'ดร.ไตรรงค์' รับช็อกข่าวปริญญ์ทำทุกข์ใจมาก พร้อมให้สตินักการเมืองอาวุโสในพรรคต่างๆ

25 เม.ย.2565 - ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัว โดยมีเนื้อหาดังนี้ ผมทำอะไรไม่ได้อยู่หลายวัน เพราะเฝ้าแต่ถามว่า #ทำไม ข่าวของคุณปริญญ์ทำให้ผมตกอยู่ในอาการช็อคและทำให้ผมทุกข์ใจมาก ก็เพราะคุณปริญญ์เป็นลูกชายของเพื่อนรักของผมคือ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ครอบครัวเรารู้จักกันดี ภรรยาก็รู้จักกัน ลูก ๆ ก็รู้จักกัน ท่านใดที่เป็นพ่อคนเป็นแม่คน คงจะพอเดาได้ไม่ยากว่า คนเป็นพ่อแม่ของลูกจะรู้สึกอย่างไร ไม่ว่าลูกของตนจะอยู่ในฝั่งผู้เสียหายหรือผู้ก่อเหตุก็ตาม พ่อและแม่ทุกข์ใจกันทุกคน ไม่มีใครควรจะซ้ำเติมใคร เราควรให้ความเห็นใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่กันและกันจะดีกว่า

สิ่งที่ผมจะพูดดังต่อไปนี้ จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับกรณีของคุณปริญญ์ เพียงแต่ว่ากรณีของคุณปริญญ์ทำให้ผมฉุกคิดเกี่ยวกับท่าทีและความรู้สึกนึกคิดของนักการเมืองอาวุโสทั้งหลายที่มีบทบาทอยู่ในเมืองไทย บางคนนั้นมี #ทัศนคติผิดๆ ต่อคนที่เคยไปเรียนในต่างประเทศอยู่หลายประการดังนี้

พวกเขามักจะมีทัศนคติที่เข้าใจว่าใครก็ตามที่เคยเรียนเมืองนอก เมื่อกลับมาเมืองไทยแล้วสามารถพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วเหมือนฝรั่งพูด บุคคลนั้นต้องเป็นคนเก่ง ซึ่งตามความจริงแล้ว #การพูดภาษาอังกฤษเก่งมิใช่ตัววัดความเก่ง เลย (นอกซะจากคุณจะอยู่ในสายอาชีพที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เช่น มัคคุเทศก์)

ถ้าใครโชคดี เกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่มีศักยภาพ สามารถส่งลูกไปเรียนเมืองนอกได้ตั้งแต่เขาอายุ 10 ขวบ ถ้าเขาสามารถเรียนต่อจนจบปริญญาตรี โท หรือ เอก ก็หมายความว่าเขาต้องใช้เวลาอยู่ที่เมืองนอกเกือบ 20 ปี หากเป็นเช่นนี้ ถ้าเขาไม่เป็นใบ้ เขาก็ต้องพูดภาษาอังกฤษได้เก่งและคล่องแคล่วเหมือนฝรั่งพูด สิ่งนี้ไม่ได้ชี้วัดแต่อย่างใดว่าเขาเป็นคนเก่ง ฝรั่งขอทานไร้บ้านที่นอนอยู่ตามข้างถนนทั่วทั้งอเมริกาและอังกฤษก็พูดภาษาอังกฤษได้เก่งและคล่องแคล่ว แต่เราก็ไม่อาจชื่นชมว่าคนเหล่านี้มีความเก่งกาจได้

เด็กไทยทุกคนสามารถพูดภาษาไทยได้คล่องแคล่ว มิได้หมายความว่าเด็กไทยเหล่านั้นเป็นเด็กที่เก่งกว่าเด็กเขมรที่พูดไทยไม่ได้ฉันใดก็ฉันนั้น

ทัศนคติที่ผิดอีกอย่างก็คือ การเข้าใจเอาเองว่าถ้าใครก็ตามที่เคยไปเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อในอเมริกาหรือในอังกฤษ หากใครคนนั้นจบปริญญาตรี โท หรือ เอก กลับมา เขาจะต้องเป็นคนเก่งน่ามอบหมายให้บริหารบ้านเมือง แต่ตามความจริงแล้ว ใครก็ตามถ้ามหาวิทยาลัยดัง ๆ ทั้งหลายรับให้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยของเขาได้ ทุกคนก็สามารถเรียนจบได้ทั้งนั้นแหละครับ ถ้ามีความอึด เพียงพอเสียอย่าง แต่ข้อเสียที่ถูกมองข้ามไปคือคนเหล่านี้เมื่อเข้ามาทำงานในเมืองไทยพวกเขาจะเป็นคน #หลงตัวหัวสูง #arrogant คิดว่าตัวเองเก่งฉลาดกว่าคนอื่นๆ จึงเป็นพวกที่จะไม่ค่อยฟังความเห็นต่าง ชอบดันทุรังไม่ฟังใคร ถ้าคนเช่นนี้เป็นผู้นำไม่ว่าในทางการเมืองหรือทางราชการ ก็อาจจะเป็นภัยต่อส่วนรวมได้ (แต่ต้องหมายเหตุว่า การหลงตัวหัวสูงเช่นนั้นมิได้เกิดขึ้นกับทุก ๆ คน อยู่ที่สิ่งแวดล้อมและสันดานของแต่ละคนด้วย)

สิ่งที่น่าเป็นกังวลเป็นอย่างยิ่งคือ นักการเมืองอาวุโสหลายคนที่มีทัศนคติผิดๆ ตามที่ผมกล่าวไว้ข้างต้น บางคนยังให้น้ำหนักแก่ความเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง มากกว่าการมีประสบการณ์ในทางการเมืองและการบริหารประเทศ ทำให้ทัศนคติในการประเมินคุณค่าของคนนั้นผิดเพี้ยนซ้ำร้ายยิ่งขึ้นไปอีก

เรื่องประสบการณ์นี้ มองข้ามไปไม่ได้เลยนะครับ จริงอยู่ว่าเราต้องการคนรุ่นใหม่ที่มีไฟ มีแนวคิดใหม่ๆ แต่ประสบการณ์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก บางคนเรียนมาตามหลักสูตรของฝรั่ง แม้ว่าจะเรียนเก่งมาก ก็ใช่ว่าจะบริหารเก่ง เพราะสิ่งที่เขาเรียนมาอาจมีบริบทที่แตกต่างจากความเป็นจริงในเมืองไทย #ความใหม่ไฟแรงต้องทำงานเคียงข้างความมีประสบการณ์ ครับ มันถึงจะเป็นการเติมเต็มให้แก่กันและกันอย่างลงตัว

ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์ เคยพูดกับผมว่า “พวกที่เรียนหนังสือเก่ง ๆ มักจะขลุกอยู่แต่ในห้องสมุดและวุ่นอยู่กับการคำนวณตัวเลข โดยพวกเขามักจะไม่สนใจวิชาอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับความเป็นผู้นำ เช่น ไม่สนใจศึกษาวิชาด้านรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และวิชาจิตวิทยา เป็นต้น พวกคนเหล่านี้จึงเหมาะจะเป็นได้แค่นักวิจัย หรืออาจารย์สอนหนังสือ ถ้าให้คนเหล่านี้เป็นผู้นำองค์กรใด ๆ ก็มักจะทำงานออกมาได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร”

วันนี้ผมเลยมาชวนคิดครับ ผมหวังว่าบทความนี้จะพอเป็น #สติ ให้แก่นักการเมืองอาวุโสในพรรคการเมืองต่าง ๆ ได้บ้าง ช่วยให้ท่านคิดให้รอบ มองให้ทุกมิติ และยึดประโยชน์ของประเทศเป็นหลักในการแต่งตั้ง มอบหมาย ฝากฝังความรับผิดชอบในการดูแลประชาชนให้แก่ใครครับ

ผมขอเรียนว่าความเห็นที่ลงในเฟซบุ๊ก เป็น #ความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรคปชปแต่อย่างใด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘สรรเพชญ’ เบรก รบ.อย่าคิดขายชาติ ย้อน ‘พท.’ อย่าถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเองซ้ำอีก

นายกรัฐมนตรีที่ได้รับสมญานามว่าเป็น เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ที่มีความต้องการดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งทำให้สังคมเกิดความสงสัยเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนหรือต้องการเอื้อผลประโยชน์ให้กับใครหรือไม่

เปิดใจ 'ชวน' วางมือการเมืองหรือลงเลือกตั้งต่อ? เชื่อ 'อภิสิทธิ์' ไม่ไปไหนรอกลับมาช่วย ปชป.

นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานรัฐสภากล่าวถึงอนาคตทางการเมืองของตัวเอง หลังเป็นส.ส.มา 17 สมัยติดต่อกัน หลังมีกระแสข่าวทั้งพรรคประชาธิปัตย์อาจไม่ส่งนายชวน ลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าและกระแสข่าวเตรียมวางมือทางการเมือง

ปชป. ถาม 'เศรษฐา' ทำไมไม่รู้จักรดน้ำพรวนดินเศรษฐกิจ

นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) และอดีตสส.กทม. กล่าวว่าจากการอภิปรายกฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี 68 พรรคประชาธิปัตย์และหลายฝ่ายได้แสดงความเป็นห่วง พูด

ฝ่ายค้านมีมติไม่รับหลักการ 'งบ 68' วาระแรก ร่าย 3 เหตุผล

ฝ่ายค้านมีมติไม่รับหลักการงบ 68 วาระแรก เหตุรัฐบาลเบียดบังงบ ดัน 'ดิจิทัลวอลเล็ต' เกินไป ชี้ยังให้โอกาสปรับถึงวาระสาม ขืนดื้อดึงขู่ร้องศาลสั่งระงับ 'ปกรณ์วุฒิ' มั่นในไม่มี สส.ก้าวไกล โหวตสวน

'ชัยชนะ' ตอกย้ำรัฐบาลนักวิ่งราว บี้นายกฯ ปรับสูตรอุดหนุนงบท้องถิ่น

'ชัยชนะ' ย้ำรัฐาลจัดงบ 68 เหมือนวิ่งราวทรัพย์ เตือนกู้แล้วเก็บระวังเข้าข่ายปล้น กระทุ้งอุดหนุนท้องถิ่นไม่เหมาะ แนะนายกฯ ปรับสูตร ส่วนกลาง 60 ท้องถิ่น 40