เปิดบันทึกถ้อยคำ 2 ฉบับมัด 'สมพร-ชนาพรรณ' รู้ น.ส.3 ก. อยู่ในป่าสงวนฯก่อนซื้อที่ดิน!

1 เม.ย.2565 - จากกรณีที่กรมที่ดินมีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ น.ส. 3 ก. ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และบุตรอีก 2 คนคือ นางสาวชนาพรรณ และนายธนาธร เนื่องจากพบว่าเป็นที่ป่าไม้ถาวร

ล่าสุดวันนี้นางสมพร ได้ชี้แจงว่า รู้สึกเสียใจอย่างมากที่สังคมและสื่อต่างๆ ไปพาดหัวว่าตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจรุกที่ป่า กินป่า เพราะนี่เป็นข้อหาที่ร้ายแรงสำหรับตนเองและครอบครัว ที่ทำมาหากินสุจริตและตั้งใจช่วยเหลือสังคมอย่างเต็มกำลังมาโดยตลอด และขอโอกาสชี้แจง เพื่อให้สังคมให้ความเป็นธรรม

ส่วนกรณีที่มีสื่อบางสำนักเสนอข่าวว่านางสมพรเคยมีบันทึกกับกรมที่ดินว่ารับทราบอยู่แล้วว่า ที่ผืนนี้เป็นที่ป่า นางสมพร อ้างว่า เอกสารฉบับนี้เนื้อหาระบุแค่ว่าตนรับทราบว่าที่ดินแปลงนี้อาจเป็น หรือไม่เป็น ที่ป่าไม้ถาวรก็ได้ บันทึกถ้อยคำดังกล่าว สำนักงานที่ดินทำไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนฟ้อง ถ้ามีการเพิกถอนสิทธิในภายหลัง ซึ่งในกรณีนี้ กรมที่ดินเองก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ป่าหรือไม่ แล้วตนเองเป็นราษฎรธรรมดาจะทราบได้อย่างไร

“ฉันมีที่ดินผืนนี้มา 30 ปีไม่เคยมีปัญหาอะไร จนกระทั่งลูกชายมาทำงานการเมือง ลูกก็โดนยัดคดีร้ายแรงให้สารพัด ส่วนตัวฉันเองก็โดนร้องเรียนว่ารุกป่า กินป่า เป็นเรื่องเป็นราวเป็นคดีใหญ่โต ฉันยืนยันตรงนี้ว่าที่ผืนนี้ ถึงจะซื้อมาถูกกฎหมายทุกประการ มีเอกสารสิทธิ์เรียบร้อย แต่อยู่มาวันหนึ่งรัฐบอกว่าผิด จะเพิกถอน ฉันไม่มีปัญหา แต่ต้องไปพิสูจน์ถูกผิดกันตามกฎหมาย ถ้าออกมาว่าเป็นป่าจริง ฉันยินดีคืนที่ให้ แต่อย่ามากล่าวหาว่าครอบครัวฉันโกงบ้านโกงเมืองเด็ดขาด”

ก่อนหน้านี้เมื่อ 5 มี.ค. 2564 สำนักข่าวอิศรา ได้เผยแพร่บันทึกถ้อยคำ 2 ฉบับที่ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ซื้อที่ดินกับผู้ขายที่ดิน รับทราบต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ว่า น.ส.3 ก.อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่ยืนยันจดทะเบียนนิติกรรมซื้อขายที่ดิน มีรายละเอียดดังนี้

ฉบับแรก บันทึกถ้อยคำ ของ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ระบุว่า

“ตามที่ข้าพเจ้าทั้งสองฝ่ายได้ยื่นคำขอจดทะเบียนและนิติกรรม ขาย ที่ดิน แปลงเครื่องหมายดังกล่าวข้างบนนี้ ข้าพเจ้าทั้งสองฝ่ายทราบแล้วว่าที่ดินแปลงนี้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติหรืออาจจะอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ

ตามหนังสือกรมที่ดินที่ มท.0700/ว.2064 ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2529 เรื่องการจดทะเบียนเกี่ยวกับที่ดินที่ยังมีปัญหาสงสัยว่าหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินนั้นจะออกไปโดยไม่ชอบ ข้อ 2 ความว่า ‘ถ้าเป็นกรณีที่ยังมีปัญหาหรือข้อสงสัยว่าการออกหนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดินนั้นได้ออกไปโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผู้มีอำนาจในการสั่งแก้ไขหรือเพิกถอนหนังสือแสดงสิทิในที่ดินยังพิจารณาไม่ยุติ ก็ให้พนักงานเจ้าหน้าที่รับจดทะเบียนนสิทธิและนิติกรรมใดๆ ต่อไปได้ แต่ก่อนจดทะเบียนให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้คู่กรณีทราบถึงเหตุที่หนังสือแสดงสิทธิในที่ดินนั้นอาจจะถูกแก้ไขหรือเพิกถอน หากคู่กรณีทราบแล้วแต่ยังประสงค์จะจดทะเบียนก็ให้บันทึกถ้อยคำไว้แล้วจดทะเบียนต่อไปได้’

“พนักงานเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ข้าพเจ้าทั้งสองฝ่ายทราบข้อความข้างต้นแล้ว และที่ดินแปลงดังกล่าวนี้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติหรืออาจจะไม่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จึงอาจจะถูกแก้ไขหรือเพิกถอนได้ ข้าพเจ้าทั้งสองฝ่ายมีความประสงค์ขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วย หากมีการแก้ไขหรือเพิกถอนหรือเกิดการเสียหายไม่ว่ากรณีใดๆ เกี่ยวกับที่ดินแปลงนี้ ข้าพเจ้าทั้งสองฝ่ายขอรับผิดชอบเองทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวกับพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและทางราชการที่จะต้องรับผิดชอบแต่อย่างใด” (ดูเอกสาร)

pictanananaaa3 5 64

เอกสารบันทึกถ้อยคำ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ

picatattataa230039630633 3 64

ฉบับเต็ม (ด้านล่าง)

picatattataa036039630633 3 64

ฉบับที่สอง บันทึกถ้อยคำ ของ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ วันที่ 19 มิ.ย.2540 ระบุว่า

“ตามที่ข้าพเจ้าทั้งสองฝ่ายได้ยื่นขอจดทะเบียนขายที่ดินแปลงเครื่องหมายข้างบนนี้ ข้าพเจ้าได้ตรวจบริเวณที่ดินแปลงนี้จากระวางรูปถ่ายทางอากาศ หมายเลข 4836 // แผ่นที่ 104 ซึ่งในระวางฯ ระบุว่า ที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติหมายเลข 85 และเจ้าหน้าที่แจ้งให้ข้าพเจ้าทั้งสองฝ่ายทราบแล้วว่า หลักฐาน น.ส.3ก. ฉบับดังกล่าว อาจออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งต่อไปทางราชการอาจดำเนินการแก้ไขหรือเพิกถอน น.ส.3 ก. ได้ ซึ่งทำให้การซื้อขายที่ดินครั้งนี้เป็นโมฆะ ข้าพเจ้าทั้งสองฝ่ายทราบและเข้าใจดีแล้วแต่ข้าพเจ้าขอยืนยันให้พนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนขายที่ดินให้ข้าพเจ้าครั้งนี้ได้ หากเกิดการเสียหายใดๆ ขึ้นเกี่ยวกับการนี้ ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบเองทั้งสิ้นไม่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด" (ดูเอกสาร)

picatattataa0096339630633 3 64

ฉบับเต็มด้านล่าง

picatattataa0096396339630633 3 64

ขอบคุณข้อมูลจากสำนักข่าวอิศรา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับตาฟ้อง 9 บิ๊กมท.คดีที่ดินเขากระโดง แค่ประเดิมเท่านั้น ยังมีผู้เกี่ยวข้องต้องรับผิดอีกมาก

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย นักวิจารณ์การเมือง โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน ฟ้องข้าราชการ กระทรวงมหาดไทย รวม 9 คน ในคดีที่ดินเขากระโดง ต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ว่า

เอาแล้ว!เรื่องถึงศาลฯ 'ณฐพร' ฟ้องกราวรูด 'บิ๊กขรก.มหาดไทย' เซ่นที่ดินเขากระโดง

นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า "วันนี้ยื่นฟ้องคดีที่ดินเขากระโดง ต่อ ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลนัดตรวจฟ้องและพยานหลักฐานวันที่ 9 ธันวาคม เวลา09.30 น."

'ณฐพร' ซัด 'มหาดไทย' ยุค 'ศรีธนญชัย' ฟันธง 'ที่ดินเขากระโดง' จะถูกโทษเช่นเดียวกับคดีจำนำข้าว

ดร.ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยแพร่ข้อความกรณี กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง ว่า

'อนุทิน' ยันไม่คิดเอาคืนใคร ปมที่ดินเขากระโดงอย่าโยงการเมือง ไม่อย่างนั้นก็หมดสภาฯ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงข้อพิพาทพื้นที่เขากระโดงระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมที่ดิน ซึ่งกระทรวงคมนาคมยืนยันสิทธิ์ตามกฎหมาย

ให้จริง! กมธ.ที่ดินฯ ลุยสอบปมที่ดิน 'เขากระโดง' โวลั่นไม่หวั่นภูมิใจไทยเล่นเกมสกัด

นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน ฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทน