
‘น้องตู่-พี่ป้อม’ ตบไหล่ให้กำลังใจก่อนศึกซักฟอก บอกเชื่อใจกันมาทั้งชีวิต ถกพรรคร่วมสั่งเตรียมข้อมูลให้พร้อม ไม่ห่วงแรงกระเพื่อมพรรคเล็ก ยันทำงานด้วยใจบริสุทธิ์ เกิดอะไรขึ้นรับได้ทุกเรื่อง
18 ก.ค. 2565 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ได้ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง เนื่องจากวาระการประชุมมีไม่มาก โดยภายหลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ได้พักผ่อนอริยาบถและพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในห้องรับรองตึกสันติไมตรี สองต่อสองอย่างอารมณ์ดี ประมาณ 10 นาที
จากนั้นเวลา 11.20 น. พล.อ.ประวิตร ได้เดินนำหน้าพล.อ.ประยุทธ์มายังบริเวณทางเชื่อมตึกสันติไมตรี ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ที่เดินตามหลังมาได้เรียก “พี่ป้อมๆ” ก่อนยกมือไหว้กล่าวสวัสดีครับ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร หันมารับไหว้และเดินเข้าไปตบไหล่ให้กำลังใจซึ่งกันและกันต่อหน้าสื่อมวลชน ก่อนที่ พล.อ.ประวิตรได้เดินแยกไปขึ้นรถยนต์
ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขึ้นโพเดียมให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวว่า การประชุม ครม. วันนี้มีหลายเรื่องที่พิจารณาเพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ ในการทำงานโครงการต่างๆ และที่สำคัญคือที่ประชุมวันเดียวกันนี้ได้มีการอนุมัติเงินกู้ที่เรายังมีเหลืออยู่จำนวนหนึ่งในจำนวน 5 แสนล้านบาทเกี่ยวกับด้านสาธารณสุข ซึ่งได้มีการอนุมัติไปในวันนี้ โดยวงเงินที่เหลืออยู่มีจำนวนไม่มากนักจำเป็นจะต้องรักษาไว้และต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จากเวลานี้ไปจนถึงเดือนธ.ค. ซึ่งก็เป็นไปตามหลักการของเงินกู้ ในส่วนของงบกลางก็ยังเหลืออีกจำนวนหนึ่งเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ในช่วงเตรียมการอุทกภัยและเรื่องอื่นๆ ที่มีความสำคัญด้วยในการบริหารราชการแผ่นดินในช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงท้ายของปีงบประมาณก็จำเป็นต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวังที่สุด
นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนได้หารือกับทุกพรรคการเมืองพรรคร่วมรัฐบาล และหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค รวมทั้งในที่ประชุม ครม. ด้วย ซึ่งตนเพียงแต่พูดว่าขอให้ทุกคนเตรียมข้อมูลต่างๆ ให้เกิดความชัดเจนเกิดขึ้น สามารถชี้แจงได้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ และเชื่อมั่นทุกคนจะสามารถชี้แจงตอบคำถามได้ในทุกประเด็นที่มีความสำคัญและเป็นข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มพรรคเล็กในขณะนี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมก็เคยบอกแล้วว่าผมทำงานด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ของผม และผมเชื่อมั่นว่าทุกคนก็ทำงานมาอย่างนั้น เพราะทุกคนเป้าหมายคือประชาชนและประเทศชาติ ผมก็มีความเชื่อมั่น เพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมก็รับได้ทุกเรื่อง”
เมื่อถามว่า ถึงวันนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ให้ความมั่นใจอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องมาให้ความมั่นใจกับตนในตอนนี้ “ผมมั่นใจกับท่านมาตลอดชีวิตที่ผมผ่านมา ต่างคนต่างไว้ใจซึ่งกันและกันอยู่แล้ว เรื่องอะไรที่เป็นปัญหาก็มาหารือมาหาทางแก้ไขร่วมกัน ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับท่าน และท่านก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับผม”
