1 ส.ค. 2565 – เมื่อเวลา 09.00 น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เสด็จลง ณ พระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ ทรงเป็นประธานในพิธีมอบคัมภีร์เทศน์เฉลิมพระเกียรติ บทพระธรรมเทศนาเฉลิมพระธรรมบารมีใน “อุภินนมัตถจรกถา” เฉลิมพระธรรมบารมีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565
การนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ประทานสัมโมทนียกถา ความว่า “สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเป็นอเนกประการ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาราษฎรมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ทรงตั้งพระราชหฤทัยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลต่างๆ เป็นเนืองนิตย์ ทรงเปี่ยมด้วยน้ำพระราชหฤทัยใสสะอาด ประดุจมารดาของประชาชาติไทย เราทั้งหลายผู้เปรียบได้ดั่งลูกของพระองค์ จึงควรมุ่งมั่นประกอบกรณียกิจ สนองพระคุณของแม่ ด้วยความกตัญญูกตเวที เพราะตามธรรมดาของผู้เป็นมารดาบิดา เมื่อเห็นบุตรธิดาของตนประกอบคุณงามความดี มีความประพฤติเรียบร้อย มีศีลธรรมประจำใจ พึ่งพาตนเองได้ และวางตนเป็นที่พึ่งของผู้อื่นได้ บุพการีย่อมพลอยรู้สึกมุทิตายินดี ได้รับความอิ่มเอมใจไปด้วย ประหนึ่งได้บรรลุถึงฐานะแห่งความเป็นพระพรหม สมดังพระพุทธภาษิตที่ว่า “พฺรหมาติ มาตาปิตโร” ซึ่งแปลความว่า มารดาบิดา ท่านว่าเป็นพรหมของบุตร
การที่กระทรวงมหาดไทยอาราธนาให้เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ รจนาพระธรรมเทศนา “อุภินนมัตถจรกถา” โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม สำหรับเผยแผ่ไปยังวัดทั่วราชอาณาจักร เพื่อจักได้แสดงโปรดประชาชน ให้ประพฤติตนเป็นพลเมืองดี พากเพียรสรรค์สร้างประโยชน์ทุกสถาน ให้สมดั่งพระราชปณิธานของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ จึงเป็นที่น่าอนุโมทนายิ่ง และเป็นการบำเพ็ญธรรมทานครั้งสำคัญ อันจะเป็นเครื่องเฉลิมพระบารมี ให้ดำรงรุ่งเรืองสถาพร ถวายเป็นพระพรชัยมงคลพิเศษ และเป็นเหตุให้ทรงพระโสมนัสอนุโมทนา สมด้วยพระราชสถานะแม่แห่งชาติ ผู้ทรงปรารถนาประโยชน์สุขของลูกไทยอยู่เสมอ
ขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ช่วยนำกุศลเจตนารมณ์ของคณะสงฆ์ อันมีมหาเถรสมาคมเป็นประธาน ไปเผดียงอาราธนาให้พระภิกษุสามเณรในท้องที่ของท่านได้ทราบทั่วกัน เพื่อจักได้ช่วยกันทำหน้าที่อบรมขัดเกลาจิตใจประชาชน ให้หมั่นประพฤติตน ตามเนื้อความของพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้ และขออำนวยพรให้ทุกท่าน ประสบความเจริญสวัสดีด้วยจตุรพิธพรชัย สำเร็จสมความมุ่งมาดปรารถนาในกิจการงาน อันล้วนเป็นไปโดยชอบ และประกอบด้วยธรรม เพื่อความวัฒนาสถาพรของสถาบันชาติ สถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ จงทุกประการ เทอญ.”
