20 ก.ค.2565 - เวลา 15.50 น. น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีพฤติการณ์จงใจขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มีความประพฤติเสื่อมเสียต่อศีลธรรมอันดี โดยหยิบเอาเรื่องส่วนตัวมาอภิปรายว่าพูดในฐานะหัวอกแม่คนหนึ่ง พูดในฐานะที่เป็นเพื่อนภรรยานายชัยวุฒิ ซึ่งเป็นส.ส.ด้วย มั่นใจว่าเพื่อนสมาชิกอยากได้ข้อมูลจากตน เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะไว้วางใจนายชัยวุฒิหรือไม่
น.ส.ชนก กล่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้ออกประกาศประมวลจริยธรรมของข้าราชการทางการเมืองปี 2564 เมื่อ11 ต.ค.64 เป็นมาตรฐานทางจริยธรรมที่สูงมาก ไม่ว่าจะคู่สมรสหรือบุคคลข้างกายต้องใช้มาตรฐานทางจริยธรรมนี้เช่นกัน นายชัยวุฒิ กระทำขัดข้อ 10 เป็นที่ทราบกันว่านายชัยวุฒิ ครองรักครองคู่กับภรรยาของท่านมาเนิ่นนานจนมีบุตรด้วยกัน และภรรยาของท่านก็เป็นส.ส. เมื่อท่านมาดำรงตำแหน่ง รมว.ดิจิทัลฯ พฤติกรรมก็เปลี่ยนไป กลับเชิดหน้าชูตาหญิงอื่นเยี่ยงภรรยาตัวเอง ทำร้ายจิตใจภรรยาอย่างแสนสาหัส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายของ น.ส.ชนก ส่งผลให้ ส.ส.หญิงพรรคพลังประชารัฐและส.ส.หญิง พรรคร่วมรัฐบาล ลุกขึ้นประท้วง เป็นระยะๆ อาทิ นส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. น.ส.กรณิศ งานสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. ที่ระบุว่าเนื้อหาจะส่งผลกระทบ เป็นตราบาปกับบุตรของรัฐมนตรี เรื่องนี้ละเอียดอ่อน ควรจะพูดถึงเพียงแค่การบริหารราชการบกพร่อง
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นชี้แจงสนับสนุนการอภิปรายของน.ส.ชนก ว่าเรื่องนี้บรรจุอยู่ในญัตติ เหตุการณ์เกิดขึ้นจริง ที่สำคัญเกิดความเสียหายต่อการปฏิบัติราชการ บุคคลนี้มีกระบวนการก้าวก่ายการจัดซื้อจัดจ้างในกระทรวง ตนเห็นใจทุกฝ่าย หลายคนที่ประท้วงเหมือนว่า น.ส.ชนกผิด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นจากนายชัยวุฒิ ดังนั้นขอสรุปเลยว่ามีเรื่องชู้สาวจริงๆ ทั้งสื่อมวลชนและสังคมต่างรับรู้
ทำให้นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประท้วงนายศุภชัย โพธิสุ ที่ทำหน้าที่ประธานควบคุมการประชุมระบุว่า ขอให้พูดถึงปัญหาการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะเรื่องชู้สาวนั้น ก็ไม่รู้ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่หากปล่อยไปอาจเกิดความเสียหาย
น.ส.ชนก อภิปรายต่อว่า ตราบาปที่เพื่อนสมาชิกได้กล่าวอ้างนั้น ตนไม่ได้เป็นคนทำ เพราะก็เป็นแม่ เป็นภรรยาเป็นเพื่อนของภรรยารัฐมนตรีชัยวุฒิเช่นกัน พฤติกรรมของรัฐมนตรีที่กล่าวอ้างมาทั้งหมด ในที่สุดทราบว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีการหย่าร้างกับภรรยา
เมื่อถึงช่วงนี้ได้มีการเปิดรูปนายชัยวุฒิ ที่ถ่ายร่วมกับบุคคลหลายคน โดยมีการเบลอหน้าทุกคน ยกเว้นนายชัยวุฒิ
ทำให้นางนันทนา สงฆ์ประชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาภิวัฒน์ ลุกขึ้นประท้วงทันทีว่า เรื่องนี้จะเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง ประธานควรสั่งให้หยุดการอภิปราย เรื่องนี้เป็นเรื่องครอบครัว การเอารูปอย่างนี้ขึ้นสมควรหรือไม่ ขอให้ประธานวินิจฉัยด้วย แต่ส่วนตัวมองว่าไม่ถูกต้อง
นายศุภชัย ที่ทำหน้าที่ประธานสภาฯ ได้วินิจฉัยว่า ไม่ต้องบรรยายภาพว่า เป็นอย่างไร ขอให้คิดถึงใจเขาใจเราด้วย ถ้าหากมีคลิปหรือภาพอะไร ขออย่าเปิดอีกเลย ต่อมานายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า ขอให้ประธานสภาฯ ใช้ข้อบังคับที่ 70 ที่ระบุว่าหากเนื้อหาเพียงพอ สามารถสั่งให้ยุติการอภิปรายได้ เพราะตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่ากำลังจะพูดเรื่องอะไรต่อ
จากนั้นประธานสภาฯ วินิจฉัยอีกครั้งว่าแม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องเสื่อมเสียต่อจริยธรรมอันดี แต่ไม่ต้องลงในรายละเอียดไปถึงบุคคลอื่น คิดว่าทุกคนคงเข้าใจแล้ว ขออย่าพาดพิงถึงบุคคลที่สามอีก
จากนั้นทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต่างลุกขึ้นประท้วงเป็นระยะๆ เพราะมั่นใจในข้อมูลของตัวเอง โดยฝ่ายค้านมองว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในญัตติที่ได้ยื่นอภิปราย ด้านส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ก็ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานที่บกพร่อง แต่เป็นเรื่องครอบครัว ซึ่งมีความละเอียดอ่อน
ทำให้นายจุลพันธ์ลุกขึ้นประท้วงประธานสภาฯ ที่ปิดไมค์จะใช้วิธีนี้ปิดปากฝ่ายค้านใช่หรือไม่ ด้านประธานสภาฯ ระบุว่า ได้ตักเตือน น.ส.ชนกหลายครั้งแล้ว ว่าขอให้ยุติการพูดเรื่องครอบครัวของรัฐมนตรี หากอภิปรายประเด็นอื่นจะอนุญาตให้อภิปรายต่อ
น.ส.ชนก อภิปรายว่า นายชัยวุฒิมีพฤติกรรมที่ไม่เป็นแบบอย่างที่ดี ไม่รักษาขนบธรรมเนียมประเพณี อดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอื้อประโยชน์ในกระทรวงที่รัฐมนตรีบริหารอยู่หรือไม่ จึงไม่สามารถไว้วางใจนายชัยวุฒิได้จริงๆ อันเรื่องราวตัณหานี้สาหัส ถ้าใครตัดเสียได้ฉันให้ถอง อุตส่าห์หัดวิชาหาเงินทอง ก็เพราะของสิ่งเดียวมันเกี่ยวกวน
จากนั้นเวลา 16.23 น. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงว่า ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกคนที่ให้เกียรติตน ได้ช่วยกันประท้วงและมีการควบคุมการอภิปราย จริงๆก็ไม่ได้ประสงค์ให้มีการปิดกั้น อยากให้พูดให้หมด รูปภาพจะเปิดก็เปิดไปเถอะ ของมันไม่จริงมันก็ไม่มีอะไร ไม่ได้กลัวอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวคิดว่าการอภิปรายในประเด็นเรื่องแบบนี้ไปไกลไปหน่อย มาตรฐานมันต่ำ มีเรื่องให้พูดตั้งเยอะ การพูดเรื่องที่มันต่ำคนพูดก็จะต่ำไปด้วย ภาพจะติดตัวท่านไป คิดว่าคนที่ให้ข้อมูลท่านพูดเรื่องนี้ ไม่ได้หวังดีกับท่าน เพราะนอกจากภาพที่ไม่ดีจะติดตัวไปแล้ว มันจะมีคดีติดตัวด้วย ในคดีหมิ่นประมาท ไปฟังคนโน้นคนนี้ แล้วมามโนไปอย่างโน้นอย่างนี้ แล้วเอามาพูดในสภาฯ ข้อเท็จจริงไม่มี สุดท้ายก็ไปสู้กันที่ศาล ไม่ใช่ตนฟ้อง แต่คนที่เสียหายเขาฟ้อง ถึงบอกว่าคนที่เอาเรื่องนี้มาให้ท่านพูด ไม่ได้หวังดีกับท่านแน่นอน เพราะทำให้ภาพท่านดูไม่ดี และท่านจะมีคดีติดตัวด้วยแน่นอน แต่โชคดีที่ท่านไม่ได้พูด
“ทุกคนถ้ารู้จักผม จะรู้ว่าผมเป็นคนอย่างไร คุณไม่รู้จักผมกก็อย่ามาอภิปรายในเรื่องส่วนตัวผมไปฟังคนโน้นคนนี้พูดมาแล้วเอามาพูดมันไม่ใช่”นายชัยวุฒิ กล่าว
นายชัยวุฒิ ชี้แจงว่า ส่วนเรื่องในงาน คนที่คุณพูดทั้งหมด เพื่อนตน คนที่มาช่วยงานตน ทีมงานที่ปรึกษา เลขาบางคนมาช่วยก็ไม่ได้มีเงินเดือน เป็นเพื่อนว่างๆก็มาช่วยกันคิด ช่วยกันทำงานพัฒนางานในกระทรวงให้ดีย่ิงขึ้นหลายคนก็มีประสบการณ์ในแต่ละด้าน เช่น ไอที หรือเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย การมีเพื่อนมาช่วยทำงานเป็นเรื่องปกติทุกกระทรวงก็มีเพื่อน และะคนรู้จักมาช่วยทำงาน และมีกระบวนการในการสรรหาเข้ามาทำงาน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ เป็นสิ่งที่ทำได้จนกว่าจะมีการทุจริต ก็ไปฟ้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ใช่มาอภิปรายพูดเหมือนทำความผิดทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย
การอภิปรายทั้งหมดไม่ได้มีข้อเท็จจริง ที่เป็นความเสียหายต่อการทำงานของตน มีเพียงคนรู้จัก และเพื่อนมาช่วยตนทำงาน มาเป็นที่ปรึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนในสภาฯ ก็มีเพื่อนมาช่วยให้งานเดินหน้าและทำงานให้บ้านเมือง ส่วนเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างดิจิทัลชุมชน เป็นเรื่องในปี 2563-2564 เป็นเรื่องที่เกิดก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง และไม่ได้มีความเสียหาย หรือมีการฟ้องร้อง แต่ตนจะตรวจสอบดูว่าได้แก้ไขอย่างไรไปบ้าง
จากนั้นน.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงให้นายชัยวุฒิตอบให้ตรงประเด็นและจี้ถามว่า เมื่อสักคู่ดิฉันยังอภิปรายฯไม่จบด้วยซ้ำ หากนายชัยวุฒิ บริสุทธิ์ใจจริง ไม่กังวลจริง ท่านหย่าทำไม
ผู้สื่อข่าวรายงาน นางสาวกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ อดีตภรรยานายชัยวุฒิ ที่ถูกพาดพิง ได้เดินทางมาร่วมประชุมในสภาฯ ติดตามการอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลด้วย เพียงแต่ในช่วงที่มีการอภิปรายเนื้อหาที่โดนพาดพิง ในเรื่องนี้ ได้ลุกออกไปนอกห้องประชุม ไม่ได้อยู่ร่วมรับฟังด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภูมิธรรม' การันตีไม่มีปัญหาพรรคร่วมเห็นต่าง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานกานณ์ทางการเมือง ที่หลายคนถามรัฐบาลจะอยู่ครบ 4 ปีหรือไม่ ว่า หากดูจา
'ภูมิธรรม' เซ็ง 'เอ็มโอยู44' ถูกปลุกปั่นจนออกนอกอวกาศ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเอ็มโอยู 44 ว่า ตนยังยึดหลักเดิม เพราะควรใช้ความอดทนอดกลั้นและความเข้าใจ เพราะเอ็มโอยู 44 ซึ่งรัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไร
'อนุทิน' โวรัฐบาลชุดนี้ มีเสถียรภาพมากสุด เชื่ออยู่ครบเทอม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณี
'จตุพร' มองการเมือง 2568 สัมพันธ์อำนาจระแวงบีบกด ฉุดบ้านเมืองเข้ามุมอับ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ส่งท้ายปี 2567 ว่า ในปี 2568 บ้านเมือง
‘ทักษิณ’ ติงสื่อขยายข่าวมากเกินไป! หลัง คุยกับ ‘อันวาร์’
ที่อาคารมูลนิธิไทยรัฐ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
เลขาฯกกต. ตรวจหน่วยรับสมัคร อบจ.ปราจีนบุรี อุบตอบปมสอบเงิน 20 ล้าน
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย พ.ต.ท. ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ รองเลขาธิการ กกต. , น.ส.โชติกา แก้วผล ผู้อำนวยการ กกต.ประจำจังหวัดปราจีนบุรี และคณะ ร่วมสังเกตการณ์การรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.ปราจีนบุรีและนายก อบจ.จังหวัดปราจีนบุรี ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี