อดีตรองอธิการบดี มธ. ชำแหละเห็นภาพ ‘DNA กลุ่ม 3 นิ้ว’

รศ.หริรักษ์ ใช้โอกาสโดนทัวร์ 3 นิ้วมาลง สรุปคุณลักษณะและความคิดของกลุ่ม 3 นิ้ว 6 ประการสำคัญ ไม่มีความอดทนทำความเข้าใจในเนื้อหาให้ถ่องแท้ ความคิดไม่ได้มาจากสถานการณ์จริงไม่ยอมรับความจริงที่ตรงข้ามความเชื่อตัวเอง ผูกขาดความถูกต้อง

30 พ.ค.2565-รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Harirak Sutabutr ระบุว่า แปลกใจที่โพสต์ล่าสุดมีคณะทัวร์ 3 นิ้วมาลงกันอย่างหนาแน่น ทั้งที่เพจผมเป็นเพจส่วนตัว แต่เปิดให้ public เห็นได้ แต่ก็ตั้งค่าไว้ว่า คนที่จะคอมเมนต์ ก็ทำได้เฉพาะเพื่อนและเพื่อนของเพื่อนเท่านั้น แสดงว่าอาจมีคนเอาไปโพสต์ต่อในเพจฝั่ง 3 นิ้วเพื่อให้ทัวร์ลง ก็ไม่ว่ากัน แต่ก็ขออนุญาต block เฉพาะคนที่ใช้คำไม่สุภาพเช่นคำว่า “มึง” และ “เสือก” เป็นต้นนะครับ

ข้อความที่คณะทัวร์มาลง ไม่ใช่เกิดจากตรรกะวิบัติ แต่ตรรกะของกลุ่ม 3 นิ้ว กับตรรกะของกลุ่มที่ถูก 3 นิ้วเรียกว่ากลุ่มอนุรักษ์นิยมหรือสลิ่มนั้น มาจากกระบวนทัศน์หรือ paradigm ที่แตกต่างกัน ยากที่จะคุยกันรู้เรื่องได้ เมื่ออ่านคอมเมนต์เหล่านี้แล้ว อดไม่ได้ที่จะขอสรุปคุณลักษณะและความคิด หรืออาจเรียกว่าเป็น DNA ของกลุ่ม 3 นิ้ว ที่ทุกคนมีเหมือนกันหมดไว้อีกครั้งดังต่อไปนี้ 

1. ไม่มีความอดทนพอที่จะทำความเข้าใจในเนื้อหาให้ถ่องแท้ก่อนที่จะทำการตอบโต้ เช่นเมื่อเปรียบเทียบรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งและรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีเป็นคนนอก เช่น พลเอก เปรม รวมทั้งรัฐบาลคสช กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งรวมทั้งรัฐบาลชุดปัจจุบันว่าโดยรวม คณะรัฐมนตรีของรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และที่นายกรัฐมนตรีเป็นคนนอก มีคุณภาพสูงกว่า ซึ่งไม่ได้เป็นการบอกว่ารัฐบาล “3 ป ” ชุดปัจจุบันมีคุณภาพสูงแต่อย่างใด แต่ก็ยังมีคนมาแซะหาว่าผมบอกว่ารัฐบาล “3 ป “มีคุณภาพสูง และถึงกับบอกว่าจะอ้วก

