื่น ‘บิ๊กตู่’ คืนถิ่นกองทัพภาคที่ 1 ร่วมงานสถาปนา 115 ปี
‘บิ๊กตู่’ คืนถิ่น กองทัพภาคที่ 1 ร่วมงานสถาปนา 115 ปี ชื่นมื่นท่ามกลางวงล้อมทหาร ทักทายสื่อฯ 'สวัสดีปีใหม่' ขณะที่กองทัพภาคที่ 1 ย้ำความพร้อมทำหน้าที่ปกป้องสถาบันหลักของชาติ
จี้หยุดเล่นเกมดิสเครดิตลุงป้อม กูรูเล่าที่มามูลนิธิป่ารอยต่อ
จากกรณีนายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน อ้างว่าเจ้าหน้าที่รัฐในกระทรวงกลาโหม ส่งเรื่องร้องเรียนมาให้ตรวจสอบกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานมูลนิธิอนุรักษ์