เปิดฉาก 'วงรอบสงครามใหม่' นายพลคนดังฟันธง 'ยูเครน' เป็นต่อ 'รัสเซีย'

28 มี.ค.2565 - พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) และอดีตรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยมีรายละเอียดดังนี้

สงครามยูเครนพ้น 30 วันเข้าวันที่ 1 วงรอบสงครามใหม่ เริ่มพิจารณาข้อมูลในบทใหม่กันครับ

ผมไม่ใช่คนเข้าข้างใครแบบหัวปัก หัวปำ ไม่ได้เรื่องก็วิจารณ์ แบบกรณีชาติยุโรปตะวันตกที่ห่วงแก๊สมากกว่าชีวิตมนุษย์ เป็นต้น

คนเป็นกลาง ชาติเป็นกลางจริง ๆ จะทำได้ต่อเมื่อมีกำลังทหารและกำลังทางเศรษฐกิจใหญ่พอนอกนั้นคือเป็นกลางแค่คำพูดแต่เป็นบริวารของฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งเท่านั้น

ดังนั้นเมื่อเห็นชาวยูเครนถูกรุกรานผมจึงเข้าข้างประชาชน เข้าข้างผู้ถูกรังแกก่อนโดยไม่ลังเล ไม่คอยเก็งว่าจะเลือกเข้าข้างคนชนะเพื่อเอาไว้คุยโม้ แล้วตอนนี้บอกเป็นกลางก่อน

ข่าวแนะนำ

30 วันที่ผ่านมาและก่อนหน้านั้นที่ไม่มีใครเชื่อว่ารัสเซียจะบุกยูเครน ผมยืนยันว่าบุกแน่ ใคร ๆ ก็เชื่อว่าชาวยูเครนจะยอมรัสเซียแน่ ผมไม่เชื่อเพราะรู้ความคิดชาวยูเครนและชาวยุโรปดี ไปจนถึงการรบที่หากชาวยูเครนไม่ยอมแพ้และรบเป็นก็จะชนะด้วยสงครามยืดเยื้อ และเชียร์ข้างสนามเรื่องรบแบบกองโจร ตัดเสบียง ใช้จรวดยิงเครื่องบิน ยิงรถถัง สุดท้ายคือจัดการอาวุธยิงระยะไกลให้ได้ รวมถึงต้องส่งอาหารให้ชาวยูเครนจากภายนอกให้ได้ด้วย

ทั้งหมดนี้มาจากพื้นฐานยุทธวิธีทางทหาร และยุทธศาสตร์สงครามการเมือง

ผ่านมาได้สามเดือนแล้ว ยังไม่มีผิดพลาด แต่จะไม่คุยโม้ว่าทายแม่น เพราะทุกฝ่ายปรับกลยุทธตลอดเวลา

มีเรื่องเดียวที่ต้องเตือนชาวยูเครนคือเมื่อศัตรูหยุดขอเจรจาอย่าได้หลงกลหยุดการสู้รบ เพราะจะทำให้หมดน้ำหนักในการต่อสู้ สุดท้ายจะโดนตีโต้กลับแพ้เอาได้

มีเหตุการณ์ในโลกมากมายที่กำลังได้เปรียบ แล้วหยุดชงักเพื่อการเจรจาเพราะไร้เดียงสา สุดท้ายโดนบดขยี้ไม่มีชิ้นดี

รบไป เจรจาไปสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เป็นเช่นนั้น จบด้วยการทหารทั้งนั้น เจรจาคือลงนามยอมแพ้หรือผู้นำเสียชีวิต

บทต่อไปจะวิเคราะห์ยากขึ้นเพราะชุลมุน รัสเซียจะปรับกำลังได้หรือไม่ ยูเครนจะหลงกลไหม นาโต้จะล่อเป้าได้แค่ไหน เพราะเป้าหมายจริงของรัสเซียไม่ได้หยุดที่ยูเครนเท่านั้นแน่นอน ทำได้หรือไม่ได้เท่านั้นครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ถึงสหรัฐ เตรียมประชุมเอกอัครราชทูต-กงสุลใหญ่ หารือภาคธุรกิจ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา