ยกระดับวิถีคน วิถีป่าชุมชน ‘บ้านต้นตาล’ สร้างชุมชนเข้มแข็ง

ผืนป่าชุมชนกว่า 578 ไร่  ชาวบ้าน บ้านต้นตาล ต.จอเบาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส มีกฎกติการ่วมกันดูแลรักษา เอาชีวิตเข้ามาปกป้อง ไปดับไฟป่า ลาดตระเวนป้องกันการบุกรุกทำลาย ป่าชุมชนบ้านต้นตาลที่อุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์พึ่งพิงทรัพยากร มีการเข้าเก็บผลผลิตจากป่า เก็บหาเห็ด และพืชสมุนไพรชนิดอื่นๆ โดยมีนายมะซี มะเกซง ในฐานะผู้นำชุมชน และประธานป่าชุมชนบ้านต้นตาล นำคณะกรรมการป่าชุมชน และเหล่าสมาชิกป่าชุมชนชาวบ้านร่วมบริหารจัดการเพื่ออนุรักษ์พื้นที่ป่า จนชุมชนบ้านต้นตาลได้รับรางวัลระดับภาคในด้านการอนุรักษ์

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ชุมชนบ้านต้นตาลยังต้องพัฒนาด้านเศษฐกิจชุมชน การเพิ่มรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อให้สามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน ซึ่งต้องเป็นการพัฒนาที่ชุมชนมีส่วนร่วม บ้านต้นตาลเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายของโครงการพัฒนาชุมชน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) ซึ่งตระหนักถึงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน นำมาสู่การขับเคลื่อนโครงการชุมชนดีมีรอยยิ้มนราธิวาส ร่วมกับชุมชนบ้านต้นตาล โดยเชื่อมโยงคณะกรรมการป่าชุมชน ตลอดจนสมาชิกในการขับเคลื่อนงานพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก

ชุมชนนี้มีจุดแข็ง’คนกับป่าอยู่ร่วมกัน’ ใกล้ชิด ปัจจุบันมีศูนย์เรียนรู้ป่าชุมชนบ้านต้นตาลที่เป็นรูปธรรม ภายในศูนย์มีการจัดฐานเรียนรู้ 9 ฐาน  ประกอบด้วยฐานเรียนรู้การดับไฟป่า ฐานเรื่องพืชสมุนไพร ฐานการเพาะกล้าไม้ป่า ฐานเรียนรู้ฝาย ธนาคารน้ำใต้ดิน  ฐานการเลี้ยงเห็ดตามวิถีป่าชุมชน ฐานการเลี้ยงผึ้งหลวง ฐานเลี้ยงสัตว์ปีก ฐานสืบสานอาหารพื้นถิ่น  และฐานถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการจักสานย่านลิเภา ซึ่งศูนย์ดังกล่าวมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนสนับสนุนชุมชนเพื่อให้เกิดพลัง และตั้งอยู่บนฐานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

สำหรับชุมชนดีมีรอยยิ้มนราธิวาสทำงานร่วมกับชุมชนเมื่อปี 2563 พุ่งเป้าพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนด้านการอนุรักษ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านอยู่ดีกินดี  ปากท้องอิ่ม มีรายได้ที่มั่นคง และสุขภาพร่างกายจิตใจแข็งแรงพร้อมสู้กับทุกวิกฤต

นางสาววาฟา มะซอ เจ้าหน้าที่พัฒนาธุรกิจชุมชนอาวุโส ชุมชนดีมีรอยยิ้มนราธิวาส กล่าวว่า  ชุมชนบ้านต้นตาลมีจุดเด่นการอนุรักษ์ป่าอย่างเข้มแข็ง ชาวบ้านร่วมด้วยช่วยกันฟื้นฟูและขยายพื้นที่ป่าชุมชนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จนเกิดผืนป่าเขียวขจี มีการขึ้นทะเบียนกับกรมป่าไม้ในนาม’ป่าชุมชนบ้านต้นตาล’ เกิดศูนย์เรียนรู้ มีกิจกรรมเดินป่าศึกษาเส้นทางธรรมชาติ  ซึ่งเรามาร่วมพัฒนากิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ จัดโปรแกรมที่น่าสนใจและค่าใช้จ่ายเพื่อให้มีมาตรฐานชัดเจน

“ ปัจจุบันมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ชมต้นไม้ใหญ่ จุดชมวิว  กิจกรรมสร้างฝายชะลอน้ำ  กิจกรรมปลูกป่าทดแทนด้วยการปั้นกระสุนปลูกป่า และปลูกด้วยหนังสติ๊ก กิจกรรมสร้างฝายชะลอน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผืนป่า  จัดแคมป์ปิ้งให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ  ซึ่งมีเต็นท์และอปุกรณ์บริการ จัดเวิร์คช็อปการทำขนมพื้นบ้านโบราณ และเรียนรู้ 9 ฐาน ภายในศูนย์เรียนรู้ป่าชุมชนบ้านต้นตาล  มีทั้งโปรแกรมสำหรับนักเรียนนักศึกษาดูงาน และโปรแกรมนักท่องเที่ยว  เสียงตอบรับดีมาก ชุมชนสามารถบริหารจัดการกิจกรรมท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการจัดการระบบการเงินของชุมชน  เงินไหลเวียนในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น  ชุมชนพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวมาสัมผัสธรรมชาติ วิถีชุมชน ปีนี้เราเดินหน้าส่งเสริมท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างเต็มที่ “ นางสาววาฟา เล่าให้ฟัง

ส่วนงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนก็สำคัญไม่แพ้กัน นางสาววาฟากล่าวว่า  ป่าชุมชนบ้านต้นตาลมีทรัพยากรและพืชสมุนไพรมากมาย โดยเฉพาะชาที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ   ชุมชนสนใจพัฒนาผลิตภัณฑ์ชาเพื่อสุขภาพ  ชาชนิดนี้ชาวบ้านบอกมีสรรพคุณเพิ่มกำลังวังชา ช่วยบำรุงเลือด   แต่ยังขาดองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ชุมชนดีมีรอยยิ้มนราธิวาสเข้ามาสนับสนุนโดยประสานมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างชาและนำไปวิเคราะห์คุณสมบัติหรือประโยชน์ตามหลักวิชาการเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ ใช้ประโยชน์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชาสมุนไพรต่อไป อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการโซนนิ่งพื้นที่ดงชาสมุนไพรในป่าชุมชนไว้แล้ว ป้องกันการรบกวนจากกิจกรรมการท่องเที่ยว อนาคตอาจจะมีการทดลองเพาะและขยายพันธุ์ชาในแปลงทดแทนการเก็บผลผลิตจากป่าชุมชน

“ จากการทำงานพัฒนาชุมชนร่วมกัน นำมาสู่การจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนป่าชุมชนบ้านต้นตาล ส่วนผลิตภัณฑ์ชาสมุนไพร ชาวบ้านตั้งชื่อแบรนด์’ ADOW ‘ ตอนนี้เราร่วมออกแบบโลโก้และบรรจุภัณฑ์ ที่จะสร้างความประทับใจและดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค เป็นการเตรียมพร้อมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ของชุมชน เพื่อเพิ่มรายได้จากเดิมชาวบ้านทำสวนยางพาราและเกษตรตามฤดูกาล นอกจากนี้ ชุมชนมีความต้องการจำหน่ายผลไม้ตามฤดูกาล  เช่น ทุเรียน  ส้มแขก สะตอ ฯลฯ  ซึ่งกำลังวางแผนขยายตลาดและช่องทางจัดจำหน่ายผลผลิตชุมชนเพื่อสร้างรายได้ให้ท้องถิ่นมากขึ้น “  นางสาววาฟา กล่าวถึงแผนพัฒนาระยะต่อไป

ระบบเศรษฐกิจชองชุมชนบ้านต้นตาลวันนี้สามารถพึ่งตนเองได้ จากการพัฒนากิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชน ซึ่งเป็นระบบที่เอื้อต่อการพัฒนาด้านอื่นๆ ในพื้นที่ ทั้งสังคม ผู้คน  ชุมชน วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

เจ้าหน้าที่พัฒนาธุรกิจชุมชนอาวุโส ชุมชนดีมีรอยยิ้มนราธิวาสที่ทำงานคลุกคลีกับชุมชน กล่าวด้วยว่า ชาวบ้านในท้องถิ่นทำงานร่วมกันด้วยความสามัคคี  สามารถประสานงานทั้งภายในและภายนอกอย่างมีประสิทธิภาพ  ผลักดันชุมชนที่เข้มแข็งให้เกิดขึ้นในวันนี้เพื่อส่งต่อต้นทุนทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับคนรุ่นลูกรุ่นหลาน  ทั้งยังปลูกจิตสำนึกความเป็นเจ้าของร่วมกัน แต่ละองค์ประกอบสำคัญทำให้ชุมชนป่าชุมชนบ้านต้นตาลยั่งยืน

กล่าวได้ว่าชุมชนในป่าแห่งนี้เป็นแบบอย่างพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากที่เหมาะสมให้กับชุมชนทั่วประเทศ คนในชุมชนได้ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมเรียนรู้การจัดการทรัพยากรในชุมชนสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ผลสำเร็จเป็นรูปธรรมชาวบ้านมีรายได้ที่ดีขึ้น สภาพแวดล้อมและธรรมชาติเพิ่มพูนดีงาม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คดีตากใบ หมดอายุความ วัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด กับผลการเมืองระหว่างประเทศ

ชื่อ "จักรภพ เพ็ญแข" คงไม่ต้องบรรยายอะไรให้มากว่าเป็นใคร มาจากไหน มีบทบาททางการเมืองอย่างไรในช่วงที่ผ่านมา เพราะชื่อนี้ถือเป็นคนดังในแวดวงการเมืองอยู่แล้ว

เฝ้าระวังพื้นที่3จ.ชายแดนใต้ หลังรัฐไทยทำคดีตากใบ หมดอายุความ จำเลยลอยนวล

หลัง คดีตากใบ หมดอายุความไปเมื่อเที่ยงคืนวันศุกร์ที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงต่อสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา-ปัตตานี-นราธิวาส

ดร.ณัฏฐ์ เตือนออกพรก.ขยายอายุความคดีตากใบ จะกระทบความเชื่อมั่นในการอำนวยความยุติธรรมทางอาญา

สืบเนื่องจากคดีตากใบ ผู้เสียหายยื่นฟ้องจำเลยด้วยตนเอง เมื่อศาลไต่สวนมูลฟ้องและคำสั่งมีมูล ต่อมาเมื่อถึงวันนัดสอบคำให้การ จำเลย

พาณิชย์ขึ้นทะเบียน 'ทุเรียนบางนรา' สินค้า GI ตัวใหม่

“พาณิชย์” เดินหน้าสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI)“ทุเรียนบางนรา” ของจังหวัดนราธิวาส เนื้อละเอียด รสชาติหวานมันกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย จนเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โครงการ ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว สานต่อปณิธานแห่งการ “ให้” ปีที่ 25 “มากกว่าความอบอุ่น คือสังคมแห่งการให้ที่ยั่งยืน”

จากความผันผวนของสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งภัยพิบัติรุนแรงหลายรูปแบบที่ต้องเผชิญในยุคของ Global Boiling (สภาวะโลกเดือด) กระทบต่อหลายพื้นที่ตอนบนของประเทศไทยในแถบภาคเหนือ