'ชวน' กรีด 7 แผลกระบวนการยุติธรรมไทย แนะยึดมั่นหลักธรรมาภิบาล

แฟ้มภาพ

26 มี.ค.2565 - นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “สภาพปัญหาของกระบวนการยุติธรรมไทยกับมุมมองของนักการเมืองต่อกระบวนการยุติธรรมไทย” ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง รุ่นที่ 26 จัดโดยสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม เมื่อ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดบนายชวน กล่าวว่า วันนี้เป็นการบรรยายถึงสภาพปัญหาของกระบวนการยุติธรรมไทยที่ได้เรียนรู้ และรับทราบจากประสบการณ์ของการทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นนักการเมือง ทั้งในฐานะที่เคยได้ทำหน้าที่ในส่วนของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร เพื่อถ่ายทอดมุมมองของนักการเมืองต่อกระบวนการยุติธรรมไทย โดยหลักสำคัญที่ต้องยึดเป็นหลักในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชน คือ หลักธรรมาภิบาล 6 ประการ ซึ่งเมื่อกล่าวถึงหลักธรรมาภิบาลแล้วจะพบว่าสภาพปัญหาของกระบวนการยุติธรรมไทย สามารถจำแนกได้ดังต่อไปนี้

นายชวน กล่าวต่อว่า 1.ปัญหาเกี่ยวกับระบบการบริหารงานยุติธรรม 2.ปัญหาเกี่ยวกับระบบการดำเนินคดีอาญา 3.ปัญหาเกี่ยวกับระบบการปฏิบัติต่อผู้กระทำความผิด 4.ปัญหาที่เกิดจากการปฏิบัติโดยไม่ชอบธรรมจากบุคคลในกระบวนการยุติธรรม

5.กระบวนการยุติธรรมขาดการมีส่วนร่วมและการสนับสนุนจากประชาชน 6.กระบวนการยุติธรรมขาดองค์ความรู้และศักยภาพในการพัฒนา และ 7.บุคลากรในกระบวนการยุติธรรมขาดจิตสำนึกและขาดทัศนคติที่ดีในการให้บริการความยุติธรรมแก่ประชาชน

นายชวน กล่าวอีกว่า จากสภาพปัญหาข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยประสบกับปัญหาสำคัญหลายประการ ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม ทั้งเรื่องกฎหมายบางฉบับที่ล้าสมัยและไม่สอดคล้องกับสภาพของสังคมไทยที่เปลี่ยนแปลงไป การใช้อำนาจในการออกกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ต่อคนเฉพาะกลุ่ม และปัญหาด้านการทุจริตคอร์รัปชันที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับคนส่วนใหญ่ในสังคม ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างรวดเร็ว เป็นธรรม และทั่วถึง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นการผลักดันให้เกิดการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปทางด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม

“การนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานได้ อีกทั้งยังเป็นกลไกในการควบคุมติดตามและตรวจสอบ โดยมีประชาชน หรือองค์กรภายนอกเข้ามามีส่วนร่วม ประกอบกับการยึดหลักคุณธรรม คือการยึดถือและเชื่อมั่นในความถูกต้องดีงาม มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีระเบียบวินัย ซึ่งผู้บริหารและข้าราชการทั้งฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำต้องตั้งใจปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่ โดยให้ความสำคัญกับผู้รับบริการหรือประชาชน นอกจากนี้ ต้องทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้ และร่วมเสนอความเห็นในการตัดสินใจเรื่องสำคัญของสังคม

ฉะนั้น จึงต้องปรับวิธีคิดโดยให้ทุกฝ่ายบูรณาการการทำงานร่วมกัน และนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้เพื่อให้งานบรรลุผลสำเร็จ รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนและประชาสังคมในกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น ส่งเสริมให้ประชาชนได้มีโอกาสรับรู้ข้อมูลข่าวสารและผู้ที่มีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนการรณรงค์ให้ประชาชนรู้สิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย และตระหนักถึงความสำคัญของกระบวนการยุติธรรมในฐานะเป็นกลไกหลักในการผดุงไว้ ซึ่งหลักนิติธรรมอย่างจริงจัง” นายชวน กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พ.ร.บ.นิรโทษกรรม' เสี่ยงโมฆะ! ขืนรวมความผิด 'ม.112-110'

'คารม' เตือน 'พ.ร.บ.นิรโทษกรรม' เสี่ยงโมฆะ ขืนรวมความผิด 'ม.112-110' ส่อขัดรัฐธรรมนูญ ยิ่งเพิ่มขัดแย้ง แนะผู้ถูกกล่าวหาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม พิสูจน์ความบริสุทธิ์ตัวเอง

'รัฐสภา' ไม่มีอำนาจรับรองวุฒิการศึกษา ปัดก้าวล่วงคุณสมบัติ สว.

'อาพัทธ์' โต้ 'สมชัย' รัฐสภาไม่มีอำนาจตรวจสอบ-รับรองวุฒิการศึกษา เผยต้องคุยฝ่ายกฎหมายก่อนเอาผิดได้หรือไม่ ปัดก้าวล่วงคุณสมบัติ สว.

'บิ๊กต่อ'ลั่นไขก๊อกก่อนเกษียณเป็นเรื่องอนาคตส่วนเรื่อง 'บิ๊กโจ๊ก' เราอยู่กันแบบพี่น้อง!

'บิ๊กต่อ' ย้ำไม่ได้มีความขัดแย้งกับ 'บิ๊กโจ๊ก' อยู่กันแบบพี่น้อง เผยการออกจากราชการก่อนเกษียณเป็นเรื่องของอนาคต

ประธาน กกต.แสลงคำว่า 'เลื่อน' บอกยังไม่ประกาศชื่อ สว.เพราะยังไม่เสร็จ!

ประธาน กกต.รับ ยังไม่ประกาศรับรอง สว.วันนี้ชี้ไม่ใช่การเลื่อนแต่ต้องพิจารณาคำร้องให้แล้วเสร็จ ย้ำหากสุจริตเที่ยงธรรมก็ประกาศได้