3 มี.ค.2565 - พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ครั้งที่ 1/2565 ผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม อาทิ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงคมนาคม สำนักงาน กปร. และกรุงเทพมหานคร
พลเอกประวิตร เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาด้านน้ำและเร่งขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำต่างๆ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญที่เป็นการบูรณาการจากหน่วยงานและภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้เกิดแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและเกิดความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน
การประชุมในวันนี้ ได้เห็นชอบการจัดลำดับเป้าหมายการขับเคลื่อนโครงการสำคัญ ในปี 66-67 จำนวน 469 รายการ ตามการจัดทำเกณฑ์การจัดลำดับความสำคัญ 5 ด้าน ได้แก่ 1.การแก้ปัญหาโดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ 2.ความสำคัญเชิงนโยบายของโครงการ 3.ความสอดคล้องแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 4.มูลค่าต่อหน่วยของโครงการ และ 5.ความสอดคล้องที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทั้งนี้ มอบให้หน่วยงานเร่งรัดการเตรียมความพร้อมโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณตามลำดับความสำคัญ รวมทั้งให้ สทนช. และสำนักงบประมาณ นำเป้าหมายโครงการสำคัญที่จัดลำดับความสำคัญแล้ว เป็นข้อพิจารณาในการจัดสรรงบประมาณด้วย
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังได้ให้ความสำคัญในการดำเนินงานโครงการภายใต้แผนหลักการบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เนื่องจากแผนหลักดังกล่าวเป็นแผนงานขนาดใหญ่ มีผลสัมฤทธิ์และผลกระทบต่อพื้นที่สำคัญของประเทศ รวมทั้งมีแผนงานย่อยและหน่วยงานดำเนินการจำนวนมาก และได้มีมติเห็นชอบร่างคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการภายใต้แผนหลักการบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนแผนดังกล่าวให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาการดำเนินงาน ซึ่งคณะทำงานประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานกำกับดูแลและหน่วยงานปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง รวม 23 ท่าน จาก 15 หน่วยงาน เพื่อกำกับ ดูแล เร่งรัด ติดตาม และขับเคลื่อนการดำเนินงานของโครงการภายใต้แผนหลักการบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างให้เกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมจนถึงขั้นตอนการก่อสร้าง รวมทั้งพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำและเขตคลอง เสนอต่อคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ อีกทั้ง การเชิญผู้แทนส่วนราชการหรือหน่วยงานภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องมาร่วมชี้แจงหรือให้ข้อมูลต่อคณะทำงานฯ ได้ตามความเหมาะสม
นอกจากนี้ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)ได้รายงานว่า ที่ประชุม ให้ความเห็นชอบในหลักการโครงการบำบัดน้ำเสียมีนบุรี ระยะที่ 2 ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี (ปี 66-69) ซึ่งจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พิจารณาในวันที่ 14 มี.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อบำบัดน้ำเสียได้ 42,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองต่างๆ ในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร เช่น คลองแสนแสบ คลองสามวา และคลองสองต้นนุ่น ในเขตมีนบุรี เขตคลองสามวา เขตคันนายาว และเขตสะพานสูง ครอบคลุมพื้นที่ 15.39 ตารางกิโลเมตร โดยรองนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กรุงเทพมหานครเร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เพื่อให้ประชาชนและผู้เกี่ยวข้องมีความเข้าใจและมีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการอันจะนำมาซึ่งความสำเร็จของโครงการที่เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พยากรณ์อากาศ 15 วันล่วงหน้า ลมหนาวพัดแรง ยาวถึงปลายเดือน
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 10 - 24 ม.ค. 68
ประกาศกรมอุตุฯ ฉบับ 5 อากาศหนาวลดฮวบ 3-7 องศา คลื่นลมแรงสูง 4 เมตร
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2568) ฉบับที่ 5
อุตุฯ เตือนมวลอากาศเย็นระลอกใหม่แผ่ปกคลุม อุณหภูมิลด 1-3 องศา ใต้ฝนฟ้าคะนอง
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศลาวตอนบนและเวียดนามตอนบนแล้ว
อุตุฯ เตือนอากาศเย็นถึงหนาว ยอดดอยมีน้ำค้างแข็ง ใต้ฝนฟ้าคะนอง 20-30%
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน และทะเลจีนใต้
'ภูมิธรรม' สั่ง ศปช. ถอดบทเรียนน้ำท่วมดินถล่มเชียงราย ทำแผนแม่บทเสนอนายกฯ
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะ ผอ.ศปช. ได้ติดตามสถานการณ์น้ำ
พยากรณ์อากาศ 15 วันล่วงหน้า เตรียมรับลมหนาวช่วงต้นปีใหม่
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 30 ธ.ค. 67 - 13 ม.ค. 68