เมื่อถามย้ำว่า เชื่อมั่นการอภิปรายซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายในรัฐบาลนี้จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็พูดไปแล้ว ก็พูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ พูดในสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง พูดในเรื่องที่ไม่บิดเบือน พูดในเรื่องที่ไม่เกิดความเสียหายจากการบริหารราชการแผ่นดินและไม่มีความเสียหายต่อประเทศชาติ เพื่อไม่ให้มีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย ซึ่งจะต้องระมัดระวังอย่างที่สุดต่อการอภิปรายในครั้งนี้ เพราะสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติในท่ามกลางสถานการณ์โลกปัจจุบัน ดังนั้นความไว้วางใจถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทั้งเรื่องการลงทุน การค้า การตลาด เศรษฐกิจต่างๆ ล้วนมีความเกี่ยวเนื่องกันทั้งหมด ก็ขอให้ดูสถานการณ์ต่างประเทศไปด้วย ทั้งในอาเซียนและภูมิภาคอื่นในโลกปัจจุบัน ซึ่งทุกคนมีปัญหาหมด
ทั้งหมดนี้คือสถานการณ์ในปัจจุบัน เราในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในประชาคมโลกก็ต้องนำมาพิจารณาด้วยว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ อะไรทำได้หรือทำไม่ได้ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายของเราทุกประการ รวมทั้งกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งหลายอย่างอาจจะคิดว่าทำไมไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ ต้องไปดูหลายอย่างประกอบกันว่าทำแล้วจะเกิดผลกระทบอย่างอื่นอีกหรือไม่ ซึ่งตนพยายามแก้ปัญหาทุกอัน ไม่อาจจะกล่าวได้ว่าตนทำได้ดีที่สุดหรือดีกว่าใครตนไม่พูด แต่พยายามทำให้มากที่สุดและทำให้ดีที่สุด ด้วยความร่วมมือร่วมใจของพวกเราทุกคน ประเทศชาติสำคัญกว่าอย่างอื่น
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธตอบคำถามกรณีได้คุย พล.อ.ประวิตร รวมทั้งเรื่องการตั้งพรรคสำรองรวมไทยสร้างชาติ โดยนายกฯ ส่ายหัว และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ก่อนการประชุม ครม. นายกฯ ยังได้หารือร่วมกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ซึ่งทุกคนต่างแสดงความมั่นใจในการรับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เทพไท' ฟันธง 5 ข้อที่เพื่อไทยไม่กล้าทำในการปรับ ครม.
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา
หน้าด้าน อ้างเสียงไม่ถึงจึงจับมือฝ่ายรปห.ไม่ใส่ใจการตระบัดสัตย์ ตะลึง ปลอบใจด้วยคำพระ 'อนิจจัง'
'จตุพร' ซัด 'อิ๊งค์' หน้าด้าน อ้างเสียงไม่ถึงจึงจับมือฝ่ายรปห. ไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับปชช. ส่ออาการตกตะลึงอำนาจ ถึงกับปลอบใจด้วยคำพระ 'อนิจจัง' หลบหลีกแรงกดดัน 'ปรับ ครม.' เชื่อ 'ประวิตร' เข็ดแล้วจำ เลือกรักษาศักดิ์ศรีอันน้อยนิดไว้ติดตัวยามวัยชราดีกว่าถูกดึงหูเข้าร่วมรัฐบาล
หอมแก้มกลบข่าวร้าว 'อนิจจังตำแหน่งนายกฯ' ก่อนปรับ ครม.!
ข่าวลือเรื่องการปรับ ครม. หลังสงกรานต์ ไม่ได้เกิดขึ้นลอย ๆ แต่สะท้อนแรงสั่นสะเทือนที่เริ่มชัดในรัฐบาล ทั้งจากภายในพรรคเพื่อไทยเอง และเสียงวิจารณ์จากคนในสังคมที่เริ่มจับตาว่าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ กำลังไปไม่รอด
'อิ๊งค์' ปัดข่าวปรับ ครม. แต่หลุดวลี 'ตำแหน่งนายกฯ ก็อนิจจัง'
แพทองธาร แจงยังไม่มีแนวคิดปรับ ครม. ชี้ทุกอย่างในโลกล้วนไม่เที่ยง แม้แต่ตำแหน่งนายกฯ พร้อมรับฟังเสียงวิจารณ์ทั้งจากโพลและภายในพรรค แต่ยังไม่ตกผลึก ย้ำยังไม่ถึงขั้นเห็นต่างกับ “พ่อ” แม้มีข่าวทักษิณอยากปรับ ครม.
ปรับ ครม. ไปก็แค่งานช่าง! ถ้าผู้นำยังไร้วุฒิภาวะ-คนสั่งการไม่อยู่ในระบบ
การเมืองไทยหลังสงกรานต์เต็มไปด้วยข่าวลือเรื่องการปรับ ครม.ไม่มีใครปฏิเสธว่ารัฐบาลกำลังเผชิญแรงเสื่อมทั้งใน
'อนุทิน' ร้องโอ้โห! เขย่าเก้าอี้ 'มท.1' ต้องใช้แรงเยอะ งงข่าวปรับครม. คุยพ่อนายกฯ ไร้การเมือง
'อนุทิน' งงสัญญาณปรับ ครม. ส่งหาสื่อ แต่มาไม่ถึงหัวหน้าพรรคร่วม ร้องโอ้โห ต้องใช้แรงเยอะเขย่าเก้าอี้ 'มท.1' เผยกินข้าว 'ทักษิณ' ก่อนสงกรานต์ ไร้เรื่องการเมือง