พลังงานทุกชนิดเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับการขับเคลื่อนโลกไม่ว่าจะเป็นในด้านเศรษฐกิจ หรือการใช้ชีวิตของมนุษย์ เพราะพลังงานเป็นหนึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนา เนื่องจากเป็นวัตถุดิบและต้นทุนที่สำคัญ หากวันใดพลังงานหมดไปจากโลก ทุกอย่างอาจจะหยุดชะงักไม่สามารถดำเนินการต่อได้รวมถึงการใช้ชีวิตเช่นกัน ด้วยเหตุนี้การพัฒนาพลังงานและต่อยอดให้มนุษย์สามารถเข้าถึงได้อย่างแพร่หลายนั้นเป็นสิ่งสำคัญ
ปัจจุบันการเข้าถึงพลังงานมีวิธีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพลังงานจากธรรมชาติหรือพลังงานที่ถูกเปลี่ยนรูปแบบให้สามารถตอบโจทย์กับการใช้งานได้มากขึ้น เช่น ไฟฟ้า ก๊าซ หรือน้ำมัน ที่มีหลายตัวเลือกและหลายแนวทางให้สามารถนำมาใช้ได้ ขณะที่ประเทศไทยสามารถผลิตพลังงานได้เองส่วนหนึ่ง แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องนำเข้ามาด้วยเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการจึงทำให้ในบางพื้นที่การเข้าถึงพลังงานยังมีความขาดแคลน หรือในบางพื้นที่อาจจะมีการใช้อย่างฟุ่มเฟือยจนอาจเกิดผลกระทบตามมาได้ในอนาคต
แน่นอนว่าหากประชาชนในสังคมสามารถตระหนักรู้ และมีวิธีการปฏิบัติหรือใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า น่าจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับพื้นที่นั้นๆ หรือทั้งประเทศ ด้วยเหตุนี้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในระดับชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน จึงพัฒนา “หลักสูตรพลังงานเพื่อชุมชน” (Community Energy Management Program: CEMP) ขึ้นมา เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านสถานการณ์พลังงาน ระดับโลกและประเทศไทย รวมถึงเผยแพร่ให้เห็นเทคโนโลยีพลังงานทดแทนภายในชุมชน และการจัดการพลังงานภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
โดยการพัฒนาโครงงานพลังงานชุมชนที่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่ความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้านพลังงานอย่างยั่งยืน ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ สังเคราะห์ พัฒนาศักยภาพ และกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างผู้เข้าอบรม เพื่อนำไปใช้ประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ ต่อสังคมส่วนรวมและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน ซึ่งปี 2565 นี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นรุ่นที่ 8 แล้ว
หลักสูตรพลังงานเพื่อชุมชนมุ่งเน้นการส่งเสริม และพัฒนาขีดความสามารถให้ประชาชนจากภาคส่วนต่างๆ ทั้ง ผู้บริหารหน่วยงานท้องถิ่น ผู้นำทางความคิด ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้นำชุมชน นักพัฒนาอิสระ สื่อมวลชนท้องถิ่น และเยาวชน ผ่านกระบวนการเรียนการสอนภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ และการศึกษาดูงาน โดยการควบคุมดูแลจากกลุ่มนักวิชาการ ผู้ชำนาญการ ผู้บริหารและพนักงาน ปตท. เน้นที่จะส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องด้านพลังงาน สนับสนุนให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำองค์ความรู้ไปพัฒนาโครงงานพลังงานชุมชน ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการจัดการพลังงาน เชื่อมโยงเครือข่ายและถ่ายทอดความรู้ในระดับชุมชน
สำหรับในปีนี้มีกลุ่มเป้าหมาย หรือชุมชนที่เข้าร่วมจากโครงการ Smart Farming รวม 4 ภาค จำนวน 58 คน อาทิ ต.วังน้ำลัด อ.ไพสาลี จ.นครสวรรค์ ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร จ.นครพนม ต.หนองน้ำใส อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง อ.มาบตาพุด จ.ระยอง ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ต.ทุ่งสง .ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช และ ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
โดยเริ่มต้นการดำเนินโครงการโดยการประเมินความต้องการของชุมชน และวิเคราะห์ศักยภาพของพื้นที่ การออกแบบโครงงานพลังงาน โดยการเขียนโครงงานพลังงานชุมชน และเปิดให้มีการประเมินผลตอบแทนทางสังคม (SROI) โดยจะมีการนำเสนอและรับฟังข้อคิดเห็นจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญหรือเครือข่ายในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีการสอดแทรกความรู้และความเข้าใจด้านพลังงานทั้งสถานการณ์โลกและประเทศไทยเข้าไป รวมถึงความรู้เรื่องการลงทุนด้านพลังงาน และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนเพื่อจัดการการเกษตร
ซึ่งในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือว่าเป็นภาคทฤษฎี และการศึกษาดูงาน โดยได้มีการอธิบายโครงการ รวมถึงให้แต่ละกลุ่มออกแบบชุมชนเชิงนิเวศน์ ต่อมาในช่วงเดือนสิงหาคมนี้จะเป็นการติดตามโครงงานพลังงานชุมชน ซึ่งวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญจะลงพื้นที่ดำเนินโครงงานของผู้เข้าร่วมอบรม หลังจากนั้นจะมีการประเมินโครงการ และเตรียมให้แต่ละกลุ่มนำเสนอโครงการ และรับประกาศนียบัตร ในช่วงเดือนกันยายนนี้
เชื่อได้ว่าการเริ่มหลักสูตรพลังงานเพื่อชุมชนของ ปตท. จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมชุมชนให้เกิดการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน เพื่อให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ และเกิดการเชื่อมโยงเครือข่าย และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ งานด้านพลังงานชุมชนระหว่างกัน นอกจากนี้ผู้เข้าอบรมยังสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้นี้ ไปขอสนับสนุนทุน หรือพัฒนางานด้านพลังงานชุมชนภายในพื้นที่ได้อีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปตท.หนุนเยาวชนเจ้าแห่งสระ ชิงชนะเลิศกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย 2568
เปิดศักราชการแข่งขันใหม่อีกครั้งของปี 2568 ซึ่งเป็นพื้นที่ให้เยาวชนทั้งไทยและต่างชาติมาแสดงความสามารถ พร้อมชิงตำแหน่งเป็นเจ้าแห่งสระว่ายน้ำ
ปตท.สผ. จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ด้วยแนวทาง Sustainable Event ส่งเสริมความยั่งยืน
นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย (ที่ 7 จากซ้าย) ประธานกรรมการ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. พร้อมด้วยคณะกรรมการบริษัท
เมื่อโลกเดือดจนเกินทน คนจึงคิดย้ายโลก
เมื่อโลกเดือดจนเกินทน คนจึงคิดย้ายโลก แต่ทางออกของปัญหา อาจเป็นคำตอบที่ไม่คาดคิด และมาพร้อมกับใครบางคนที่ไม่คาดฝัน! เพราะความสมดุล ทำให้โลกน่าอยู่ วันนี้ ปตท. จึงต้องสร้างความมั่นคงทางพลังงานไปพร้อมกับการลดคาร์บอนในทุกขั้นตอน และสร้างสังคมไทยที่แข็งแรง ไปพร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เรามีความสุขที่ยั่งยืนไปด้วยกัน มาร่วมกันทำให้โลกน่าอยู่กันนะครับ
กลุ่ม ปตท. มั่นใจมีพลังงานเพียงพอใช้อย่างต่อเนื่อง ย้ำพันธกิจสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ
ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ยืนยันเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ กลุ่ม ปตท.
ปตท. ขอแสดงความห่วงใยทุกท่านจากสถานการณ์
ปตท. ขอแสดงความห่วงใยทุกท่านจากสถานการณ์