“บิ๊กตู่” แจง “บิ๊กป้อม” พูดในมุมของตัวเอง ยืนยันยุบสภาขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ ทุกอย่างสถานการณ์เป็นตัวกำหนด ฝากพรรคเล็กทำงานร่วมกันต้องใจใหญ่และให้เกียรติซึ่งกันและกัน เมินถูกล้ม เชื่อทุกคนมีวุฒิภาวะที่ดีเพียงพอ
15 มี.ค.2565 - ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุภายหลังเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปคเดือนพ.ย.จะมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ว่า “เป็นเรื่องที่พล.อ.ประวิตรท่านเป็นคนพูดและท่านได้ชี้แจงให้ผมทราบแล้ว โดยพล.อ.ประวิตรพูดในมุมของท่านแต่ทั้งหมดเป็นเรื่องของนายกฯ ซึ่งพล.อ.ประวิตรพูดกับผมเมื่อสักครู่นี้” เมื่อถามว่า จะยุบสภาเมื่อไหร่ นายกฯกล่าวว่า เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เป็นเรื่องของนายกฯที่จะตัดสินใจ นายกฯก็ต้องเก็บไว้ก่อนเป็นเรื่องของนายกฯจะมาบอกก่อนทำไม ทำไมต้องรีบบอก
เมื่อถามว่าแสดงว่านายกฯมีระยะเวลาไว้ในใจแล้วหรือไม่ นายกฯกกล่าวว่า “สถานการณ์จะเป็นตัวกำหนดทั้งหมด ผมอยากให้ทุกคนคำนึงถึงว่าวันนี้อะไรสำคัญกว่าอะไร ประเทศชาติมีปัญหาสำคัญ ประชาชนเดือดร้อนถือว่าสำคัญกว่าอย่างอื่นหรือไม่ ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาตราบใดที่ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะที่ไม่ปกติคนไทยทุกคนจะรวมพลังกันในการต่อสู้เพื่อเอาชนะจนอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้ แล้ววันนี้เราจะแตกแยกกันไปถึงไหนกัน ปัญหาอะไรที่สามารถจะลดลงไปได้ก็ควรจะลดลงเสียบ้าง ขอร้องกันแค่นั้น ซึ่งตนก็ขอได้แค่นี้
เมื่อถามว่า อาจจะมีการปรับเปลี่ยนโดยอาจเลื่อนการจัดประชุมเอเปคหรือไม่พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่รู้ ยังไม่ทราบ เพราะยังไปไม่ถึงตรงนั้น ตอนนี้กำลังดูในเรื่องของการประชุมหลายอย่างด้วยกัน เพราะจะมีการประชุมระดับผู้นำ (บีมสเทค) ในระยะเวลาอันใกล้นี้และยังมีการประชุมกลุ่มจี ก็จะมีความต่อเนื่องไปจนถึงการประชุมเอเปค ซึ่งก็ต้องดูว่าจะประชุมได้หรือไม่ได้ จะประชุมกันอย่างไรก็แล้วแต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในรัสเซียและยูเครนขณะนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าในวันที่ 17 มี.ค.นี้ที่นัดกินข้าวกับพรรคร่วมรัฐบาลจะมีมิติอะไรเกิดขึ้นเป็นพิเศษหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เป็นการพูดคุยและเจอกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ซึ่งความจริงตนได้พูดคุยกับพวกเขาอยู่แล้ว และเจอกันหลายครั้งในสภา วันนี้ก็ถือว่าเป็นการมาเจอร่วมกัน ในฐานะที่เรามาร่วมแรงร่วมใจในการทำเพื่อประเทศชาติดีกว่า อย่างอื่นค่อยมาว่ากันที่หลัง
“ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีอะไรที่เป็นประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความไม่รักไม่สามัคคี ไม่ให้เกียรติกัน มันไม่ใช่ ผมให้เกียรติเสมอ ผมเจอท่านถ้าท่านอาวุโสน้อยกว่าผม ท่านก็สวัสดีผม ถ้าอายุมากกว่าผม ผมก็สวัสดีท่าน ผมไม่เคยคิดว่าผมเป็นนายกฯ เป็นสุดยอดเสียเมื่อไหร่ ให้เกียรติ”
เมื่อถามย้ำว่าไม่มีเรื่องที่พรรคเล็กเกิดความน้อยใจในตัวนายกฯใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “คนเรานั่นนะ มันก็ควรใจใหญ่ ทำตัวให้หัวใจมันใหญ่ขึ้นมาเสียหน่อย ไม่ใช่หัวใจเล็กหัวใจที่เราจะต้องรู้จักให้เกียรติซึ่งกันและกัน ให้อภัยซึ่งกันและกัน ถ้าเป็นคนที่ควรให้อภัย”
เมื่อถามว่า ระหว่างนี้คิดว่าการเมืองเป็นอุปสรรคในการทำงานของนายกฯหรือไม่พลล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ไปถามการเมืองเอาสิ ตนอยู่ฝ่ายบริหาร ให้ไปถามฝ่ายการเมืองนู้น เมื่อถามว่าในเรื่องการเช็คเสียงในสภารัฐบาลยังคงมีเสถียรภาพอยู่ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่าก็แล้วแต่เสียงในสภา ตนบังคับใครไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าคิดว่าทำแล้วประเทศชาติจะดีขึ้นก็แล้วแต่ท่าน
เมื่อถามว่าในการพูดคุยกับพรรคเล็กพล.อ.ประวิตรได้ถามกับตัวแทนพรรคเล็กว่ามีแผนที่จะล้มนายกฯหรือไม่ ตรงนี้วิตกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็ให้มาล้มเถอะไป ใครจะล้มก็ล้มไปเถอะ ผมไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ผมคิดว่าทุกคนมีวุฒิภาวะที่ดีเพียงพอ ผมให้เกียรติท่านทุกคนแล้วมันจะเกิดประโยชน์อะไรกับใครผมถามหน่อย วันนี้ผมทำงานมาเท่าไหร่อะไรสำเร็จมาบ้าง ไปเทียบดูก็ได้ ไปเทียบมาเลย 8 ปี 10 ปีที่ผ่านมาไปเทียบผลงานกับผมมาเลย ประชาชนไปแยกแยะเอาเองก็แล้วกัน”
ผู้สื่อข่าวถามว่าในมุมการทำงานของครม.มีอะไรต้องปรับเปลี่ยนหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าตนได้พูดคุยกับรัฐมนตรีทุกท่านทุกวันอยู่แล้ว นอกเหนือจากการประชุมครม.ทุกวันก็ได้ติดต่อกับทุกคนโดยตรง ตนส่งไลน์คุยกับพวกท่านเรื่องโน้นเรื่องนี้ รับไปดูแลได้หรือไม่ แล้วก็มีการตอบกลับมาว่าได้ดูไปถึงตรงนั้นตรงนี้แล้ว ตนไม่ได้นั่งเจอกันเพียงสัปดาห์ละครั้ง เจอกันทุกวันทุกกระทรวงมีเรื่องเข้ามาก็ส่งไปว่าให้ช่วยกันทำตรงนั้นตรงนี้หน่อยว่าจะทำอย่างไร อะไรที่ตนสามารถแนะนำได้ เพราะตนอยู่ข้างบนเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวงก็ได้ชี้แจงรายละเอียดแล้วว่าให้กระทรวงไหนทำอะไรไปแล้วบ้าง แล้วกระทรวงนี้ทำต่อแบบนี้ได้หรือไม่ ทุกอย่างต้องทำงานและบริหารแบบนี้ และยืนยันว่าถึงวันนี้ยังไม่มีเรื่องการปรับทัพหรือเสริมอะไรทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า ถือว่าการนัดรับประทานอาหารกับพรรคเล็กครั้งนี้ถือเป็นการฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนส่วนหนึ่งด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่มีอะไรหรอก ไปกินข้าว ไม่มีอะไร กินข้าวอย่างเดียว กินข้าวผิดด้วยหรือ เมื่อถามว่าเหมือนพล.อ.ประวิตรส่งสัญญาณอะไรบางอย่างหรือเปล่าพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี กินข้าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ม้วนเดียวจบ ‘อัครเดช’ ได้ 263,545 คะแนน รักษาเก้าอี้ นายก อบจ.เพชรบูรณ์ อีกสมัย
องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ แจ้งผลการนับคะแนนเลือกตั้ง นายก อบจ.เพชรบูรณ์ อย่างไม่เป็นทางการ(100%)
'เสี่ยชิต' ชนะขาด! นั่งนายกเทศมนตรีนครบุรีรัมย์ กวาด ส.ท. ยกทีมทั้ง 4 เขต
ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ 'อนุชิต เหลืองชัยศรี' คว้านายก ทน.บุรีรัมย์ คนแรก ชนะขาดได้ 1.7 หมื่นคะแนน 'กลุ่มคนบุรีรัมย์' กวาดยกทีมทั้ง 4 เขต 'ประเสริฐ เลิศยะโส' อดีต สส.บุรีรัมย์ รั้งบ๊วย แค่ 737 คะแนน
สรุปผลเลือกตั้ง นายก อบจ.ตาก ’อัจฉรา’ สะใภ้บ้านใหญ่ กวาด 98,601 คะแนน ชนะคู่แข่ง
นางอัจฉรา ทวีเกื้อกูลกิจ หรือ รองจอย ได้รับชัยชนะและได้เป็น นายก.อบจ.ตาก คนใหม่ แทนนายณัฐวุฒิ ทวีเกื้อกูลกิจ อดีต นายก.อบจ.ตาก ซึ่งเป็นพ่อสามี
อดีตประธานสภาฯ ฉะพ่อนายกฯมีสิทธิ์อะไรไล่พรรคร่วมกลางสัมมนาพรรคเพื่อไทย
ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า “พ่อนายกฯ เป็นใคร มีสิทธิ์อะไรไล่พรรคร่ว
‘หนู’ ลั่นฟังแค่ ‘อิ๊งค์’ ยันร่วมรัฐบาลเป็นไฟต์บังคับ ‘ทักษิณ’ พูดไม่นำพา
"อนุทิน" ลั่น! รับสัญญาณจากนายกฯ อิ๊งค์เท่านั้น ยันที่ "ทักษิณ" พูดไม่ได้หมายถึงรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย "ท่านทักษิณพูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก"
'อนุทิน' ยันไม่ใส่ใจคำพูด 'ทักษิณ' โชว์ห้าวตะเพิดพรรคร่วมฯ ขอฟังแค่นายกฯอิ๊งค์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวผ่านรายการข่าวเที่ยง ทางไทยพีบีเอส ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในการสัมมนาพรรคเพื่อ