8 มี.ค.2565 - นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 มีนาคมของทุกปีเป็นวันสตรีสากล รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานสตรีมาโดยตลอด รวมถึงสนับสนุนให้สตรีได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ได้รับสิทธิประโยชน์จากการจ้างงาน มีความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงาน
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงานได้ขานรับนโยบายรัฐบาลดังกล่าวในการดูแลสิทธิประโยชน์ของแรงงานสตรีในหลาย ๆ ด้าน เพื่อส่งเสริมบทบาทสตรีและความเสมอภาคเท่าเทียม เป็นธรรม มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งสำนักงานประกันสังคมได้มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ กองทุนประกันสังคม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 โดยเพิ่มค่าคลอดบุตรจากเดิม 13,000 บาท เพิ่มเป็น 15,000 บาทค่าสงเคราะห์บุตรจากเดิมเดือนละ 600 บาท เพิ่มเป็นเดือนละ 800 บาท ค่าฝากครรภ์ตามเกณฑ์คุณภาพ จากเดิม 1,000 บาท เพิ่มเป็น 1,500 บาท รวมทั้งการตรวจสุขภาพ ตรวจสุขภาพเต้านม ตรวจมะเร็งปากมดลูกฟรีให้แก่ผู้ประกันตนและการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคกรณีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อการคุ้มครองดูแลแรงงานสตรีให้เข้าถึงหลักประกันทางสังคม
เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และมาตรการความปลอดภัยทางสาธารณสุขของภาครัฐทำให้ในปีนี้กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานไม่ได้จัดงาน “วันสตรีสากล”เพื่อเชิดชูและยกย่องเหล่าสตรีที่เป็นเสมือนกำลังหลักที่สร้างคุณค่าและความสำเร็จให้กับธุรกิจต่างๆ แต่ก็ไม่หยุดในการส่งเสริมพลังของสตรี ไม่หยุดที่ยกย่องความยิ่งใหญ่ของผู้หญิง กระทรวงแรงงานได้ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งในปีนี้ได้จัดให้มีการประกวดผลิตสื่อเพื่อการสื่อสารกับสังคมในหัวข้อ “พลังสตรีพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทย”โดยรับผลงานตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 25 มีนาคมนี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามได้ที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
"เนื่องในวันสตรีสากลในปีนี้ ผมขอเป็นกำลังใจให้แก่ผู้หญิงทุกคน นอกจากมีหน้าที่ดูแลครอบครัวแล้ว ยังมีศักยภาพ มีพลังความสามารถที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงแรงงานจะดูแลคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้ได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม ยกระดับคุณภาพชีวิต และเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันต่อไป” นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พิพัฒน์' รมว.แรงงาน ห่วงทายาทพนักงานกวาดถนนเทศบาลนครอ้อมน้อย ประสบเหตุถูกรถกระบะชนเสียชีวิต 2 ราย มอบประกันสังคม จ่ายเงินทดแทนกรณีตายในงาน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยและแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมมอบหมายให้ นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เร่งดำเนินการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่ทายาทผู้มีสิทธิ
"พิพัฒน์" ขออภัย APP SSO PLUS กู้เพื่อที่อยู่อาศัย ล่ม ! สั่งการปลัดฯ เร่งแก้ไข เกาะติดหลังผู้ประกันตนแห่ลงทะเบียน 1 พ.ย.67
1 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงโรงงานโดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำ “
"พิพัฒน์" แสดงความเสียใจ 4 แรงงานเสียชีวิตในอิสราเอล สั่งการปลัดประสานเอกอัคราชทูต อพยพแรงงานภาคเหนือ ไปทางภาคใต้ของอิสราเอล ด่วน
1 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ออกมาแสดงความเสียใจ กรณีแรงงานไทยเสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย จากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ว่า
“พิพัฒน์” ย้ำ ในเวทีรัฐมนตรีอาเซียน แรงงานไทยรุ่นใหม่ มีทักษะ รองรับงานท่องเที่ยว เทคโนโลยี เกษตรอัจฉริยะ พร้อมเป็นเจ้าภาพ ปี 69 ต่อจากสิงคโปร์
วันที่ 31 ตุลาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน
"พิพัฒน์” ห่วงใย เหตุการณ์ลูกจ้างถูกปั้นจั่นเฉี่ยวเสียชีวิตที่สมุทรปราการ มอบประกันสังคมเยียวยาทายาท 9.5 แสนบาท
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุลูกจ้างถูกปั้นจั่นเฉี่ยวชนเสียชีวิตในพื้นที่จัดเก็บสินค้าของการบินไทย บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์
ให้ไว!! ‘พิพัฒน์’ ชวนแรงงานอยากมีบ้าน ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน วงเงินไม่เกินคนละ 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำ เข้า App SSO Plus ขอสินเชื่อ เริ่ม 1 พ.ย.นี้
วันที่ 29 ตุลาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงข่าวดีสำหรับพี่น้องแรงงานที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมทั้งมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่ต้องการมีบ้านเป็นของตนเอง หรือเพื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัย