17 มี.ค.2565 - เวลา 18.54 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) ณ ห้องบำเพ็ญกุศล ชั้น 2 อาคาร 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงวัดบวรนิเวศวิหาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จขึ้นห้องบำเพ็ญกุศล ชั้น 2 อาคาร 100 ปี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะศพ ทรงกราบ จากนั้น สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงรับน้ำจากเจ้าพนักงาน ถวายน้ำสรงส่วนพระองค์ที่มือ ทรงกราบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับน้ำหลวงสรงศพจากเจ้าพนักงานพระราชพิธี ถวายสรงที่ทรวงอก ทรงกราบ ชาวพนักงานประโคม แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ
ต่อจากนั้น ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพวงมาลาส่วนพระองค์ และพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพวงมาลาส่วนพระองค์ เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าโกศศพ ทรงกราบ
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงทอดผ้าไตร จำนวน 10 ไตร พระสงฆ์ 10 รูปบังสุกุล ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าเตียงสวดพระอภิธรรม พระพิธีธรรม สวดพระอภิธรรม 1 จบ เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบพระพุทธรูปที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงกราบที่หน้าโกศศพ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร มีนามเดิมว่า จุนท์ พราหมณ์พิทักษ์ เกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2479 ที่จังหวัดตราด สำเร็จการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดคิรีวิหาร
อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด จากนั้นเข้าพิธีบรรพชาเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2491 ณ วัดคิรีวิหาร
อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด โดยมีพระวินัยบัณฑิต (ถาวร ฐานุตตโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้เข้าพิธี
อุปสมบท เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2499 ณ วัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระวินัยบัณฑิต (ถาวร ฐานุตตโร) วัดคิรีวิหาร อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด
เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูวิสุทธิธรรมภาณ (แจ่ม ธัมมสาโร) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังอุปสมบท
ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค จากสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) ปฏิบัติหน้าที่สำคัญ อาทิ เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต เป็นเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นผู้ตรวจสอบการคำนวณปฏิทินหลวง หรือ ปฏิทินจันทรคติไทย ก่อนประกาศใช้ในแต่ละปี และเป็นผู้อ่านพระอภิธรรมนำขบวนพระบรมราชอิสริยยศในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) อาพาธด้วยโรคมะเร็งถุงน้ำดี ได้รับการรักษา ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และมรณภาพ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม2565 สิริอายุ 85ปี พรรษา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พสกนิกรชาวไทยมุสลิมปลื้มปีติ 'ในหลวง' ทรงเปิดงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปทรงเปิด “งานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1446” พุทธศักราช 2568
ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชพิธีสงกรานต์
“ในหลวง-พระราชินี” เสด็จฯ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในการพระราชพิธีสงกรานต์ ประจำปี 2568
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในการพระราชพิธีสงกรานต์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลราชกุมาร ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในการพระราชพิธีสงกรานต์
ในหลวง พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกฯอินเดีย เฝ้าฯ ในโอกาสเยือนไทยเป็นทางการ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายนเรนทร โมที (Mr.Narendra Modi)
ในหลวง พระราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกฯเนปาล พร้อมภริยา เข้าเฝ้าฯ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายเค พี ศรรมะ โอลี (Mr. K P Sharma Oli)