นายกฯ เปิดทำเนียบเลี้ยงฉลองทัพนักกีฬาไทย คว้าเหรียญซีเกมส์ อัดฉีด 207 ล้าน

นายกฯ เปิดทำเนียบฯเลี้ยงฉลองความสำเร็จทัพนักกีฬาไทย สร้างผลงานคว้าเหรียญรางวัลแข่งขันซีเกมส์ 332 เหรียญ มอบเงินอัดฉีด 207 ล้าน พร้อมหนุนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ-ผลักดัน Soft Power สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจประเทศ

6 ก.ค.2565 - เมื่อเวลา 18.15 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเลี้ยงฉลองชัยมอบเงินรางวัลและแสดงความยินดีแก่นักกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เข้าร่วมการแข่งขัน เมื่อวันที่ 12-23 พฤษภาคม 2565 ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งประเทศไทยส่งนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 41 ชนิดกีฬา รวมจำนวน 1,236 คน และสร้างผลงานคว้าเหรียญรางวัลรวม 332 เหรียญ ประกอบด้วย เหรียญทอง 92 เหรียญ เหรียญเงิน 102 เหรียญ และเหรียญทองแดง 138 เหรียญ โดยมี พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้บริหารการกีฬาแห่งประเทศไทย ผู้บริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ คณะนักกีฬา ผู้ฝึกสอน กองเชียร์ สื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน

นายกรัฐมนตรีมอบของที่ระลึกให้แก่ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันฯ จากนั้น นายกรัฐมนตรีมอบเงินรางวัลที่กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติได้มอบให้กับนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬาที่ได้เหรียญรางวัลและเข้าร่วมการแข่งขันฯ จำนวน 41 ชนิดกีฬา รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 207,030,000 บาท

นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีแก่คณะนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันฯ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จและเป็นเกียรติประวัติของประเทศ ที่คณะนักกีฬาทีมชาติไทยได้ร่วมกันสร้างชื่อเสียง และนำความภาคภูมิใจมาสู่พี่น้องชาวไทย รวมทั้งสร้างเกียรติภูมิให้แก่ชาติไทย นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทัพนักกีฬาไทยสร้างผลงานโดดเด่นในทุกรายการแข่งขัน จนสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการทำลายสถิติใหม่ ทำให้สามารถคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของประเทศในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านกีฬา และเป็นอีกก้าวที่สำคัญยิ่งของนักกีฬาและประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาไทย

นายกรัฐมนตรีกล่าวเน้นย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาการกีฬาของประเทศ และนับเป็นกิจกรรมที่เสริมสร้างความรัก ความสามัคคี และทัศนคติที่ดี รวมทั้งสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาเพื่อต่อยอดไปสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติและนักกีฬาอาชีพที่มีความพร้อมสามารถก้าวไปสู่ระดับนานาชาติ และแข่งขันกับนานาประเทศได้อย่างทัดเทียม นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ส่งเสริมให้มีการแข่งขันกีฬาภายในประเทศในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักกีฬาได้มีเวทีในการแสดงทักษะ ความสามารถ รวมทั้งเป็นพื้นที่ให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อนำไปพัฒนาทักษะของตนเองให้ดียิ่งขึ้นไป ตลอดจนการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติ เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศ รวมทั้งผลักดัน Soft Power ด้านกีฬาของไทย เช่น มวยไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาติ ให้เป็นสินค้าส่งออกทางวัฒนธรรมของประเทศ อันจะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดกระแสเงินหมุนเวียนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอีกด้วย รวมทั้งให้ความสำคัญกับด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา และด้านโภชนาการที่เหมาะสมกับกีฬาแต่ละประเภทด้วย

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีแสดงความชื่นชมและร่วมยินดีกับความสำเร็จของทัพนักกีฬาไทยที่ได้รับชัยชนะจากการแข่งขัน ซึ่งความสำเร็จและรางวัลเกียรติยศที่ได้รับ จะเป็นขวัญและกำลังใจให้นักกีฬาได้พัฒนาความสามารถให้ประสบความสำเร็จยิ่ง ๆ ขึ้นไป พร้อมให้กำลังใจนักกีฬาที่ไม่ได้รับเหรียญจากการแข่งขัน ขอให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่มีคุณค่า และเชื่อมั่นว่าทุกคนได้ทำหน้าที่ตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศอย่างดีที่สุดแล้ว ซึ่งการตั้งใจพัฒนาทักษะและความสามารถรวมทั้งการหมั่นฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ทุกคนพัฒนาขีดความสามารถทางด้านกีฬาของตนเองให้เกิดผลสำเร็จในการแข่งขันโอกาสต่อ ๆ ไป

นายกรัฐมนตรียังขอบคุณทุกหน่วยงานทุกฝ่าย ที่ร่วมใจกันอย่างเข้มแข็งในการสร้างความสามารถด้านกีฬาให้แก่นักกีฬาไทยมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งแสดงความชื่นชมผู้จัดการทีม ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน ทุกฝ่าย ที่เป็นกำลังสำคัญและมีส่วนร่วมทำให้นักกีฬาสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม นับเป็นความภาคภูมิใจร่วมกัน และเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของชาติไทยและวงการกีฬาไทย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ปลุกทุกภาคส่วน ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีทุกรูปแบบ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านวีดิทัศน์ว่า เนื่องในเดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ประจำปี 2567

ความจริง 'ชั้น 14' ชี้ชะตา 'รัฐบาลอิ๊งค์'

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อายุรัฐบาลขึ้นกับความจริงบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.)

'ชินวัตร' ตีปีกดันรัฐบาลครบเทอม วิบากกรรมไล่ล่า 'ชั้น14' หลอกหลอน

ดูจากมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49

นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน

นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้