โอกาสนี้ ทรงประทานพระอนุญาตให้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กราบทูลถวายรายงานและเบิกผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด เข้ารับประทานคัมภีร์เทศน์เฉลิมพระเกียรติ บทพระธรรมเทศนาเฉลิมพระธรรมบารมีใน “อุภินนมัตถจรกถา” เฉลิมพระธรรมบารมีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กราบทูลถวายรายงาน ความว่า “ด้วยในปีพุทธศักราช 2565 เป็นปีมหามงคล เนื่องด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 โดยตลอดระยะเวลากว่า 70 ปี ที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เคียงข้างพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่พสกนิกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริม อนุรักษ์ ฟื้นฟูงานหัตถศิลป์อันงดงามหลากหลายสาขา ส่งผลให้ราษฎรมีอาชีพ มีรายได้ และมีความมั่นคงในครอบครัว นำความผาสุกร่มเย็นไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ กระทรวงมหาดไทย จึงได้จัดทำคัมภีร์เทศน์เฉลิมพระเกียรติบทพระธรรมเทศนาเฉลิมพระธรรมบารมีใน “อุภินนมัตถจรกถา” เฉลิมพระธรรมบารมีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ รจนาบทพระธรรมเทศนาเฉลิมพระธรรมบารมีดังกล่าว และคณะกรรมการมหาเถรสมาคมได้ให้ความเห็นชอบแล้วในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 14/2565 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการจัดพิมพ์ จำนวน 84,000 กัณฑ์ เพื่อมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำไปถวายวัดทั่วราชอาณาจักร สำหรับนำไปแสดงพระธรรมเทศนา ให้พุทธศาสนิกชนได้สดับ และน้อมเกล้า ฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทุกวันธรรมสวนะหรือวันพระตลอดทั้งปี ”
อุภินนมัตถจรกถา (อุ-พิน-นะ-มัด-ถะ-จะ-ระ-กะ-ถา) เป็นบทพระธรรมเทศนาแสดงอรรถาธิบายพระบรมพุทโธวาทของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าด้วยความประพฤติให้สำเร็จประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คือประโยชน์เพื่อตนและเพื่อผู้อื่น ด้วยการอบรมเจริญคุณธรรมสำคัญ 3 ประการให้มีพร้อมขึ้นในตน ได้แก่ “ศีล” คือการรักษากายวาจาให้เป็นปรกติเรียบร้อย “ปัญญา” คือความฉลาดรอบรู้ หรือความรู้ชัดในเหตุและผล และ “สุตะ” คือการศึกษาเล่าเรียน เป็นผู้ได้ยินได้ฟังมาก
ทั้งนี้ ธรรมะทั้ง 3 ประการ คือ ศีล ปัญญา และสุตะ นี้ ต่างอาศัยกันและกันเป็นไปจึงจะส่งผลสมบูรณ์ ให้ได้บำเพ็ญประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นได้ทั้งสองสถาน ถ้าประชาชนสามารถเจริญธรรมะทั้ง 3 ประการให้พรั่งพร้อม ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งแก่ตนและแก่สังคมส่วนรวม ย่อมเป็นการฉลองพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้สมดังพระราชปณิธานแห่งธรรมราชินี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดข้อมูลใหม่ปม 'ปมกระโดง' พิรุธแผนที่การรถไฟฯรุกสิทธิชาวบ้าน
ปมพิพาทพื้นที่บริเวณเขากระโดง กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งเมื่อ “ทรงศักดิ์ ทองศรี” รมช.มหาดไทย (มท.2) และ “กรมที่ดิน” ลงพื้นรับฟังปัญหาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชน และหน่วยราชการ ในพื้นที่เขากระโดงใน จังหวัดบุรีรัมย์
"อนุทิน" ขอบคุณ "เพื่อนเลิฟ" เป็นสะพานบุญ ปฏิบัติภารกิจ "หัวใจติดปีก" หลังบินด่วนร้อยเอ็ด ส่งทีมแพทย์ผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ
หลังจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วย ทีมแพทย์ นำโดย นพ.พัชร อ่องจริต อาจารย์ศัลยแพทย์ หัวหน้าสาขาศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
สมเด็จสังฆราช ประทานไฟวธ. สวดมนต์ข้ามปี
"สมเด็จพระสังฆราช" ประทานไฟพระฤกษ์ สวดมนต์ข้ามปี
ครม. เคาะแต่งตั้ง '26 พ่อเมือง-7 ผู้ตรวจฯ' มท.จัดแถวสิงห์ล็อตใหญ่
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนครี เปิดเผย หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติอนุมัติแต่งตั้ง
'มท.2' ควงอธิบดีที่ดิน ลงพื้นที่เขากระโดง พิสูจน์ปมพิพาทกับ รฟท.
'มท.2' ควงอธิบดีกรมที่ดิน ลงพื้นที่เขากระโดง พิสูจน์ปมพิพาทที่ดิน รฟท. ชาวบ้าน 2 ตำบล โชว์เอกสารสิทธินส.3 หลักฐานยันอาศัยอยู่ตั้งแต่ปู่ย่าตายาย เรียกร้องความยุติธรรม
ครม.อนุมัติร่างประกาศ มท. กำหนดจำนวนคนต่างด้าวขอมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ.