ราชกิจจาฯ เผยแพร่ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ตำรวจอารักขาบุคคลสำคัญ

11 มี.ค.2565 - เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการเป็นข้าราชการตำรวจ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 31 (2) และมาตรา 48 (6) แห่งพระราชบัญญัติต ารวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 และมติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2565 จึงออกกฎ ก.ตร. ไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 กฎ ก.ตร. นี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ 2 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคหกของข้อ 2 แห่งกฎ ก.ตร. ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการเป็นข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2547

“ถ้าเป็นการรับสมัครบุคคลเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ที่มีความสำคัญซึ่งจำเป็นต้องกำหนดคุณสมบัติในเรื่องส่วนสูง และรอบอกที่เพิ่มขึ้นกว่าเกณฑ์ปกติที่กำหนด ตามข้อ 2 (9) (ข) หรือต้องกำหนดค่าดัชนีความหนาของร่างกาย(BODY MASS INDEX) เพื่อให้ได้ผู้ที่มีขนาดร่างกายเหมาะสมกับการปฏิบัติภารกิจของหน่วย เช่น การถวายความปลอดภัยองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ พระราชอาคันตุกะ การอารักขาบุคคลสำคัญอื่นๆ การปฏิบัติการเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุม การก่อการจลาจล การต่อต้านการก่อการร้ายสากลและการก่อการร้ายในเมือง หรือการรักษาความปลอดภัย ให้เสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาอนุมัติ พร้อมทั้งเหตุผลและความจำเป็นเป็นกรณีๆไป”

ให้ไว้ ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
ประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ

หมายเหตุ : เหตุผลในการประกาศใช้กฎ ก.ตร. ฉบับนี้ คือ เนื่องจากการรับสมัครบุคคลเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจเพื่อทำหน้าที่ที่มีความสำคัญ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจำเป็นต้องสรรหาบุคลากรมาปฏิบัติหน้าที่ได้ตามความเหมาะสมกับภารกิจและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเพื่อเป็นการลดขั้นตอนในการสรรหาบุคลากร ซึ่งจะทำให้กระบวนการดำเนินการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการเกิดความคล่องตัวมากขึ้น จึงจำเป็นต้องออกกฎ ก.ตร. นี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่าย' ยันไม่คาดหวังตำแหน่ง ผบ.ตร. หลังนายกฯอิ๊งค์เรียกเข้าพบ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยกรณีกระแสข่าวว่ามีการเดินทางเข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ว่า ตนถูกเรียกไป ขับเคลื่อนเรื่องยาเสพติดเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น