ทั่วโลกเปิดโหมดประหยัดพลังงานสู้วิกฤตครั้งใหญ่ แล้วไทยพร้อมช่วยกันประหยัดพลังงานหรือยัง

วิกฤตราคาพลังงานที่ยังผันผวน ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยังไม่สามารถหาบทสรุป และความคุกรุ่นของสถานการณ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนที่พร้อมปะทุทุกเมื่อ ตลอดจนคลื่นความร้อนที่รุนแรงในทวียุโรปทำให้หลายประเทศประสบปัญหาขาดแคลนพลังงานอย่างหนักและต้องเผชิญกับราคาเชื้อเพลิงที่พุ่งทะยานขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยล่าสุดประเทศศรีลังกาจำเป็นต้องประกาศปรับขึ้นค่าไฟฟ้าในอัตรา 264% สำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าน้อยกว่า 90 กิโลวัตต์ต่อเดือน จากยูนิตละ 2.50 รูปีศรีลังกา (0.25 บาท) เป็นยูนิตละ 8 รูปีศรีลังกา (0.79 บาท) นับเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ในขณะที่เมียนมาประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันจนต้องจำกัดการซื้อน้ำมันรถจักรยานยนต์คันละ 1 ลิตร ส่วนรถยนต์จำกัดการซื้อคันละ 10,000 จั๊ต หรือประมาณ 4 ลิตร

เมื่อวิกฤตพลังงานยังไม่คลี่คลายในเวลาอันใกล้ หลายประเทศจึงต้องประกาศใช้แผนฉุกเฉินด้านพลังงาน พร้อมเดินหน้าเปิดโหมดประหยัดพลังงานอย่างเต็มที่ โดยหวังพึ่งพลังประชาชนเพื่อช่วยให้ประเทศอยู่รอดในวิกฤตพลังงานครั้งนี้

เยอรมนี – ฮังการีปิดไฟสถานที่สำคัญ จำกัดการใช้น้ำอุ่น

หลังจากประสบปัญหารัสเซียลดการส่งก๊าซธรรมชาติให้ยุโรป ทำให้ล่าสุดรัฐบาลเยอรมนีได้นำมาตรการประหยัดไฟมาใช้ในเมืองต่าง ๆ โดยเริ่มปิดไฟตามสถานที่สำคัญในเวลากลางคืน เช่น ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงเบอร์ลิน อนุสาวรีย์ ปิดน้ำพุ ห้ามใช้น้ำอุ่นในสระว่ายน้ำและโรงยิม และงดใช้เครื่องทำความร้อนภายในที่พักอาศัย เช่นเดียวกับประเทศฮังการีได้ออกมาประกาศภาวะฉุกเฉินทางพลังงาน พร้อมดำเนินมาตรการลดการใช้พลังงาน แนะนำให้ประชาชนปรับลดอุณหภูมิเครื่องทำความร้อน

เมือง Lòrrach ประเทศเยอรมนี ปิดน้ำพุในที่สาธารณะเพื่อลดการใช้พลังงาน

ออสเตรียประกาศปิดไฟป้ายโฆษณา

ห้างค้าปลีกสปาร์ในประเทศออสเตรียประกาศลดชั่วโมงการเปิดไฟป้ายโฆษณาบริเวณด้านหน้าของสาขาต่าง ๆ มากกว่า 1,500 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการใช้พลังงานถึงปีละกว่า 1,000 เมกะวัตต์-ชั่วโมง ส่วน Leclerc ห้างค้าปลีกอาหารรายใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศสอาจลดชั่วโมงการเปิดบริการตามสาขาต่าง ๆ และคาร์ฟูร์ กลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตข้ามชาติมีสำนักงานใหญ่ในประเทศฝรั่งเศสได้ลงนามร่วมกับบริษัทการไฟฟ้าแห่งฝรั่งเศส (RTE) ลดการใช้ไฟฟ้าตามสาขาต่าง ๆ ในช่วงที่มีความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าสูง

นายกฯ สเปนแนะเลิกผูกเนกไทช่วยประหยัดพลังงาน

นายเปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีของประเทศสเปน เรียกร้องให้รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ของรัฐ และพนักงานบริษัทเอกชนเลิกผูกเนกไทไปทำงานเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน รวมถึงการรณรงค์ให้บริษัทต่าง ๆ ปิดประตูเพื่อกันความร้อนจากอากาศด้านนอกเข้ามาภายในอาคาร ช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ

ไทยตั้งเป้าลดใช้พลังงานให้ได้ 20%

ประเทศไทยก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตราคาพลังงานแพง ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งปรับแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิงควบคู่กับการดำเนินมาตรการประหยัดอย่างเข้มข้น โดยตั้งเป้าให้หน่วยงานภาครัฐลดการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันลง 20% ซึ่งหน่วยงานภาครัฐต่างขานรับมาตรการลดใช้พลังงานอย่างเต็มที่ อาทิ ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้อยู่ที่ 26-27 องศาเซลเซียส และกำหนดเวลาปิดเครื่องปรับอากาศในช่วงพักกลางวันและก่อนเวลาเลิกงานอย่างน้อย 30 - 60 นาที ปิดลิฟต์บางตัวในช่วงที่มีการใช้งานน้อยและรณรงค์ขึ้น-ลงชั้นเดียวไม่ใช้ลิฟต์ให้หยุดเฉพาะ รณรงค์ให้พนักงานสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีและงดใส่สูท สนับสนุนการประชุมออนไลน์เพื่อลดการเดินทางและการใช้น้ำมัน

ปรับนิสัย-เลือกใช้ฉลากเบอร์ 5 ติดดาว

สำหรับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าก็สามารถช่วยประเทศด้วยการประหยัดพลังงานได้ง่าย ๆ เพียงปรับนิสัยการใช้ไฟฟ้าและเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและประหยัดไฟฟ้ายิ่งกว่าเดิมเมื่อเทียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่มีฉลากเบอร์ 5 ดังนี้

  • เครื่องปรับอากาศ ควรเลือกใช้เครื่องปรับอากาศที่มีฉลากเบอร์ 5 ติดดาว มีขนาดเหมาะสมกับขนาดห้อง ตั้งอุณหภูมิที่ 25-26 องศาเซลเซียส เพราะอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส จะช่วยลดค่าไฟฟ้าประมาณ 10% ปิดประตูและหน้าต่างให้สนิท และล้างแอร์อย่างน้อยทุก 6 เดือน
  • ตู้เย็น ควรเลือกใช้ตู้เย็นที่มีฉลากเบอร์ 5 ติดดาว ลดการเปิด-ปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้นานเกินความจำเป็น ไม่ใส่ของที่มีอุณหภูมิสูง ไม่ใส่ของแน่นเกินไป และควรวางตู้เย็นห่างจากผนังอย่างน้อย 15 เซนติเมตร
  • หลอดไฟ เลือกใช้หลอดไฟแอลอีดี (E27) ขนาด 7 วัตต์ แทนหลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ (CFL) ขนาด 13 วัตต์ และปิดสวิตซ์ทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน
  • พัดลม เลือกใช้พัดลมที่มีฉลากเบอร์ 5 ติดดาว มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน เปิดความแรงเบอร์ 1 ปิดและถอดปลั๊กทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน และหมั่นทำความสะอาดใบพัดอยู่เสมอ
  • เตารีด เลือกใช้เตารีดที่มีฉลากเบอร์ 5 ติดดาว รีดผ้าครั้งละมาก ๆ ไม่พรมน้ำมากเกินไป และถอดปลั๊กก่อนเสร็จสิ้นการรีดประมาณ 2 นาที เพราะความร้อนที่เหลืออยู่ในเตารีดไฟฟ้ายังสามารถรีดผ้าชนิดที่ไม่ต้องการความร้อนมาก
  • โทรทัศน์ เลือกใช้โทรทัศน์ที่มีฉลากเบอร์ 5 ติดดาว และถอดปลั๊กทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและลดใช้พลังงานของประชาชนง่าย ๆ นอกจากช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าแล้ว ยังเป็นพลังสำคัญของประเทศในการลดใช้พลังงานในภาพรวม ช่วยลดความเสี่ยงด้านพลังงานและลดการนำเข้าพลังงานราคาสูงเพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามวิกฤตพลังงานในครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

PEA คว้า 5 รางวัลนวัตกรรม จาก 3 ผลงาน บนเวทีนานาชาติ “Taiwan Innotech Expo 2024” (TIE 2024) ณ กรุงไทเป ไต้หวัน

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) คว้า 5 รางวัลนวัตกรรม จากเวทีนานาชาติ “Taiwan Innotech Expo 2024” (TIE 2024) ณ กรุงไทเป ไต้หวัน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 19 ตุลาคม 2567 มีผลงานนวัตกรรมเข้าร่วมการประกวดมากกว่า 1,000 ผลงาน จาก 20 ประเทศ โดย PEA ได้รับรางวัล ดังนี้

'อนุทิน' สั่งผู้ว่าฯกฟภ. ทำรายงานกรณีจนท.ตัดไฟ ทำหญิงป่วยหนัก เสียชีวิตคาบ้าน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดนครพนม ได้ตัดไฟฟ้าบ้านผู้ป่วยติดเตียงที่กำลังใช้

จนท.ตัดไฟ อ้างทำตามหน้าที่ รู้มีคนป่วยหนักต้องใช้ไฟ สุดท้ายหญิงวัย 68 เสียชีวิตคาเตียง

เกิดเรื่องสลดขึ้น เมื่อนางสาวนงลักษณ์ จันทร์ชนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านนาขาม (ผอ.รพ.สต.นาขาม) ต.วังยาง อ.วังยาง จ.นครพนม พร้อมญาติผู้เสียชีวิต ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ

3 การไฟฟ้า ชูแนวคิด Green Energy & Reliability ในงานประชุมคณะกรรมการปรับปรุงความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า ครั้งที่ 53

วันนี้ (2 กรกฎาคม 2567) MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมประชุมคณะกรรมการปรับปรุงความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า 3 การไฟฟ้า ครั้งที่ 53 ภายใต้แนวคิด Green Energy & Reliability โดยมี นายพิพัฒน์ ชลอำไพ รองผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ในฐานะประธาน นายณัฐวุฒิ ผลประเสริฐ

63 ปี การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค Digital Grid & Green Energy

ตลอดระยะเวลา 63 ปี การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) มุ่งมั่นให้บริการพลังงานไฟฟ้าและดำเนินธุรกิจอื่น ที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจทั้งด้านคุณภาพและบริการ ตอบสนองวิสัยทัศน์