2. ความคิดและกระบวนทัศมักไม่ได้มาจากการอยู่ในสถานการณ์จริง แต่เกิดจากการเสพข่าว และข้อความจากโพสต์ฝ่ายตัวเองเพียงอย่างเดียว เพราะการตอบโต้ของเขามักมาจากความเชื่อที่มาจากข้อความที่อยู่ในเพจของ 3 นิ้ว หรือข้อความที่เจ้าลัทธิเคยว่าไว้ เช่น เมื่อใดที่มีคนพูดว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติมาแล้ว พวกเขาก็มักจะโต้แย้งว่า ตอนทำประชามติที่ผ่านก็เพราะว่า ใครออกมาเชียร์ไม่เป็นไร แต่ใครที่ค้านถูกจับ แต่หากอยู่ในสถานการณ์จริงแล้วจะทราบว่า เมื่อมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ประชามติแล้ว จะไม่สามารถรณรงค์เพื่อชี้นำให้ไปลงประชามติไปในทางใดทางใดทางหนึ่งได้ จะทำได้ก็เพียงรณรงค์ให้คนไปลงประชามติกันมากๆเท่านั้น ซึ่งการรณรงค์แบบนี้มีหน่วยงานของรัฐเป็นผู้ดำเนินการ จึงเป็นที่มาของข้อกล่าวหาว่า หน่วยงานของรัฐทำได้ แต่พอประชาชนทำบ้างกลับโดนจับ แต่หน่วยงานของรัฐเขารณรงค์ให้คนไปลงประชามติ ไม่ได้ชี้นำให้ไปให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบแต่อย่างใด แต่ที่ว่าประชาชนรณรงค์นั้นรณรงค์ให้คว่ำร่างธรรมนูญซึ่งก็มีเพียงประปราย แต่ก็เป็นการทำผิดตามกฎหมาย

การทำประชามติดังกล่าว มีคนลงคะแนนให้ความเห็นชอบเกือบ 17 ล้านเสียง  ทั้งที่มีคนไม่เห็นด้วยกับคำถามแนบท้ายเรื่องอำนาจและที่มาของวุฒิสภาเป็นจำนวนมาก แต่ยังให้ความเห็นชอบ น่าจะเป็นเพราะ คนจำนวนมากไม่ต้องการให้พรรคการเมืองที่อยู่ภายใต้กำกับของคุณทักษิณกลับมามีอำนาจอีก และอำนาจของ ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในคำถามแนบท้ายจะมีอยู่เฉพาะใน 5 ปีแรกเท่านั้น และสว.ก็ไม่มีอำนาจลงคะแนนไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจรัฐบาลแต่อย่างใด ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงพอกล้ำกลืนรับได้ ใครที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริง หรือเป็นพวกที่เชียร์คุณทักษิณก็จะไม่เข้าใจในความรู้สึกดังกล่าวนี้

3. ไม่ยอมรับสภาพความเป็นจริงที่ไม่ตรงกับความเชื่อของตัวเอง เช่น ไม่ยอมรับว่าสถานการณ์มาถึงทางตันก่อนมีการทำรัฐประหาร และมองอย่างเดียวว่า รัฐบาลที่ได้รับเลือกตั้งมาแล้วจะทำอะไรก็ได้ การจะล้มรัฐบาลจะทำได้เพียงในรัฐสภา คือจากการลงคะแนนเสียงของ ส.ส.เท่านั้น การประท้วงขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เท่ากับเป็นการไม่ฟังเสียงประชาชน ซึ่งความจริง ประชาชนไม่ได้มีฝ่ายเดียว และการประท้วงไม่ได้เกิดขึ้นในปีแรกของการเป็นรัฐบาลของคุณยิ่งลักษณ์​ แต่เกิดขึ้นหลังจากมีการทุจริตคอรัปชั่นกันจนเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะกรณีจำนำข้าว และการประท้วงถึงจุดสูงสุดก็เมื่อมีการพยายามผ่าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย

4. มีความเชื่อว่า ทหารจ้องจะทำรัฐประหารอยู่ตลอดเวลา และเชื่อว่าพระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ก็ทรงให้การสนับสนุนการทำรัฐประหาร กล่าวหาว่าผู้ที่ร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ พยายามสร้างเงื่อนไขให้ทหารใช้เป็นเหตุผลในการทำรัฐประหาร กรณีนี้ผู้ที่ไปร่วมชุมนุมทุกคนคงบอกได้ว่า จริงหรือไม่ เราไม่อาจรู้ได้ว่าแกนนำกปปส.คิดอย่างไร ทำอย่างไร แต่สำหรับผู้ร่วมชุมนุมแล้ว เพียงต้องการให้รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ออกไปเท่านั้น และเงื่อนไขที่ทำให้เกิดการทำรัฐประหาร ก็ไม่ได้เกิดจากฝ่ายผู้ชุมนุม เช่น กลางดึกวันหนึ่งที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย มีรถกระบะบรรทุกคนจำนวนหนึ่ง มีอาวุธสงคราม กราดยิงผู้ร่วมชุมนุมที่บริเวณรอบอนุเสาวรีย์ ทำให้ผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง และบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งกรณีนี้ผมได้ไปเยี่ยมและพูดคุยกับผู้บาดเจ็บด้วยตัวเอง นอกจากนั้นยังมีการปาระเบิดใส่ผู้ชุมนุมอีกหลายต่อหลายครั้ง ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก เหตุการณ์เช่นนี้ คือการสร้างสถานการณ์ของผู้ชุมนุม เพื่อให้เกิดการทำรัฐประหารหรือ

4. เชื่อว่า รัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชุดปัจจุบันก็ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และตัวพลเอก ประยุทธ์เองก็ไม่ได้มาจาการเลือกตั้ง ทั้งที่การให้พรรคการเมืองระบุว่าจะเสนอชื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 3 ชื่อ ก่อนการเลือกตั้ง ต่างจากการเสนอชื่อผู้ที่จะเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อตรงไหน และพรรคพลังประชารัฐก็ได้คะแนนเสียงที่เป็น popular vote เป็นอันดับ 1 แต่มีจำนวนส.ส.เป็นอันดับ 2 ที่จะมีข้อตำหนิก็ตรงที่ให้อำนาจ ส.ว.ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้งสามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้เท่านั้น

5. เชื่อว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชาโง่ ทั้งที่พลเอก ประยุทธ์สอบได้ที่ 1 จากโรงเรียนวัดนวลนรดิศ และสอบเข้าเตรียมทหารได้ ไต่เต้าขึ้นจนได้เป็นผบ.ทบ. ผู้ที่บอกว่าพลเอก ประยุทธ์โง่ เคยสอบได้ที่ 1 ไหม เคยสอบเข้าเตรียมทหารหรือไม่ หากจะโจมตีพลเอก ประยุทธ์ น่าจะโจมตีเรื่องความไม่เหมาะสมในการเป็นนายกรัฐมนตรี หรือหาข้อมูลเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นหากมี มาโจมตีมากกว่า

6. ผูกขาดความถูกต้อง ยึดความเชื่อเป็นความจริง มองว่าตัวเองฉลาดและทันโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว ดังนั้นจึงมองว่าความเห็นของฝ่ายตรงข้ามซึ่งไม่ตรงกับของตัวเอง เป็นความเห็นที่ผิด และล้าสมัยเสมอ เช่น มีความเชื่อตามที่มีการปั่นว่า สังคมไทยต้องไม่มีความเหลื่อมล้ำ ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน สถาบันพระมหากษัตริย์คือต้นแบบของความไม่เท่าเทียมกัน และยังเป็นสถาบันที่ไม่เป็นประโยชน์ การคงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีของประชาชน  มีความโกรธแค้น เกลียดชังสถาบันพระมหากษัตริย์ราวกับเป็นความแค้นส่วนตัว ซึ่งความจริงความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริงเป็นเพียงวาทกรรม ไม่มีอยู่จริงในโลก

ต้องขอบอกไว้เลยอีกครั้งว่า ในการเลือกตั้งปี 2562 ผมไม่ได้เลือกพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้เลือกพรรครวมพลังประชาชาติไทย และแน่นอนว่า ไม่ได้เลือกพรรคเพื่อไทย   ผมไม่เคยเชียร์พลเอก ประยุทธ์ และไม่เคยคิดว่าพลเอก ประยุทธ์เหมาะจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็ไม่ต้องการให้ระบอบทักษิณกลับมาอีก จึงยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกพรรคใดดีในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ไม่ใช่ 3 พรรคข้างต้นแน่ๆ

มีคอมเมนต์หนึ่งบอกว่า หากระบอบประชาธิปไตยแบบปัจจุบันไม่สามารถทำให้เกิดรัฐบาลที่ดีได้ ทำไมไม่เสนอวิธีอื่นมาล่ะ ความจริงก็เคยเสนอแล้ว นั่นคือ ให้เลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง ไม่ต้องผ่านตัวแทน และแยกอำนาจบริหารออกจากอำนาจนิติบัญญัติอย่างเด็ดขาด คือส.ส.ทำหน้าที่ออกกฎหมายเท่านั้น และให้นายกรัฐมนตรีที่ได้รับเลือกตั้งมีความเป็นอิสระในการเลือกคณะรัฐมนตรีอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องมาพะวงเรื่องโควต้าของพรรค หรือของกลุ่มการเมืองใด แต่ก็คงไม่มีใครกล้าเขียนรัฐธรรมนูญแบบนี้

ในอนาคตอีกไม่นาน พวกเราคงต้องทำใจ คนที่มีคุณลักษณะ 6 ประการข้างต้นคงจะมีบทบาทในสังคมและในการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้พวกเขายังไม่ใช่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่วันหนึ่งพวกเขาจะเป็น หวังว่าเมื่อมีอายุมากขึ้น  ประสบการณ์มากขึ้น พวกเขาจะเปลี่ยนไปจากเดิม มากบ้างน้อยบ้างก็ยังดี เพื่อความขัดแย้งในประเทศจะได้มีน้อยลง ประเทศเราจะได้มีความน่าอยู่กว่านี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เพื่อไทย' ไม่ฟังเสียงต้าน! ดันทุรังเข็น 'กิตติรัตน์' นั่งปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า รัฐบาลที่มาจากพรรคเพื่อไทยตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน

จับตา! ปม 'นักโทษเทวดา' จุดตาย 'ทักษิณ-เพื่อไทย'

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เป็นเพราะคุณไพบูลย์ นิติตะวัน โปรโมตเรื่องหมัดเด็ดที่อาจจะทำให้พรรคเพื่อไทยล่มสลายดีเกินไป

ต้องไม่ยอมมัน! อดีตรองอธิการบดี มธ. ปลุกขวางแก้ รธน. ทำลายความถูกต้อง-เป็นธรรม

ความพยายามในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราครั้งนี้ หากทำได้สำเร็จ จะเป็นลดความสำคัญของความซื่อสัตย์สุจริต และมาตรฐานทางจริยธรรม

ผู้ว่าฯธปท.จบจากที่ไหน 'นักวิชาการ' แนะดูคลิปแล้วจะตัดสินได้เองว่าสมควรเชื่อใคร

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า s

หยาม 'มาดามแพ' ไม่ได้เขียนนโยบายเอง ไร้วิสัยทัศน์ มีแต่พรรณนา กังขาผุด 'กาสิโน' ทำเลทอง

'อ.หริรักษ์' เชื่อนโยบายรัฐบาลผู้เขียนคงไม่ใช่ตัว'แพทองธาร' ภาพรวมไม่ต่างรัฐบาลชุดก่อนคือไม่มีวิสัยทัศน์ มีแต่การพรรณนา ชี้ entertainment complex จุดหมายที่แท้จริงคือ casino ในทำเลทอง ส่วนอื่นๆเป็นเพียงส่วนประกอบ 'ดิจิทัลวอลเล็ต'งวด3คงไม่ได้แจกเพราะคงอยู่ไม่ถึง

อดีตรองอธิการบดี มธ. ห่วง ‘ภูมิธรรม’ คุมเหล่าทัพ ตัวเร่งรัฐประหารในอนาคตอันใกล้

การส่งคุณภูมิธรรมไปนั่งเป็นผู้บังคับบัญชาของกองทัพทั้ง 3 เหล่า เหมือนกับเป็นการบอกว่า อำนาจอยู่ที่ฉัน ฉันจะเลือกใครเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็ได้